หลาย ๆ คนคิดว่าอาการริดสีดวง เลือดออกนั้น คืออาการธรรมดา เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้หากเป็นริดสีดวง แต่หารู้ไม่ ว่าความจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้น เพราะริดสีดวง เลือดออก เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าอาการนั้นเริ่มจะไม่ดีแล้ว รีบปรับปรุงตัวด่วน!! ริดสีดวง เลือดออกบ่งบอกอะไรบ้าง สำหรับภาวะริดสีดวง เลือดออกนั้น ไม่ใช่ภาวะปกติของอาการเป็นริดสีดวง แต่อาจจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่า พฤติกรรมของคุณในตอนนี้ ไม่ได้จะช่วยให้หายจากการเป็นริดสีดวงแน่ ๆ และในริดสีดวงที่มีเลือดออกนั้น มีโอกาสสูงมากที่จะพัฒนาระดับ จาก 2 ไป 3 และจาก 3 ไป 4 ในที่สุด ซึ่งในระดับที่ 4 ก็จะเสี่ยงกับอาการริดสีดวงอักเสบ ที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนอีกมากมายตามมา และวิธีการรักษาก็จะไม่ง่ายแล้วนับจากนี้ สาเหตุที่ทำให้ริดสีดวง เลือดออกได้มีอะไรบ้าง 1. พฤติกรรมการใช้ชีวิต แน่นอนว่าริดสีดวงนั้น เป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรม ที่เกิดขึ้นเพราะพฤติกรรม หายได้ด้วยการปรับพฤติกรรม และรุนแรงได้ด้วยการละเลยพฤติกรรม หากคุณรู้ตัวแล้วว่าเป็นโรคริดสีดวง แต่เลือกที่จะไม่สนใจ และใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ เข้าส้วมนาน ๆ เบ่งแรง ๆ ทานแต่อาหารที่ไม่กากใย ของย่อยยาก ๆ สุดท้ายแล้วสิ่งเหล่านี้จะทำให้ริดสีดวงของคุณเลือดออกได้ทั้งหมด โดยเฉพาะการเบ่งแรง เพราะจะทำให้เลือดคั่งสะสม จนวันนึงปลิแตกออกมานั่นเอง 2. ริดสีดวงอักเสบ อาการริดสีดวงอักเสบนั้น แม้จะยังไม่ถึงกับแตก แต่ก็อาจจะมีเลือดซึมออกมาจากริดสีดวงได้บางจุด ในกลุ่มที่ริดสีดวง เลือดออกจากภาวะอักเสบนั้น ควรทำการเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะเป็นสัญญาณที่บอกได้ว่าใกล้จะแตกเต็มทีแล้ว 3. ริดสีดวงแตก หนึ่งในสิ่งที่ควรเป็นริดสีดวงควรจะหลีกเลี่ยงให้เกิดขึ้นมากที่สุด สำหรับริดสีดวงแตกอาจจะเกิดขึ้นได้กับริดสีดวงระดับ 2 ขึ้นไป เกิดขึ้นได้จากพฤติกรรมคล้ายข้อ 1 แต่ปัจจัยภายนอกก็มีผลเช่นกัน การนั่งกับพื้นแข็งแรง ๆ แบบไม่ระวัง การเลือกใช้กระดาษทิชชู่ที่สากเกินไปขณะเป็นโรคริดสีดวง อาจเกิดการเสียดสีอย่างรุนแรงจนริดสีดวงแตกได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งภาวะริดสีดวง แตกจนเลือดออกนั้น จะเป็นการเปิดโอกาสให้โรคต่าง ๆ ถามหาเราได้อีกมากมาย เลือดออกขณะขับถ่าย ภาวะเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ แม้ว่าจะไม่มากนัก แต่ก็มีอยู่บ้างที่คิดว่าเลือดเหล่านั้นมาจากการเป็นริดสีดวง แต่ในท้ายที่สุดค้นพบว่าตนนั้นเป็นมะเร็งลำไส้ โดยมะเร็งลำไส้ในช่วงแรกนั้น อาการจะใกล้เคียงกับการเป็นริดสีดวงทวาร หรืออาจจะมีริดสีดวงทวารร่วมด้วย แต่ความแตกต่างที่สังเกตได้นั้น คือเมื่อขับถ่าย มีมูกสีขาว และเลือดปะปนออกมาเยอะมากหรือไม่ ลักษณะของอุจจาระเราผิดปกติไปกว่าเดิมมากไหม ทั้งกลิ่น และลักษณะ หลาย ๆ คนมักไม่มอง หรือเลี่ยงที่จะจำ เลือกที่จะไม่รับรู้กลิ่นของอุจจาระ แม้ว่าจะเป็นของเสียที่ร่างกายขับออกมา แต่การจดจำรูปและลักษณะของอุจจาระ จะช่วยให้เรารู้จักตัวเอง และง่ายต่อการแจ้งกับแพทย์มากขึ้น หากมีมูกขาว เลือด และลักษณะของอุจจาระผิดเพี้ยนไปจากปกติมาก ก็เป็นไปได้ว่าตัวเรานั้นเสี่ยงจะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่นั่นเอง ลักษณะของเลือดบ่งบอกอาการได้เช่นกัน หากเป็นเลือดสด ๆ ที่มักจะออกมาเวลาขับถ่าย เป็น ๆ หาย ๆ ลักษณะเป็นเลือดเปล่า ๆ นั้นก็อาจจะเกิดจากริดสีดวง เลือดออก แต่หากเป็นเลือดปนมูก และมีกลิ่นแรงฉุนมากผิดปกติ ก็อาจจะเกิดจากโรคแทรกซ้อนทางลำไส้ ควรที่จะเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด วิธีการปรับตัวเมื่อพบว่าริดสีดวง เลือดออก 1.ปรับพฤติกรรมโดยด่วน เพราะริดสีดวง เลือดออกนี่คือสัญญาณไม่ดีที่มาเตือนคุณแล้ว 2.เปลี่ยนกระดาษชำระ และเลือกใส่กางเกงที่ไม่รัดมาก เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถเสียดสีกับริดสีดวง เลือดออกได้ในที่สุด 3.หากเป็นริดสีดวงระยะที่ 3 ขึ้นไป ควรเลือกใช้หมอนรองก้นทุกครั้งที่นั่ง 4.ปรับแรงดันน้ำสายฉีดก้นให้เบาลง เพราะแรงดันที่มากไปจะทำให้ริดสีดวง เลือดออกได้ 5.ทานยาบรรเทาอาการเจ็บปวด และสมานแผลเพื่อหยุดไม่ให้ริดสีดวง เลือดออก ยาหมอหรือยาสมุนไพรแล้วแต่สะดวกใจ หยุดอาการริดสีดวง เลือดออกด้วย สมุนไพรรักษาริดสีดวงตรา ชัยพฤกษา ยาริดสีดวงจากธรรมชาติ มีอย. รองรับ และได้ขึ้นทะเบียนเป็นยาสามัญประจำบ้าน ควรให้หายขาดจากโรคริดสีดวงทวาร บรรเทา และสมานแผลจากริดสีดวง ซึ่งสามารถช่วยหยุดยั้งอาการเลือดออกได้ ใครที่เป็นกังวล และมองหายาบรรเทาอาการ เปิดใจให้ชัยพฤกษาเป็นหนึ่งทางเลือกของคุณ
เพชรสังฆาต สมุนไพรรักษาริดสีดวงยอดฮิต สุดยอดพืชรักษาโรคที่ไม่ได้มีดีแค่รักษาโรคริดสีดวงทวาร ในบทความนี้ชัยพฤกษา จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ เพชรสังฆาต สรรพคุณสุดยอดยาจากสมุนไพรไทยให้มากขึ้น เพชรสังฆาต สรรพคุณดีอย่างไรบ้าง ความดีงาม ที่เป็นดาวเด่นสำหรับสมุนไพรเพชรสังฆาตนั้น แน่นอนว่าต้องเป็นในเรื่องของการรักษาริดสีดวง ที่ไม่ว่าจะเป็นระยะเริ่มต้น ระยะปานกลาง หรือระยะสุดท้ายก็ช่วยได้ เพียงแต่ในระยะของริดสีดวงที่เกิดขึ้นนั้น สรรพคุณของสมุนไพรเพชรสังฆาตก็จะให้ผลที่แตกต่างกันไป ระยะเริ่มต้น 1-2 - ช่วยให้หายขาด - หยุดยั้งการเติบโตของติ่งเนื้อ - ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ ระยะปานกลาง-ท้าย 3-4 - หยุดยั้งการเติบโตของติ่งเนื้อ - ทุเลาความเจ็บปวดระหว่างรอผ่าตัดกับโรงพยาบาล - ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ ประวัติของสมุนไพรเพชรสังฆาต เพชรสังฆาต สมุนไพรรักษาโรคริดสีดวงทวารที่อยู่คู่คนไทยมาช้านาน ชื่อเพชรสังฆาตเป็นชื่อที่คนนิยมเรียก และรู้จักคุ้นเคยกันมากที่่สุด ถึงการนั้น ในแต่ท้องถิ่น ก็มีชื่อเรียกเพชรสังฆาตในรูปแบบอื่น ๆ แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น สันชะควด, ขันข้อ, สามร้อยต่อ เป็นต้น เพชรสังฆาตนั้น เป็นสมุนไพรประเภทไม้เลื้อย มีช่อ และดอกสีดวงสด สามารถนำมาปลูกเป็นไม้ประดับได้ นอกจากจะสวยงามแล้ว ยังมีประโยชน์ ในบ้านที่นิยมปลูกต้นไม้ หรือสมุนไพรในครัวเรือน มักจะนิยมปลูกกัน ลักษณะของลำต้นเพชรสังฆาต 1. ลำต้น - ลักษณะเป็นปล่้องสีเขียว มีมุมเหลี่ยม 2. ใบ - มีลักษณะโค้งมน ขอบใบหยัก มีสีเขียวสด 3. ดอก - มี 4 กลีบ สีแดงสด มีขนาดของช่อที่ค่อนข้างเล็ก 4. ผล - มีลักษณะกลม เล็ก และมีสีแดงสด เพชรสังฆาต ช่วยรักษาอะไรได้อีกบ้างนอกจากโรคริดสีดวงทวาร เพชรสังฆาต สรรพคุณค่อนข้างมีหลากหลาย แม้ว่าจะเด่นเรื่องรักษาโรคริดสีดวงทวารอย่างที่ใคร ๆ ทราบกัน แต่ก็ยังสามารถช่วยแก้อาการ และมีผลดีดังต่อไปนี้ 1. รักษาโรคสีดวงทวารหนัก 2. ขับลมในลำไส้ 3. ช่วยย่อยอาหาร แก้อาการท้องฝืดไม่สบายตัว 4. ต่อต้านมะเร็ง 5. แก้ปัญหาเรื่องเลือด อาทิเลือดออกตามไรฟัน, เลือดกำเดา 6. ช่วยลดน้ำหนัก โดยทั้งหมดนี้ เป็นสรรพคุณทั้งหมดที่เพชรสังฆาตจะมอบให้กับคุณ แม้ไม่ได้เป็นโรคริดสีดวง แต่การกินเพื่อเน้นรักษา หรือสนับสนุนให้เรื่องอื่น ๆ ก็จะช่วยให้มีร่างกายที่แข็งแรง และปลอดโรคได้เช่นกัน วิธีการทานเพชรสังฆาตสด เพชรสังฆาตรสดนั้น ไม่สามารถทานได้ในทันทีเนื่องจากอาจจะระคายเคืองริมฝีปาก ลิ้น และคอ หรืออาจจะทำให้ปากและคองพองได้ด้วยเช่นกัน สำหรับวิธีการเตรียมสมุนไพรเพื่อทานสำหรับรักษาโรคริดสีดวง หรือโรคอื่น ๆ นั้นมีดังนี้ 1. ตัดส่วนเถาแยกไว้เป็นส่วนเล็ก ๆ เล็ก ๆ 2. สอดตัวสมุนไพรไว้ในผลไม้ที่มีลักษณะลื่น แนะนำว่าควรเป็นกล้วย 3. พยายามอย่าเคี้ยว เน้นตัดเถาเป็นป้องเล็ก ๆ ยัดไส้กล้วยชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำและกลืนลงคอไปในทันที สาเหตุที่ไม่แนะนำให้เคี้ยวนั้น เนื่องจากควรหลีกเลี่ยง ไม่ให้ปาก หรืออวัยวะภายในระหว่างทางไปยังกระเพาะอาหารสัมผัสกับตัวสมุนไพรโดยตรง เพื่อป้องกันการระคายเคือง หรืออาการแพ้ที่อาจจะเกิดขึ้นได้นั่นเอง ทั้งนี้ในปัจจุบัน เพชรสังฆาตนั้นถูกนำมาสกัดผ่านกระบวนการต่าง ๆ เพื่ออัดลงแคปซูล ช่วยให้ทานได้ง่ายขึ้น ไม่เสี่ยงถูกผลข้างเคียงเหมือนการทานสด ได้สรรพคุณดีเหมือนเดิม และหาได้ไม่ยาก เพราะฉะนั้นเราจึงแนะนำว่าเพื่อความปลอดภัย นอกจากจะทานให้ถูกวิธี และระมัดระวังตามวิธีการข้างต้นแล้วนั้น การทานแบบแคปซูล หรือแบบอัดเม็ด ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี และเป็นที่นิยมเช่นกัน หรือหากต้องการความสะดวก อยากใช้บริการยาหมอตามร้านเภสัชทั่วไป ก็มียาที่คนทั่วไปนิยมใช้กัน เราแนะนำให้เลือกใช้ได้ตามบทความนี้ ยาริดสีดวง ยี่ห้อไหนดี เพชรสังฆาตอัดเม็ด สมุนไพรรักษาริดสีดวงแบรนด์ ชัยพฤกษา หากท่านกำลังมองยารักษาริดสีดวงทวารที่ทานง่าย ไม่ต้องการทานเพชรสังฆาตสด ชัยพฤกษามีผลิตภัณฑ์มานำเสนอให้คุณ สมุนไพรรักษาริดสีดวง สกัดจากสมุนไพรไทยหลากหลายชนิดที่ขึ้นชื่อ และการันตีทานแล้วเห็นผล ช่วยป้องกัน สกัด ทุเลา และทำให้หายขาดจากโรคริดสีดวงได้ภายใน 7 วัน สรรพคุณจากตัวยาสมุนไพรอัดเม็ดของชัยพฤกษาจะช่วยคุณได้ดังนี้ 1. ทุเลาอาการ ลดความเจ็บปวดจากโรคริดสีดวงทวารที่เป็นอยู่ 2. สามารถยับยั้งอาการอักเสบของติ่งริดสีดวงทวารได้ 3. ช่วยให้แผลจากริดสีดวงทั้งประเภทริดสีดวงภายใน และริดสีดวงภายนอกสมานตัวไวขึ้น 4. ปรับสมดุลลำไส้ และระบบขับถ่ายให้ดียิ่งขึ้น 5. ช่วยแก้อาการท้องผูก และช่วยให้ขับถ่ายคล่อง 6. ช่วยป้องกันให้ไม่เกิดริดสีดวงทวารซ้ำ เห็นสรรพคุณดี ๆ แบบนี้แล้ว แถมยังทานง่ายไม่เสี่ยงพบผลข้างเคียง มีอย.รองรับคุณภาพ อย่ารอช้า สนใจติดต่อ หรือดูรายละเอียเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ สมุนไพรรักษาริดสีดวง ชัยพฤกษา
สมุนไพรแก้ริดสีดวง หนึ่งในแขนงยาไทยที่ได้รับการยอมรับ และถูกนำมาพัฒนาเป็นยาเม็ดทางการแพทย์ในปัจจุบันทั้งไทยและเทศ ในขณะที่คนรุ่นใหม่เริ่มเบือนหน้าหนีจากสมุนไพรไทย หารู้ไม่ว่าสมุนไพรเหล่านี้ คือกลุ่มยาแขนงต้นตำหรับในการรักษาโรคภัยต่าง ๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะฉะนั้นในบทความนี้ ชัยพฤกษาจะพาทุกท่านมาขุดประวัติสมุนไพรแก้ริดสีดวงทวาร ถึงเวลาที่คนรุ่นใหม่ จะเปิดใจให้โอกาสสมุนไพรได้รักษาคุณบ้างแล้ว กลุ่มสมุนไพรแก้ริดสีดวงยอดฮิต 1. เพชรสังฆาต 2. ขลู่ 3. กระพังโหมตัวเมีย 4. อัคคีทวาร 5. พริกไทย 6. โกฐน้ำเต้า 7. ข่าตาแดง 8. สะค้าน 9. มะขามแขก 10. ดีเกลือฝรั่ง 11. ยาดำ กลุ่มสมุนไพรแก้ริดสีดวงเหล่านี้ คือกลุ่มสมุนไพรรุ่นเดอะที่ขึ้นชื่อเรื่องการป้องกัน บรรเทา ไปจนถึงช่วยให้หายจากการเป็นริดสีดวงได้ ตัวยาสมัยใหม่ในปัจจุบันนั้น ก็มีการนำตัวสมุนไพรเหล่านี้ไปสกัดเพื่อใช้เป็นยารักษาริดสีดวงในปัจจุบันด้วยเช่นกัน สำหรับใครที่สนใจตัวยาทางแพทย์สมัยใหม่ในปัจจุบัน ชัยพฤกษาก็มีแนะนำอยู่ในบทความนี้ ยาริดสีดวง ยี่ห้องไหนดี ภูมิปัญญาเกี่ยวกับสมุนไพรรักษาริดสีดวงมาจากไหน การใช้สมุนไพรรักษาริดสีดวง เป็นภูมิปัญญาเก่าแก่ และภูมิปัญญาดั้งเดิมในสังคมไทยก่อนที่วิวัฒนาการทางการแพทย์จะเติบโตเทียบเท่ากับในปัจจุบัน เนื่องด้วยสภาพภูมิประเทศที่มีสภาพชุ่มชื้น พืชผัก ผลไม้ รวมถึงสมุนไพรต่าง ๆ เติบโตได้ง่าย และหาได้ง่ายทั่วไป ทำให้สมุนไพรกลายเป็นพืชรักษาโรคภัยใกล้ตัวที่หาไม่ยาก เพชรสังฆาต ดาวเด่นแห่งกลุ่มสมุนไพรแก้ริดสีดวง หากพูดถึงสมุนไทยแก้ริดสีดวง ชื่อแรกที่เด่นขึ้นมาจากในกลุ่มข้างต้นนั้น แน่นอนว่า เพชรสังฆาต จะต้องโดดเด้งออกมาเป็นชื่อแรก ด้วยสรรพคุณหนาหูตั้งแต่ การรักษาติ่งริดสีดวง, ริดสีดวงมะเฟือง และริดสีดวงเดือยไก่, การรักษาโรคลักปิดลักเปิด, รักษาโรคเลือดออกง่ายตามไรฟัน รวมทั้งช่วยให้เจริญอาหาร และอื่น ๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าสมุนไพรตัวเดียว สนับสนุนสุขภาพในทางพวกได้มากมาย สมุนไพรแก้ริดสีดวง ทานแล้วเห็นผลดีแค่ไหน ใช้เวลานานเท่ายาหมอในปัจจุบันไหม โดยสมุนไพร เป็นสารอาหารที่จะค่อย ๆ ซึมซับเข้าสู่ร่างกาย อาจจะใช้เวลาสักหน่อยแต่ได้คุณภาพมากกว่าแค่จะช่วยให้หายขาด แต่ช่วยป้องกันให้การเกิดโรคซ้ำเกิดขึ้นได้ยากอีกด้วย สำหรับเพชรสังฆาต หรือสมุนไพรแก้ริดสีดวงอื่น ๆ นั้น หากเริ่มทานโดยส่วนใหญ้จะใช้เวลาโดยประมาณ 1 เดือน จะช่วยให้อาการหาย หรือทุเลาลงได้ ทั้งนี้ หากอาการเป็นช่วงเริ่มต้นมาก ๆ ก็อาจจะใช้เวลาในการรักษาเร็วกว่า 1 เดือน หรือหากอาการอยู่ในช่วงระดับที่ 2-3 เกิดการอักเสบอย่างหนัก อาจจะต้องใช้การผ่าตัดจากแพทย์เข้ามาช่วย แต่การกินสมุนไพรก็จะช่วยทุเลาอาการได้อย่างแน่นอนเช่นกัน เพชรสังฆาต กินอย่างไร สำหรับการรับประทานสมุนไพรแก้ริดสีดวงอย่างเพชรสังฆาตนั้น ชัยพฤกษาแนะนำให้รับประทานในรูปแบบที่สกัดเป็นแคปซูลแล้ว เนื่องจากต้นเพชรสังฆาตนั้น การทานสดอาจจะเป็นอันตรายต่อผู้ทานได้ เนื่องจากต้นเพชรสังฆาตสด จะทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณคอหลังรับประทานอย่างรุนแรง ไปจนถึงเกิดอาการแพ้อีกด้วย เพราะฉะนั้นการเลือกรับประทานในรูปแบบแคปนั้นจะง่ายต่อการกิน และให้สรรพคุณเทียบเท่ากับการกินจากต้นเช่นกัน ยาหมอยุคใหม่ กับยาสมุนไพรอะไรดีกว่ากัน ในขณะที่โลกกำลังหมุนไปข้างหน้า วิทยาการทางการแพทย์พัฒนามากขึ้น เด็กรุ่นใหม่เริ่มละทิ้งยาสมุนไพรสมัยเก่า เกิดความไม่เชื่อมั่นในสมุนไพรแก้ริดสีดวง บ้างถูกบอกว่าโบร่ำโบราณ บ้างถูกด้อยค่าว่าเป็นสินค้าหลอกขายคนแก่ แต่อย่างที่ชัยพฤกษาได้กล่าวไปแล้วในข้างต้น สมุนไพรแก้ริดสีดวงเหล่านี้ ต่างถูกนำไปสกัดเป็นตัวยาทางแพทย์สมัยใหม่ด้วยกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่สินค้าหลอกลวง หรือโบราณอย่างที่ใครหลาย ๆ คนคิด ถึงกระนั้น การจะเลือกใช้ยาสมุนไพรแก้ริดสีดวง หรือยาหมอสมัยใหม่นั้นเป็นสิ่งที่คุณผู้อ่านจะต้องตัดสินใจเลือกตามความสะดวกใจ สมุนไพรแก้ริดสีดวงอัดแคปซูลชัยพฤกษา สมุนไพรรักษาริดสีดวงขนานแท้ สมุนไพรอัดแคปซูลชัยพฤกษา รวมสารสกัดจากสมุนไพรแก้ริดสีดวงทั้ง 11 ชนิดมาไว้ในตัวยาเม็ดเดียว ช่วยให้คุณหายขาดจากการเป็นโรคริดสีดวง ช่วยทุเลาอาการริดสีดวงระดับอักเสบก่อนเข้ารับการรักษากับแพทย์ ไปจนถึงการป้องกันไม่ให้คุณกลับมาเป็นซ้ำอีก ทานง่าย สะอาด ปลอดภัย ไร้สารเคมี ตัวยาสมุนไพรแคปซูลอัดเม็ดได้รับการจดทะเบียนยาแผนโบราณถูกต้องตามกฏหมาย สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมุนไพรแก้ริดสีดวงอัดแคปซูลชัยพฤกษา ดูได้ผ่านช่องเว็บไซต์ Chaipruksa สมุนไพรรักษาริดสีดวง
จะทำอย่างไร เมื่อตนเอง หรือคนใกล้ชิดปล่อยปละละเลยอาการริดสีดวงทวารจนเกิดการอักเสบ บริเวณติ่งเนื้อมีลักษณะบวมหนัก และมีเลือดออกขณะขับถ่ายตลอดเวลา เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาที่จะนิ่งนอนใจได้แต่อย่างใด กลับกันต้องหาวิธีการรักษาด่วน ว่าแต่หากเกิดริดสีดวงอักเสบ กินยาอะไร ถึงจะช่วยให้หายได้ มาหาคำตอบกันได้ในบทความนี้ ริดสีดวงอักเสบ อันตรายจากการไม่ดูแลอาการริดสีดวง ก่อนที่จะเข้าเรื่องริดสีดวงอักเสบ กินยาอะไรดี เรามาทำความเข้าใจกันก่อน ว่าทำไมริดสีดวงอักเสบถึงเป็นเรื่องใหญ่ เพราะริดสีดวงอักเสบนั้น เป็นผลพวงมาจากการปล่อยปละละเลยการเกิดริดสีดวงในช่วงเริ่มต้น มีคนไม่น้อย ที่เมื่อรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังจะเป็น หรือเริ่มที่จะเป็นริดสีดวงทวารนั้น ก็ไม่ได้สนใจ ไม่ได้คิดจะกินยา หาหมอ หรือหาวิธีการรักษาแต่อย่างใด เพราะคิดว่ามันจะหายได้ ทั้งนี้ ในบางกรณีริดสีดวงก็อาจจะหายไปเองได้หากคุณโชคดี แต่ในกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมต้องห้าม ถ้าไม่อยากเป็นริดสีดวง และไม่อยากแก้ไขพฤติกรรมเหล่านั้น อาจจะทำให้ริดสีดวงเพิ่มอันดับความรุนแรง จนไปถึงขั้นอักเสบได้ พฤติกรรมต้องห้าม ถ้าไม่อยากเป็นริดสีดวงที่ว่าคืออะไร? สำหรับในส่วนนี้ ทางชัยพฤกษามีบทความมากมายเกี่ยวกับเนื้อหาที่บอกเล่าถึงสาเหตุที่จะทำเป็นโรคริดสีดวงทวาร หรือมีอาการหนักขึ้น ไปจนถึงอักเสบ หากให้อธิบายแบบสั้น ๆ หรือยกตัวอย่างพฤติกรรมบางรูปแบบสำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่านบทความเก่า ๆ ของเรานั้น ที่เห็นภาพที่สุดก็คงจะเป็น - การนั่งส้วมเป็นเวลานาน - ดื่มน้ำน้อย - ทานไฟเบอร์(ผัก, ผลไม้)น้อย ทั้ง 3 ข้อนี้ เป็นพฤติกรรมที่มากเพียงพอสำหรับการทำให้คุณเป็นโรคริดสึดวงทวาร รวมทั้งยังช่วยเพิ่มลำดับขั้น และทำให้ริดสีดวงอักเสบได้อีกด้วย หากไม่ยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม พิษร้ายจากการเกิดริดสีดวงอักเสบ 1. ความเจ็บปวดที่เพิ่มมากขึ้น หากคุณเป็นริดสีดวงในระยะเริ่มต้น อาจจะมีแค่ความรู้สึกหน่วง ๆ และไม่สบายตัวขณะเดิน หรือนั่งในพื้นที่ค่อนข้างแข็ง แต่ในริดสีดวงระดับปานกลาง ที่เป็นมาสักระยะหนึ่ง จะเริ่มส่งผลในเรื่องของความรู้สึกเจ็บปวดในขณะนั่ง นอน หรือขณะนั่งส้วมจนรู้สึกได้ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ริดสีดวงเกิดอักเสบ คุณจะรู้สึกเจ็บปวดอยู่ทุกขณะ ไม่ว่าจะนั่ง นอน เดิน นั่งส้วม หรือบริบทอื่น ๆ ติ่งเนื้อบริเวณทวารหนักจะบวมเต่งมีสีม่วงอมแดง และพร้อมจะแตกได้ตลอดเวลา ซึ่งหากริดสีดวงเกิดแตกขึ้นมาระดับความอันตราย และความเจ็บปวดก็จะเพิ่มสูงขึ้นอีกอย่างแน่นอน 2. เสี่ยงริดสีดวงแตกและติดเชื้อ ในกลุ่มริดสีดวงที่มีอาการอักเสบ ตัวติ่งเนื้อจะมีลักษณะบวมเต่งและพร้อมจะแตกออกตลอดเวลา และเมื่อริดสีดวงแตกนั้น จะทำให้เกิดแผลบริเวณทวารหนัก ซึ่งเป็นส่วนที่คุณจะต้องใช้ขับถ่ายของเสีย ทำให้แผลในบริเวณดังกล่าวมีโอกาสติดเชื้ออยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้ 3. กลิ่นไม่พึงประสงค์ นี่คือจุดที่เป็นปัญหาใหญ่ ๆ เรื่องหนึ่งของผู้ที่ประสบปัญหาริดสีดวงอักเสบ นั่นคือปัญหาจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพราะริดสีดวงอักเสบนั้น อาจจะมีน้ำเหลือง แต่กลิ่นของเสียต่าง ๆ เล็ดลอดออกมาได้ด้วย เป็นปัญหาที่ลดทอนความมั่นใจของใครหลาย ๆ คนอย่างมาก จากทั้ง 3 อาการนี้ เรียกได้ว่าการปล่อยให้ริดสีดวงอักเสบเกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องดี หรือมองข้ามได้ แต่หากมันเกิดขึ้นแล้วจะต้องทำอย่างไร ริดสีดวงอักเสบ กินยาอะไรดีถึงจะหาย ไปดูคำตอบกัน ริดสีดวงอักเสบ กินยาอะไรดี สำหรับคำตอบของคำถามอย่าง ริดสีดวงอักเสบ กินยาอะไรดี แบบตรงไปตรงมานั้น ต้องขอบอกก่อนว่าโดยปกติ ที่นิยมทานเพื่อป้องกัน และทุเลาอาการริดสีดวงทวารอักเสบนั้นไม่ได้เป็นยาหายากแต่อย่างใด และการทานยา อาจไม่เพียงพอต่อการรักษาได้ อย่างไรก็ตาม มาดูตัวยา 3 ประเภทที่ควรหามาทาน หากริดสีดวง เกิดการอักเสบดังนี้ 1. ยาแก้ปวด และยาแก้อักเสบตามร้านขายยาทั่วไป เบื้องต้นของการตอบคำถาม ริดสีดวงอักเสบ กินยาอะไรดี ยาตัวแรกที่แทบจะไม่ต้องออกไปหาที่ไหนไกล แต่ใครหลาย ๆ คนน่าจะมีติดบ้านไว้อยู่แล้วคือ ยาแก้ปวด และยาแก้อักเสบ เพราะหากคุณมีอาการริดสีดวงอักเสบนั้น แน่นอนว่าคุณจะต้องมีความรู้สึกปวด และหน่วงบริเวณทวารหนักอย่างแน่นอน ฉะนั้น แล้วยาแก้ปวด และยาแก้อักเสบทั่วไปตามร้านขายยา จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวด และช่วยลดอักเสบให้คุณได้ในเบื้องต้น 2. ยาริดสีดวงดาฟรอน
เป็นริดสีดวง บ้างก็ไล่ให้ไปหาหมอ บ้างก็ให้รักษาด้วยตัวเองผ่านการรัดยาง บ้างก็บอกว่าสมุนไพรไทยรักษาริดสีดวงได้ดีและปลอดภัยที่สุด ‘ริดสีดวงทวาร’ โรคที่ถ้าพลาดเป็นแล้วใคร ๆ ก็อยากที่จะรักษาให้หายขาด แต่จะใช้วิธีการไหนถึงจะหายจริง และมีประสิทธิภาพดีที่สุด บทความนี้มีเรื่องราวดี ๆ มาแชร์ต่อ วิธีการรักษาริดสีดวง รัดยาง วิธีการรัดยาง เมื่อพูดถึงการรัดยางเพื่อรักษาริดสีดวงนั้น หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่า เป็นวิธีการที่ทำได้ด้วยตัวเอง แต่จริง ๆ แล้วนั้น การรัดยางเพื่อรักษาริดสีดวงควรที่จะรักษาด้วยแพทย์ นับว่าเป็นหัตถการรูปแบบหนึ่ง กลไกการรักษาด้วยวิธีการนี้ คือการรัดยางบริเวณติ่งเนื้อที่ยื่นออกมา โดยต้องใช้ความรู้ และความชำนาญเพื่อให้รัดได้ถูกจุด และจุดที่ถูกรัดจะมีความรู้สึกเพียงแค่ตึง ๆ เท่านั้น ในส่วนของการรัดยางนั้น หากคิดที่จะทำด้วยตัวเอง และรัดผิดจุด อาจจะรัดยางโดนส่วนที่เป็นเส้นประสาท ทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสได้ โดยการรัดยางนั้น ทำเพื่อให้เลือดไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงบริเวณที่เป็นริดสีดวงด้วย เมื่อตัวติ่งเนื้อไม่มีเลือด หรือของเหลวมาหล่อเลี้ยงก็จะแห้ง และหลุดไปได้เองพร้อมกับการปลดทุกข์ในเวลาต่อมา ข้อดีของการรักษาด้วยการรัดยาง 1. เป็นหัตถการที่ไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา เนื่องจากแพทย์รู้จุดที่จะรัดยางและไม่เกิดความรู้สึกเจ็บ 2. วิธีการรักษาสะดวกกว่าการผ่าตัดริดสีดวง 3. วิธีค่อนข้างมีประสิทธิภาพหากรับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การฉีดยาเพื่อยุบติ่งเนื้อ วิธีการนี้ เป็นวิธีการรักษาที่ค่อนข้างตรงตัว และไม่ได้มีขั้นตอนซับซ้อนอะไร ซึ่งก็คือการฉีดยาเข้าสู่บริเวณติ่งเนื้อ เพื่อทำให้ติ่งเนื้อฝ่อ และหลุดออกไปเองในที่สุด คล้าย ๆ กับการฉีดสิวอักเสบเลยนั่นเอง แต่ถึงกระนั้นแล้ว วิธีการฉีดยา นอกจากจะเจ็บตัวมากกว่าการรัดยางแล้ว ประสิทธิภาพยังค่อนข้างที่จะน้อยกว่าการรัดยางเสียด้วย เนื่องจากในผู้ป่วยริดสีดวง ติ่งเนื้อสามารถมีได้มากกว่า 1 ติ่ง ซึ่งตัวยาที่ฉีดเข้าไปมักจะฉีดได้ทีละ 1 เข็ม จึงอาจทำให้ตัวยาไม่มีประสิทธิภาพที่มากพอ และใช้เวลานานกว่าริดสีดวงจะหาย รวมทั้งอาจจะไม่หายและต้องย้ายไปทำการรักษารูปแบบอื่นนั่นเอง ข้อดีของการรักษาริดสีดวงด้วยการฉีดยา 1.มีโอกาสรักษาริดสีดวงที่ขึ้น 1 หัวให้ฝ่อลง หรือหายได้ การผ่าตัดติ่งเนื้อ ในริดสีดวงระยะที่ 3 และ 4 นั้น อาจจะต้องมาถึงการผ่าตัดรักษาริดสีดวงอย่างจริงจังกัน เนื่องจาก ผู้ป่วยบางคนนั้นมีอาการอักเสบรุนแรงจากติ่งเนื้อริดสีดวงที่เกิดขึ้น หรืออาจใช้เวลากับการรักษารูปแบบอื่นไม่ได้แล้ว จึงจำเป็นต้องผ่าตัดด่วน ขั้นตอนการผ่าตัด จริง ๆ แล้วการผ่าตัดก็เป็นการผ่าตัดทั่วไป มีการฉีดยาชาเพื่อให้ไม่รู้สึกเจ็บขณะผ่าตัด หมอผ่าตัดเอาก้อนเนื้อออก โดยจะใช้เวลาตั้งแต่ 1 ชั่วโมงขึ้นไปแล้วแต่ความยากง่ายของเคส แต่ส่วนใหญ่จะไปเกินหนึ่งชั่วโมงครึ่ง หรือชั่วโมง แต่หลังผ่าตัดวิธีการนี้อาจจะต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการต่ออีก 1-2 วัน ซึ่งอาจจะต้องเสียสละเวลาการทำงาน และค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดไปพอสมควร แต่ก็เป็นวิธีการรักษาริดสีดวงที่มีประสิทธิภาพ และไว้ใจได้แน่นอน ข้อดีของการรักษาด้วยการผ่าตัดติ่งเนื้อ 1. รักษาริดสีดวงระยะที่ 3-4 ให้หายได้แน่นอน การรักษาริดสีดวงด้วยเลเซอร์ อีกหนึ่งวิทยาการสมัยใหม่ ที่เข้าถึงการรักษาริดสีดวงด้วยเช่นกัน ก็คือการผ่าตัดด้วยเลเซอร์ โดยขั้นตอนนั้นจะไม่ต่างจากการผ่าตัดเสียเท่าไหร่ แต่จะไม่ใช่การลงมีดหมอ แต่เป็นการยิงเลเซอร์บริเวณข้างทวารหนัก เพื่อให้แสงเข้าไปทำลายติ่งเนื้อ รอยเจาะมีความกว้างขนาด 2-3 มิลลิเมตร หลังการเลเซอร์นั้นจะไม่ต้องพักฟื้นเหมือนผ่าตัด สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ค่าใช้จ่ายค่อยข้างสูงเลยทีเดียว ข้อดีของการรักษาด้วยเลเซอร์ 1. รักษาริดสีดวงระยะที่ 3-4 ให้หายได้แน่นอน 2. ไม่ต้องพักฟื้นนาน ยิงเลเซอร์เสร็จแล้วใช้ชีวิตต่อได้เลย สมุนไพรไทยรักษาริดสีดวงทวาร วิธีการรักษาดั้งเดิมที่มีประสิทธิภาพตั้งแต่ป้องกัน ไปจนถึงการรักษา ตัวช่วยดี ๆ ที่เป็นพื้นเพ หรือพื้นฐานยารักษาโรคในประเทศไทยของเรานั้น ก็คือสมุนไพรไทย และการรักษาริดสีดวง ก็สามารถทำได้ด้วยการทานสมุนไพรด้วยเช่นกัน โดยตัวสมุนไพรที่มีฤทธิ์ และมีชื่อเสียงในการรักษาริดสีดวง จนถูกนำไปสกัดใช้เป็นยาทางการแพทย์ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อย่างเช่น เพชรสังฆาต ขลู่ กระพังโหมตัวเมีย พริกไทย และสมุนไพรอื่น ๆ อีกมากมายก็สามารถช่วยป้องกัน ยับยั้ง ทุเลา และทำลายติ่งเนื้อริดสีดวงให้ฝ่อได้ แต่ทั้งนี้ ในริดสีดวงระยะที่ 4 อาจจะจำเป็นต้องใช้การผ่าตัด หรือการรักษาทางการแพทย์ แต่การทานสมุนไพรร่วมด้วยเพื่อทุเลาอาการก็ส่งผลดี และเป็นที่นิยมในคนส่วนใหญ่ ข้อดีของการรักษาด้วยทานสมุนไพรไทย ครอบคลุมตั้งแต่ยับยั้งไม่ให้เกิดริดสีดวง ทุเลาอาการ ไปจนถึงทำให้หายได้ ดีต่อสุขภาพ ช่วยเสริมสร้างเลือดลม และสุขภาพด้านอื่น ๆ เพราะเป็นสมุนไพร ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องสละเวลาการทำงานไปโรงพยาบาล ค่าใช้จ่ายถูกกว่าการผ่าตัด ฉีดยา รัดยาง และเลเซอร์ จากทั้ง 5 วิธีการรักษาริดสีดวงนี้ ย้อนกลับไปที่คำถามที่ว่าวิธีการใดได้ผลลัพธ์ดีที่สุด คำตอบคือ ทุกวิธีการได้รับผลลัพธ์ที่ดีทั้งหมดครับ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับของอาการ และความชำนาญของแพทย์ที่เราเข้าพบ ในกรณีของยาสมุนไพร ก็จะขึ้นอยู่กับแบรนด์ที่เราเลือกทาน มีอย. และมีการรับรองจากกระทรวงสาธารณะสุขหรือไม่ ฉะนั้นแล้ว หากต้องการหายจากโรคริดสีดวงทวาร คุณสามารถเลือกวิธีที่ตัวเองสะดวก และสบายใจที่จะทำมากที่สุด ชัยพฤกษา เราคือแบรนด์ยาสมุนไพรไทยรักษาโรคริดสีดวงทวาร ที่ได้รับการรองรับจากองค์กรอาหารและยา ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณะสุข และได้รับการยอมรับจากลูกค้าหลาย ๆ ท่านที่ทานผลิตภัณฑ์ของเราเพื่อหวังผลลัพธ์สกัด ยับยั้ง และทำลายโรคร้ายอย่างริดสีดวงทวาร สนใจรายละเอียดสินค้า หรือต้องการสั่งซื้อ สามารถติดต่อได้ผ่านเว็บไซต์ Chaipruksa ชัยพฤกษา
หากพูดถึง ริดสีดวง นั้น หลาย ๆ คนก็จะนึกภาพถึงติ่ง หรือก้อนเนื้อลักษณะบวมแดงที่เกิดขึ้นบริเวณทวารหนัก แต่น้อยคนนักที่จะนึกไปถึงประเภทของมัน ซึ่งแท้จริงแล้ว ริดสีดวงนั้นก็มีอยู่หลากหลายประเภท และลักษณะของรูปร่าง และอาการก็แทรกซ้อนก็จะแตกต่างกันออก ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงริดสีดวงมะเฟือง หนึ่งในประเภทของริดสีดวงตัวร้าย ที่ร้ายกว่าริดสีดวงธรรมดากัน ริดสีดวงมะเฟืองคืออะไร คุณสามารถเสิร์ชเพื่อดูภาพประกอบจากในอินเตอร์เน็ต หรือกูเกิลด้วย เพราะอาจจะไม่ดีนักที่เราจะนำภาพริดสีดวงมาเป็นรูปประกอบบทความให้คุณได้ชม ทั้งนี้ ริดสีดวงมะเฟืองนั้น คือริดสีดวงที่มีลักษณะบวมเป่ง เห็นชัดออกมาจากรูทวาร ตัวติ่งเนื้อมีมาแยกแฉกออกลักษณะคล้ายกีบของลูกมะเฟือง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มันถูกเรียกว่าริดสีดวงมะเฟือง ริดสีดวงมะเฟืองเกิดจากอะไร แม้ว่าหน้าตาของริดสีดวงมะเฟือง จะดูแปลกแยก และแตกต่างไปจากริดสีดวงธรรมดา แต่สาเหตุการเกิดของมันก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ เกิดจากการคั่งของเลือดบริเวณปลายทวาร ทำให้มีติ่งเนื้อปูดบวมออกมา หรือเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต อาทิ พฤติกรรมการทานอาหารที่กากใยน้อยติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้อุจจาระไม่สะดวก มีการขับถ่าย และเบ่งแรง เบ่งนานก็ทำให้เกิดริดสีดวงมะเฟืองด้วยเช่นกัน ริดสีดวงมะเฟือง อันตรายกว่าริดสีดวงปกติหรือไม่ ต้องบอกว่า ผลพวงของความเจ็บปวดที่ได้รับจากริดสีดวงมะเฟืองนั้น รุนแรงกว่าความเจ็บปวดจากริดสีดวงธรรมดาอย่างแน่นอน โดยริดสีดวงมะเฟืองนั้น บ่อยครั้ง และแทบจะทุกครั้งของการขับถ่าย มักจะมีเลือดเจือปนมาด้วย เพราะริดสีดวงมะเฟืองนั้น ลักษณะติ่งเนื้อจะนูนปิดหน้ารูทวารแน่นหนา ทำให้ในระหว่างขับถ่ายทำให้ติ่งเนื้อถูกเสียดสีโดยอุจจาระ ทำให้เลือดไหลออกมา อีกทั้งการนั่งบนเก้าอี้ หรือพื้นแข็งนั้นเป็นไปไม่ได้เป็นเลย คุณต้องใช้หมอนรองนั่น เพื่อนั่ง หรือนอนเหยียดตรง เพราะทุก ๆ การประทับก้น คุณจะรู้สึกเจ็บปวดจนสะดุ้งตัวตั้งจนไม่ได้ทุกครั้งไป หรือหากใจเย็นยอมนั่งหรือนอน เมื่อผ่านไปสักระยะอาจเกิดการกดทับทำให้ริดีดวงอักเสบ และอาจแตกออกมาได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องซีเรียสที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะจะทำให้การรักษายากกว่าเดิม และเสี่ยงต่อการติดเชื้อและโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ จะรู้ตัวได้อย่างไรว่าเราเป็นริดสีดวงมะเฟือง - แม้เนื้อติ่งจะยังไม่นูนบวมออกมา แต่จะมีอาการคันยุบยิบ หรือแสบเล็ก ๆ เวลาอุจจาระ - สังเกตเมื่อคุณขับถ่าย และมีอาการแสบเล็ก ๆ แม้จะยังไม่ติ่งนูนบวม ให้สังเกตว่ามีเลือดเจือปนในอุจจาระขณะขับถ่ายด้วยหรือไม่ - เมื่อรู้ตัวว่ามีติ่งเนื้อนูนบวมออกมา หรือเมื่อมั่นใจแล้วว่าเป็นริดสีดวง ให้ใช้กล้องโทรศํพท์มือถือถ่ายย้อนเพื่อดูลักษณะของติ่งเนื้อ หรือให้คนในครอบครัวที่สนิทใจสังเกตลักษณะให้ วิธีการป้องกันตัวเองจากโรคริดสีดวงมะเฟือง เนื่องจากมีวิธีการเกิด ไม่แตกต่างจากโรคริดสีดวงทั่วไป ฉะนั้นวิธีการป้องกันตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดโรค ก็สามารถใช้วิธีเดียวกันได้ดังนี้ - ทานอาหารที่มีกากใยสูง - ไม่นั่งส้วมนานเกินความจำเป็น - ไม่เบ่งอุจจาระแรงเกินไป - ดื่มน้ำให้ได้ปริมาณเพียงพอที่ร่างกายต้องต่อวัน สิ่งเหล่านี้ คือการปรับพฤติกรรมที่เบสิคที่สุดสำหรับการป้องกันริดสีดวงทวารทุกประเภท วิธีการรักษาริดสีดวงมะเฟือง เบื้องต้น ริดสีดวงมะเฟือง หรือริดสีดวงกลีบมะเฟือง จะค่อนข้างน่ากลัวเมื่อเนื้อติ่งบวมใหญ๋ เพราะมันจะทำให้คุณใช้ชีวิตประจำวันแบบเดิม ๆ แทบไม่ได้ หรือทำได้ในรูปแบบที่ลำบากมาก โดยเมื่อติ่งเนื้อบวมไปถึงระยะนั้นแล้ว วิธีการรักษาที่เห็นผลแน่นอน แต่คุณอาจจะต้องสละเวลาส่วนตัวนิดหน่อยก็คือการไปพบแพทย์ และมันอาจจะต้องกัดฟันกันสักหน่อย เพราะคุณจะถูกฉีดยาเข้าติ่งเนื้อ ให้เนื้อริดสีดวงฝ่อและหายไป ซึ่งมันก็เจ็บไม่ใช่น้อย แต่ในมือของแพทย์เฉพาะทาง หรือแพทย์ในโรงพยาบาล ก็ค่อนข้างจะคาดหวังประสิทธิภาพได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้หากคุณรู้ตัวเร็วว่าตัวเองกำลังจะเป็น หรือเริ่มเป็นริดสีดวงตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้ว สมุนไพรไทย ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยชั้นดี ที่ใครหลาย ๆ คนทานกันเพื่อทุเลา ระงับ หรือป้องกันไม่ให้ติ่งริดสีดวงนั้นเกิดขึ้น และหากคุณเปิดโอกาส หรือกำลังสนใจสมุนไพร ที่ใช้รักษาริดสีดวงได้อยู่แล้วล่ะ เราขอแนะนำ สมุนไพรชัยพฤกษายาริดสีดวงอันดับ 1 ของเรา สมุนไพรไทยแท้ อัดเม็ด ทานง่าย ป้องกันภัยร้ายจากริดสีดวงมะเฟือ สมุนไพรชัยพฤกษา ทานแล้วป้องกันริดสีดวงมะเฟืองได้จริงหรือ ผลลัพธ์จากสมุนไพรไทย เป็นยาสูตรโบราณขึ้นชื่อมาช้านาน ทั้งในประเทศ และนอกประเทศให้ความไว้เนื้อเชื่อใจในสมุนไพรบ้านเรา และในยารักษาริดสีดวงตราชัยพฤกษานั้น เป็นยาสมุนไพร Organic 100% ได้มาตรฐาน GMP และผ่านการรับรองจากองค์กรอาหารและยา (อย.) สามารถรักษาริดสีดวงได้ทุกระยะ และทุกระดับอาการ รวมทั้งริดสีดวงมะเฟืองที่มีติ่งบวมนูนออกมาแล้ว ก็สามารถทุเลา และรักษาอาการได้ หรือจะทานยาควบคู่ไปกับการรักษารูปแบบอื่น ๆ ทานยาเพื่อทุเลาอาการเจ็บปวดระหว่างรอการผ่าตัดหากติ่งบวมจนเกินจะทนก็ช่วยให้ใช้ชีวิตระหว่างรอพบแพทย์ได้ง่ายขึ้น หากคุณสนใจผลิตภัณฑ์ สมุนไพรชัยพฤกษายาริดสีดวงอันดับ 1 ป้องกัน ทุเลา และระงับอาการริดสีดวงหายชะงัด สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ Chaipruksa ชัยพฤกษา ให้ผลิตภัณฑ์ของเรา ดูแลคุณ
อาการเจ็บปวดบริเวณก้น หรือรูทวารหนักในขณะที่เป็นโรคริดสีดวงทวารนั้นแสนสาหัส จนหลายใคร ๆ คนที่เคยเป็นลืมไม่ลง และแน่นอนว่าไม่มีใครอยากกลับมาเป็นอีกหากรักษาจนหายได้แล้ว ส่วนผู้ที่กำลังประสบพบเจอกับโรคสุดชอกช้ำนี้อยู่ ก็ได้แต่กัดฟันเพื่อให้ผ่านมันไปได้ ทั้งนี้จึงเกิดข้อสงสัยขึ้นว่า ริดสีดวง รักษาหายขาดได้หรือไม่? ริดสีดวง รักษาหายแล้ว จะมีโอกาสกลับมาเป็นอีกไหม? บทความนี้ จะมาช่วยคลายข้อสงสัยนี้ให้คุณเอง ริดสีดวง รักษาหายขาดแล้วเกิดซ้ำได้หรือไม่? เป็นคำถามที่เรียบง่าย และคำตอบก็เรียบง่ายเช่นกันครับ ริดสีดวง หรือริดสีดวงทวารนั้นเป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ทานในแต่ละวัน ไปจนถึงอุปนิสัยกส่วนตัว อาทิ การนั่งส้วมนาน การชอบเบ่งแรง ด้วยความที่ไม่ใช่โรคที่เกิดจากไวรัสเหมือนไข้หวัด ทำให้ไม่สามารถติดต่อได้ และแน่นอนว่าสามารถรักษาให้หายขาด และไม่กลับมาเป็นอีกได้ ‘ตราบใดที่คุณยอมปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตไม่ให้เสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการเกร็งจนเลือดคั่งบริเวณรูทวาร อันเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคริดสีดวงทวารอีก’ ริดสีดวง รักษาได้ด้วยการปรับพฤติกรรมรูปแบบใดบ้าง? อาหาร : ริดสีดวง รักษาได้ด้วยการทานอาหารที่มีไฟเบอร์ หากคุณไม่ชอบทานผักหรือผลไม้ งานนี้อาจจะต้องมีการฝืนใจกันบ้างในช่วงแรก เพราะผักและผลไม้ เป็นอาหารที่มีกากใยเยอะ ทำให้ขับถ่ายคล่องจนแทบไม่ต้องออกแรงเบ่ง ทั้งนี้หากคุณเป็นคอเนื้อ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว ไก่ หรือหมู แม้จะมีรสชาติอร่อย แต่ก็ย่อยยาก และใช้เวลาพอสมควร อีกทั้งหากทานในปริมาณมาก ๆ ยกตัวอย่างเช่น มื้อหนักเมื่อต้องไปทานหมูกระทะบุฟเฟต์ การไม่ทานผักและตักแต่เนื้อนั้นจะทำให้การขับถ่ายของคุณต้องแรงเบ่งอย่างหนัก เนื่องจากขาดกากใยอาหาร เพราะฉะนั้นฝึกทานผักและผลไม้กันไว้นะครับ เพื่อสุขภาพ และเพื่อป้องกันการเป็นริดสีดวงซ้ำ หยุดเบ่งแรง : ริดสีดวง รักษาได้ด้วยการหยุดเบ่งแรง และนี่คือผลพวงที่เกี่ยวโยงมาจากอาหารการกิน เมื่อคุณทานอาหารที่มีไฟเบอร์น้อย การขับถ่ายของคุณต้องพาแรงขับมหาศาล เพราะฉะนั้นจะหยุดเบ่งแรงได้ ก็อย่าลืมทานผักนะครับ หยุดเล่นมือถือขณะนั่งส้วม : ริดสีดวง รักษาได้ด้วยการหยุดเล่นโทรศัพท์มือถือขณะนั่งส้วม โดยส่วนใหญ่ ผู้ที่เล่นโทรศัพท์เป็นเวลานานขณะนั่งปลดทุกข์ไปด้วยมักจะเพลิน และใช้เวลาการนั่งส้วมเป็นเวลานาน การนั่งนาน ๆ นี้จะทำให้มีเลือดไปตกไปคั่งที่บริเวณทวารหนักเกินไป และนี่ก็เป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่ทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวารอีกด้วย ลดน้ำหนัก : ริดสีดวง รักษาได้ด้วยการการลดน้ำ เมื่อคุณมีน้ำหนักตัวที่มาก เสี่ยงโรคมากมาย และริดสีดวงทวาร ก็เป็นหนึ่งในโรคแทรกซ้อนที่มีโอกาสเกิดขึ้นเมื่อคุณมีน้ำหนักตัวที่มากเกิน เพราะเมื่อคุณนั่ง จะเกิดการทิ้งน้ำหนักบริเวณก้น ซึ่งอาจทำให้เลือดคั่งและเป็นริดสีดวงได้เช่นกัน ดื่มน้ำให้เยอะ : ริดสีดวง รักษาได้ด้วยการดื่มน้ำต่อวันให้เพียงพอ กับที่ร่างกายต้องการโดยพื้นฐานแล้ว คนเราควรดิ่มน้ำวันละ 8 แก้ว หรือ 1.5 ลิตรอย่างน้อยต่อวัน และอาจเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักตัว เพราะหากร่ายกายขาดน้ำ ภายในร่างกายระบบขับถ่ายของเสียจะมีน้ำไปผสมน้อย ทำให้อุจจาระแข็ง และขับถ่ายยาก ทำให้อาจจะต้องเบ่งแรง หรืออาจเกิดการเสียดสีกับรูทวารจนทำให้เกิดแผลอักเสบ และนำมาซึ่งการโรคริดสีดวงทวารในที่สุด การรักษาริดสีดวงที่ถูกต้องมีวิธีใดบ้าง? 1. พบแพทย์ : แน่นอนว่าเมื่อคุณมีอาการเจ็บป่วย หรือเกิดความผิดปกติใด ๆ ขึ้นกับร่างกายนั้น การพบแพทย์เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เนื่องจากมีการรักษาด้วยผู้เชี่ยวชาญ หรือก็คือคุณหมอนั่นเอง แต่ทั้งนี้การเป็นริดสีดวง รักษาได้ด้วยตัวเองได้ในขั้นต้น หรือใช้วิธีการอื่น โดยที่ไม่ต้องสละเวลาไปโรงพยาบาลด้วยเช่นกัน 2. ปรับพฤติกรรม : การปรับพฤติกรรมเป็นการหวังผลในระยะยาว ที่จะไม่ทำเราเป็นเราริดสีดวง หรือจะไม่กลับมาเป็นริดสีดวงอีก แต่ในขณะที่เรากำลังเป็นโรคริดสีดวงอยู่นั้น การปรับพฤติกรรมอาจจะไม่ใช่วิธีที่มีประสิทธิภาพทันใจสักเท่าไหร่ ทานสมุนไพรรักษาริดสีดวง : ริดสีดวง รักษาได้ด้วยการทานสมุนไทยของเราได้ อีกหนึ่งวิธีที่เรียบง่าย สะดวกสบาย และไม่ต้องเสียเวลาออกไปนัดคิวหมอ โดยสมุนไพรไทยของเรานั้น ขึ้นชื่อเรื่องการรักษาโรคหลาย ๆ แขนงได้หายเป็นปลิดทิ้ง และริดสีดวงทวาร ก็เป็นอีกหนึ่งโรคที่สมุนไพรไทยของเราเอาอยู่ ทุเลาอาการริดสีดวง รักษาหายได้เป็นปลิดทิ้ง ด้วยสรรพคุณของกระพังโหมตัวเมีย ขลู่ เพชรสังฆาต อัคคีทวาร ยาดำ ดีเกลือฝรั่ง มะขามแขก สะค้าน พริกไทย ข่าตาแดง โกฐน้ำเต้า และอีกมากมาย สุดท้ายนี้ ริดสีดวง รักษาหายขาดได้ แต่ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเข้ามาร่วมด้วย เพื่อให้โอกาสในการกลับมาเป็นซ้ำนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นต่ำที่สุด และหากคุณเป็นหนึ่งคน ที่ไม่อยากเป็นโรคริดสีดวง หรือไม่อยากกลับมาเป็นริดสีดวงซ้ำแล้วล่ะก็ นอกจากที่คุณจะต้องพร้อมสำหรับการเปลี่ยนพฤติกรรม เราขอแนะนำตัวช่วยที่ควรมีติดบ้านไว้ สมุนไพรรักษาริดดวงตราชัยพฤกษา ตัวช่วยคุณภาพ ที่เพรียบพร้อมด้วยสรรพคุณของสมุนไพรที่มีส่วนช่วยในการระงับอาการริดสีดวงมากกว่า 11 ชนิด การันตีความปลอดภัย มีติดบ้านสำหรับตนเองและคนในครอบครัวไว้ รับรองอุ่นใจแน่นอน ดูรายละเอียด และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Chaipruksa ชัยพฤกษา
หากคุณเป็นคนชอบเบ่ง เบ่งแรง เบ่งหนัก เราขอเตือนไว้ตรงนี้เลยว่านอกจากความสะใจที่คุณจะได้รับในระหว่างปลดทุกข์นั้น อีกสิ่งหนึ่งที่คุณจะได้รับหลังจากนั้นคืออาการ ริดสีดวงแตก มีคำถามเกิดขึ้นบ่อยครั้งว่า เราบีบริดสีดวงให้แตกเองเลยดีไหม ริดสีดวงแตกอันตรายอย่างไร ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งนั้นอาจจะทำได้ แต่ไม่เกิดผลดีกับคุณแน่นอน ซ้ำร้ายยังนำพาความเจ็บปวดและอันตรายจากภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ให้เข้ามาหาคุณได้ง่ายขึ้น ริดสีดวงแตกอันตรายแค่ไหน หากคุณกำลังเป็นผู้ประสบกับโรคริดสีดวง หรือเคยประสบพบเจอกับมันมาแล้ว เราคงไม่ต้องอธิบายถึงความเจ็บปวด และความไม่สะดวกสบายที่คุณได้รับขณะถูกริดสีดวงโจมตี แต่หากคุณยังไม่เคยเป็นริดสีดวงมาก่อน เรามีบทความให้คุณอ่านได้ที่ ริดสีดวงคืออะไร อันตรายอย่างไรบ้าง และแน่นอนหากคุณรับรู้ถึงความเจ็บปวดจากโรคริดสีดวงแล้ว ความเจ็บปวดจากอาการริดสีดวงแตกนั้น...เจ็บกว่าแน่นอน เนื่องจากเราเคยอธิบายเกี่ยวกับลักษณะของอาการริดสีดวงแตกไปแล้ว ในครั้งนี้ เราจะพาคุณมารู้เท่าทันสาเหตุของพฤติกรรมเสี่ยงที่ควรเปลี่ยนและหยุดกัน พฤติกรรมร้าย ไม่อยากริดสีดวงแตกต้องหยุด! พฤติกรรมที่แสดงออกซึ่งอากัปกิริยาทั่วไปในแต่ละวัน ตั้งแต่กิน นอน ยืน นั่ง เดิน หลายครั้งความเคยชินเหล่าทำร้ายใครหลายคนไปมากมายเพียงเพราะไร้ซึ่งความรู้เรื่องโรคภัยบางอย่าง แต่หลังจากอ่านบทความนี้จบ คุณจะรับรู้ทันทีว่า บางพฤติกรรมจากความเคยชินนั้นอันตรายต้องหยุด! 1.เบ่งแรง : การเบ่งอุจจาระอย่างหนัก และแรง เป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดริดสีดวง และแน่นอน หากเกิดริดสีดวงแล้วคุณยังไม่สามารถชะลอความแรงของการเบ่งของคุณได้ นอกจากจะเสี่ยงต่อการอักเสบจนเกิดภาวะแทรกซ้อน คุณจะเกิดอาการริดสีดวงแตกอันตรายตามมาต่ออีกด้วย วิธีการแก้ไข : หากคุณเป็นคนติดเบ่งอุจจาระแรง ๆ ปัจจัยนี้แท้จริงแล้วไม่ได้เป็นเพียงแค่ความเคยชิน แต่อาจเกิดจากพฤติกรรมร่วมในรูปแบบอื่น ๆ เช่น การทานอาหารที่มีไฟเบอร์น้อย การชอบอั้นอุจจาระเป็นเวลานาน การอุจจาระน้อย รวมถึงการดื่มน้ำน้อย เพราะฉะนั้นจึงช่วยได้ด้วยการลองทานผักและผลไม้มากขึ้นเพื่อเพิ่มไฟเบอร์ ไม่อั้นอุจจาระเป็นเวลานาน และอุจจาระให้เป็นเวลาในจำนวนครั้งที่พอเหมาะต่อวัน และดื่มน้ำให้มาก ๆ พฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยให้การเบ่งอุจจาระของคุณง่ายขึ้น เนื่องจากอุจจาระไม่แข็งตัวจนต้องออกแรงเบ่งนั่นเอง 2.นั่งนาน : ความเคยชินในขณะปลดทุกข์นั้น หลายท่านมักจะไถโทรศัพท์มือถือหรืออ่านหนังสือสักเล่มไปพลาง ๆ และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของอาการริดสีดวงทวารอีกเช่นกัน แต่หากแม้ว่าริดสีดวงจะถามหาคุณแล้ว คุณก็ยังเมินและเลือกที่เพลินกับการเล่นโทรศัพท์มือถือ หรืออ่านหนังสือต่อไปนั้น จะทำให้เส้นเลือดที่โป่งพองนั้น พองยิ่งขึ้น จนในที่สุดจึงเกิดอาการริดสีดวงแตกตามมานั่นเอง/p> วิธีการแก้ไข : เป็นวิธีที่ง่ายแต่ยาก เนื่องจากคุณต้องต่อสู้กับสภาพจิตใจ และความอยากที่จะเล่นมือถือหรืออ่านหนังสือของตัวเอง เพราะฉะนั้นการไม่นำโทรศัพท์มือถือหรือหนังสือติดมือเข้าห้องน้ำไปด้วยน่าจะเป็นวิธีที่ช่วยได้และเห็นผลดีที่สุด ในช่วงแรกอาจจะไม่ชินและเบื่อ ๆ นิดหน่อย หากเป็นเช่นนั้นจงบอกตัวเองให้รีบปลดทุกข์ให้เสร็จ แต่ก็อย่าเผลอรีบเบ่งแรงนะ 3.ทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์มากเกินไป : “You’re what you eat.” ประโยคเด็ดที่นำมาใช้ได้เสมอเมื่อกล่าวถึงลักษณะการใช้ชีวิตจากการกินไม่เลือก การติดกินเนื้อสัตว์ในปริมาณมาก ๆ ปราศจากผัก และผลไม้ที่มีกากใย จะทำให้การขับถ่ายนั้นยากลำบาก อุจจาระเบ่งยาก ทำให้ต้องใช้การเกร็งของกล้ามเนื้อหูรูดอย่างหนัก และแน่นอนว่าสิ่งที่จะตามมานั้นคือริดสีดวงแตกนั่นเอง วิธีการแก้ไข : นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายคล้ายการหยุดเล่นโทรศัพท์ขณะปลดทุกข์ ต้องต่อสู้กับสภาพจิตใจในการรักอาหารประเภทชาหมู หมูกระทะไม่เน้นผัก หรือเหล่าเนื้อย่างทั้งหลายแหล่ เพียงแค่แบ่งพื้นที่บนเตาหรือในจานไว้ให้ผักบ้าง เพื่อให้ร่างกายได้รับไฟเบอร์ที่จะช่วยให้ขับถ่ายง่ายและคล่อง หรือหากคุณไม่กินผัก ไฟเบอร์ประเภทวิตามินก็เป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยคุณได้ 4.กระดาษชำระหนา : นี่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ใครหลายคนคาดไม่ถึง บริเวณรูทวารนั้นไม่ได้มีผิวหนังที่หนาเหมือนบริเวณรอบก้นส่วนอื่น ๆ หากคุณเป็นริดสีดวง อย่างแรกที่คุณควรใส่ใจคืออุปกรณ์ทำความสะอาดก้นของคุณ ไม่ควรใช้แบบที่หนาเกินไป เพราะอาจทำอันตรายต่อริดสีดวงและรูทวารเราได้ วิธีการแก้ไข : วิธีการนี้ง่ายที่สุด เพียงแค่ซื้อกระดาษชำระใหม่ให้บางขึ้น เพียงเท่านี้ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการเสียดสีกับรูทวารหรือริดสีดวงของคุณไม่ให้ถูกทำร้ายได้อีกต่อไป แม้ว่าพฤติกรรมที่เสี่ยงจะทำให้ริดสีดวงแตกนั้นจะมีเพียงไม่กี่สาเหตุ และอาจจะดูไม่ได้แตกต่างจากสาเหตุที่ทำให้เกิดริดสีดวงสักเท่าไหร่ แต่ทุกพฤติกรรมล้วนแล้วเป็นพฤติกรรมที่ใครหลาย ๆ คนมักจะทำเป็นประจำในชีวิตประจำวันแม้ว่าจะเป็นริดสีดวงอยู่ในขณะนั้น หากคุณพลาดท่าริดสีดวงแตกไปแล้ว ในบทความ ริดสีดวงแตก ภัยเงียบที่อันตรายกว่าที่คุณคิด ได้บอกวิธีรับมือและตรวจเช็กเบื้องต้นไว้แล้ว เพื่อป้องกันริดสีดวงแตกอันตรายจากภาวะ ๆ ที่จะตาม เรามาเริ่มหยุดพฤติกรรม เปลี่ยนให้เป็นดีกันเถอะ สุดท้ายนี้หากท่านใดไม่อยากพลาดให้กับอาการริดสีดวงแตก สมุนไพรรักษาริดสีดวง บรรเทาอาการริดสีดวงทวารหนักชัยพฤกษาช่วยคุณได้ ติดต่อเราเพื่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 063-154-2424 หรือช่องทางติดต่อที่ Facebook และ Line ได้เลยครับ
ความเจ็บปวดจากโรคริดสีดวงทวารทวารนั้น เป็นที่รู้กันดีว่าส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเริ่มตั้งแต่ท้องผูก ถ่ายเป็นเลือด จะลุก จะนั่ง หรือจะนอนก็รู้สึกแสบรู้สึกคันบริเวณรอบทวารหนักไปเสียหมด ซึ่งในบางครั้งความเจ็บปวดเหล่านั้น อาจเกิดจากภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการไม่ยอมรักษาริดสีดวง หรือเริ่มรักษาช้าจนหัวริดสีดวงมีขนาดบวมใหญ่เพราะอักเสบ ซึ่งอาจก่อให้เกิดโรคที่ร้ายแรงกว่าการเป็นโรคริดสีดวงทวารทวารหนักตามมา ภาวะแทรกซ้อนจากโรคริดสีดวงทวาร 1.โลหิตจาง (Anemia) เป็นภาวะที่ร่างกายขาดเลือดเป็นจำนวนมาก อาจเกิดจากการถ่ายเป็นเลือดซึ่งเป็นอาการหลักของโรคริดสีดวงทวารทวารหนัก หากไม่รักษา หรือมีการรักษาที่ช้า การขับถ่ายบ่อยครั้งก็อาจจะทำให้ร่างกายเสียเลือดไปเป็นจำนวนมาก เม็ดเลือดแดงจะลดลงและทำให้การผลิตออกซิเจนลดลงไปด้วย ส่งผลให้ร่างกายเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย แม้ว่าโรคนี้จะไม่ได้สร้างความเจ็บปวดแก่ทางร่างกายชัดเจน แต่ก็เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากการที่ควบคุมร่างกายไม่ได้ตามมา 2.ติดเชื้อบริเวณทวารหนัก(ฝีคัณฑสูตร) แม้ว่าจะมีโอกาสเกิดน้อย แต่ก็เป็นโรคแทรกซ้อนรุนแรงที่อาจพรากชีวิตเราไปได้เลยทีเดียว หากไม่ได้รับการดูแลรักษาโรคริดสีดวงทวารให้หายโดยเร็ว การทิ้งไว้ในระยะยาวจะก่อให้เกิดการอักเสบรุนแรง และเมื่อมีการขับถ่ายของเสียที่ร่างกายถ่ายออกมา อาจก่อให้เกิดหมักหมมเชื้อโรคที่ของเสียไปสัมผัสโดนเม็ดริดสีดวงที่กำลังอักเสบอยู่ ทำให้เกิดการติดเชื้อบริเวณทวารหนัก ซึ่งรักษาได้ยาก และอันตรายถึงชีวิต 3.ลิ่มเลือดอุดตัน เป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคริดสีดวงทวารทวารอยู่แล้ว เพียงแต่หากไม่รักษา ความรุนแรงและความเจ็บปวดจากอาการลิ่มเลือดอุดตันนั้น จะยิ่งทวีคูณ สร้างความเจ็บปวดเป็นระยะ ๆ ตรงรอบรูทวารหนัก 4.ริดสีดวงบีบรัดรุนแรง พบได้ในกลุ่มที่มีริดสีดวงโผล่ออกมาด้านนอกทวารหนักจนเห็นได้ชัด ก้อนเนื้อชนิดนี้ไม่มีเลือดถูกส่งมา ทำให้เกิดภาวะขาดเลือดมาเลี้ยง จึงทำให้หูรูดของทวารหนักหดตัว เรียกกันว่า "Anal sphincter" เกิดการอักเสบและบวมอย่างหนัก มีลิ่มเลือดเกิดขึ้นภายในริดสีดวงร่วมด้วย จึงเกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงเช่นเดียวกัน 5.รูทวารตีบ การรักษา หรือผ่าตัดเพื่อรักษาโรคริดสีดวงทวารนั้น หากตัดสินใจช้า ริดสีดวงของเราอาจเกิดการอักเสบขนาดหนัก นำมาซึ่งเนื้อตายและแผลเน่าบริเวณรอบรูทวาร เป็นปกติที่กระบวนการซ่อมแซมตัวเองของร่างกายจะสร้างพังผืดขึ้นมา ยิ่งมีแผลเป็นกว้างมากเท่าไหร่ พังผืดก็จะถูกสร้างขึ้นมากเท่านั้น ด้วยสาเหตุนี้ พังผืดจะกินพื้นที่รูทวาร ทำให้เกิดรูทวารตีบ ส่งผลให้ขับถ่ายยาก ปวดทวารหนักอย่างรุนแรงเมื่อขับถ่าย และอาจมีเลือดออก เสี่ยงต่อการเป็นริดสีดวงซ้ำซ้อน และอาจจะเกิดการติดเชื้อ จากภาวะหรือโรคแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นหากไม่มีการรักษาโรคริดสีดวงทวารอย่างทันท่วงทีนั้น แม้ว่าส่วนใหญ่จะดูไม่อันตราย แต่บางภาวะนั้นสามารถส่งผลกระทบถึงแก่ชีวิตได้ หรืออย่างน้อย ๆ ทุกภาวะที่กล่าวมาข้างต้นนั้นสามารถสร้างความเจ็บปวดให้แก่ร่างกายได้ทั้งสิ้น แม้ว่าในท้ายที่สุดจะมีการผ่าตัดริดสีดวงเกิดขึ้นนั้น หากเพียงเราตัดสินใจช้าเกินไป แผลจากการผ่าตัดที่ช้าก็สามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น การป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่ดีที่สุด คือการหมั่นตรวจสอบร่างกายตัวเอง เมื่อรู้เป็นโรคริดสีดวงทวารทวารควรหาทางรักษาโดยไว โดยนอกจากการพบแพทย์แล้ว การรักษาโรคริดสีดวงทวารด้วยสมุนไพรไทย ที่ได้มาตรฐานก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ปลอดภัย การันตรีไร้ผลข้างเคียง มีผลวิจัยรองรับ เราขอแนะนำ ยาบรรเทาริดสีดวงทวารหนัก “ชัยพฤกษา” ยาบรรเทาอาการริดสีดวงทวารหนักสูตรเข้มข้น 5 เท่า ที่รวมรวมสมุนไพรที่มีประโยชน์มากมาย เน้นเยียวยาร่างกายทั้งจากภายในและภายนอก มีอย.และ GMP ยอมรับ ปลอดภัยต่อร่างกาย ไร้ภาวะแทรกซ้อนแน่นอน Line : @chaipruksa Facebook : สมุนไพรชัยพฤกษา รักษาริดสีดวงทวารหนัก ทุกระยะ โทรศัพท์ : 063-154-2424
สาเหตุและอาการของโรคริดสีดวง โรคริดสีดวงหายเองได้ไหม แน่นอนว่าโรคริดสีดวงทวารนั้นสามารถหายเองได้อย่างแน่นอน หากมีการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต หากรู้ตัวไวว่ามีสัญญาณที่จะเป็นโรคริดสีดวง และเริ่มปรับพฤติกรรมตั้งแต่ช่วงต้น คุณสามารถหายจากโรคริดสีดวงได้เอง ไม่จำเป็นต้องทานยา หรือไปพบแพทย์ด้วยซ้ำ แต่ทั้งนี้ วินัย และแรงใจคือสิ่งที่คุณต้องมี ต่อให้จะหายคาใจกันแล้วกับคำถามที่ว่าโรคริดสีดวงหายเองได้ไหม แต่ทั้งนี้ การมียาสามัญประจำบ้านติดไว้ด้วยก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร เพราะเราไม่รู้ว่าคนในครอบครัวจะมีวินัยมากน้อยแค่ไหนในการปรับพฤติกรรม เพราะฉะนั้น ยาสมุนไพรรักษาริดสีดวงชัยพฤกษา ยาสมุนไพรรักษาริดสีดวงที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นยาสามัญประจำบ้าน และมีอย.รองรับความคุณภาพ จึงควรค่าแก่การมีติดบ้านไว้ NOTE : สำหรับริดสีดวงระยะที่ 4 นั้น ซึ่งเป็นระยะที่รุนแรงที่สุด จะค่อนข้างยากที่จะหายได้ อาจจะต้องใช้การเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษา และเลือกวิธีรักษาว่าจะผ่าตัด มัดยาง หรือเลเซอร์ เพราะริดสีดวงระยะที่ 4 คือระยะที่หนักที่สุด บ่งบอกถึงการปล่อยปละละเลย เพียงยาทั่วไปนั้นไม่สามารถเยียวยาได้ แต่ยาสมุนไพรนั้นยังสามารถช่วยทุเลาอาการ และความเจ็บปวด เพื่อรอรับการรักษาจากแพทย์ได้อยู่ หลายๆคนคงเคยเป็นหรืออาจจะมีคนรู้จักเคยเป็น แล้วมีคำถามอยู่ภายในใจว่า โรคริดสีดวงหายเองได้ไหม ก่อนอื่นผมต้องบอกก่อนเลยนะครับว่าโดยส่วนมากแล้ว “โรคริดสีดวงสามารถหายได้เอง” เนื่องจากร่างกายของเราสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ในระดับหนึ่งอยู่แล้วครับเพียงแต่อาจต้องใช้ระยะเวลาอยู่บ้าง ยกเว้นในบางกรณีที่อาจมีอาการรุนแรงขึ้นจนสร้างความยากลำบากต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามผมขอแนะนำให้ทานยากรักษาริดสีดวงหรือถ้าอาการหนักมากแล้วก็ควรไปพบแพทย์ครับ สาเหตุและอาการของโรคริดสีดวง จากการศึกษาในปัจจุบันยังไม่สามารถฟันธงแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ได้นะครับว่าโรคริดสีดวงนั้นเกิดขึ้นจากอะไร แต่จากงานวิจัยพบว่าคนที่เป็นโรคริดสีดวงมักมีพฤติกรรมการนั่งอยู่กับที่เป็นระยะเวลานานโดยไม่ขยับหรือลุกไปเลย นอกจากนี้เรายังพบว่าโรคนี้สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่จะพบมากเป็นพิเศษในกลุ่มผู้สูงอายุ สาเหตุและอาการของโรคริดสีดวง โรคริดสีดวงหายเองได้ไหม แน่นอนว่าโรคริดสีดวงทวารนั้นสามารถหายเองได้อย่างแน่นอน หากมีการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต หากรู้ตัวไวว่ามีสัญญาณที่จะเป็นโรคริดสีดวง และเริ่มปรับพฤติกรรมตั้งแต่ช่วงต้น คุณสามารถหายจากโรคริดสีดวงได้เอง ไม่จำเป็นต้องทานยา หรือไปพบแพทย์ด้วยซ้ำ แต่ทั้งนี้ วินัย และแรงใจคือสิ่งที่คุณต้องมี ต่อให้จะหายคาใจกันแล้วกับคำถามที่ว่าโรคริดสีดวงหายเองได้ไหม แต่ทั้งนี้ การมียาสามัญประจำบ้านติดไว้ด้วยก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร เพราะเราไม่รู้ว่าคนในครอบครัวจะมีวินัยมากน้อยแค่ไหนในการปรับพฤติกรรม เพราะฉะนั้น ยาสมุนไพรรักษาริดสีดวงชัยพฤกษา ยาสมุนไพรรักษาริดสีดวงที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นยาสามัญประจำบ้าน และมีอย.รองรับความคุณภาพ จึงควรค่าแก่การมีติดบ้านไว้ NOTE : แม้ว่าคำตอบของคำถามที่ว่าโรคริดสีดวงหายเองได้ไหม คำตอบคือได้แน่นอน แต่สำหรับริดสีดวงระยะที่ 4 นั้น ซึ่งเป็นระยะที่รุนแรงที่สุด จะค่อนข้างยากที่จะหายได้ อาจจะต้องใช้การเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษา และเลือกวิธีรักษาว่าจะผ่าตัด มัดยาง หรือเลเซอร์ เพราะริดสีดวงระยะที่ 4 คือระยะที่หนักที่สุด บ่งบอกถึงการปล่อยปละละเลย เพียงยาทั่วไปนั้นไม่สามารถเยียวยาได้ แต่ยาสมุนไพรนั้นยังสามารถช่วยทุเลาอาการ และความเจ็บปวด เพื่อรอรับการรักษาจากแพทย์ได้อยู่ วิธีบรรเทาอาการโรคริดสีดวงด้วยตัวเอง - ปรับพฤติกรรมการทานอาหาร เน้นที่มีเส้นใยจำนวนมาก จำพวกพืชตระกูลถั่ว ธัญพืช ข้าวแบบไม่ขัดสี บรอกโคลี เพื่อสร้างไฟเบอร์ให้กับร่างกายมากขึ้นและลดอาการท้องผูกลง - การแช่น้ำอุ่น บริเวณที่เกิดริดสีดวงประมาณครั้งละ 15 นาที วันละหลายครั้ง โดยเฉพาะหลังจากถ่ายอุจจาระเสร็จ จะช่วยบรรเทาอาการคัน และความเจ็บปวดลงได้ - ดื่มน้ำเยอะ ๆ จะช่วยให้อุจจาระนิ่มขึ้นและทำให้เราขับถ่ายได้ง่ายขึ้น - เปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ไม่นั่งอยู่กับที่เป็นเวลานานเกินไป ใช้แรงในการขับถ่ายอุจจาระให้น้อยลง เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับคนที่สงสัยว่าโรคริดสีดวงหายเองได้ไหมน่าจะได้คำตอบและวิธีบรรเทาอาการที่มีประโยชน์กันไปบ้างแล้วนะครับ แต่ถ้าหากใครที่อยากให้ติ่งริดสีดวงของคุณหายเร็วขึ้นผมอยากแนะนำ “สมุนไพรรักษาริดสีดวงตราชัยพฤกษา” ที่เน้นรักษาและเยียวยาริดสีดวงจากภายในร่างกายสู่ภายนอกซึ่งเป็นการรักษาแบบองค์รวม ดูแลการขับถ่ายให้เป็นปกติ การันตีด้วยมาตรฐาน อย. และ GMP หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่ Line : @chaipruksa Facebook : สมุนไพรชัยพฤกษา รักษาริดสีดวงทวารหนัก ทุกระยะ โทรศัพท์ : 063-154-2424
สำหรับใครที่เคยเป็นหรือมีคนรู้จักที่เป็นโรคริดสีดวงอยู่ น่าจะรู้ดีถึงความทรมาณของโรคนี้ ที่นอกจากจะทำให้เราต้องเจ็บปวดร่างกายแล้ว ยังทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่รู้สึกอับอาย จนไม่กล้าไปพบแพทย์อีกด้วย จะเลือกยารักษาริดสีดวงก็ไม่รู้จะเลือกตัวไหนมาทานดี วันนี้ทางทีมงานชัยพฤกษาจของเราจึงอยากพาไปแนะนำกับอีกหนึ่งวิธีในการใช้ยารักษาริดสีดวงจากสมุนไพรไทย ที่รวบรวมสมุนไพรสำคัญที่ใช้ในการรักษาริดสีดวงจากภูมิปัญญาปราชญ์โบราณพื้นบ้านมาอย่างครบถ้วน แล้วยังปลอดภัยด้วยการการันตีจาก อย. อีกด้วย สาเหตุและอาการของโรคริดสีดวง ก่อนเข้าเรื่องยารักษาริดสีดวงในรูปแบบสมุนไพร เราจะพามาทำความรู้จักกับเจ้าโรคริดสีดวงนี้กันก่อนนะครับ โรคริดสีเกิดจากการที่เส้นเลือดบริเวณทวารหนักของเราเกิดอาการบวมจนปูดออกมา คล้ายๆกับการที่เราเป็นเส้นเลือดขอดแต่จะไปเกิดที่บริเวณทวารหนักส่วนล่าง อาจอยู่ได้ทั้งภายในร่างกายเรียกว่า “โรคริดสีดวงทวารภายใน” หรืออาจถูกดันออกมาจนอยู่ภายนอกร่างกายเราจะเรียกว่า “โรคริดสีดวงทวารภายนอก” ซึ่งล้วนแต่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดต่อร่างกายของเรา รู้สึกไม่สบายตัวเวลานั่งหรือบัยตัว และอาจเกิดอาการขับถ่ายเป็นเลือดได้ ซึ่งสาเหตุของโรคริดสีดวงในปัจจุบันยังไม่มีการระบุไว้แบบชัดเจน 100% แต่จากการศึกษาพบว่าคนที่เป็นโรคริดสีดวงมันจะเกิดจากอาการเหล่านี้ คือ - นั่งขับถ่ายหรือนั่งทำงานอยู่กับที่เป็นระยะเวลานาน - มีอาการท้องผูกหรือท้องร่วงเรื้อรัง - อุจจาระแข็งจนทำให้ขับถ่ายลำบาก - รับประทานอาหารจำพวกผักหรือผลไม้ที่มีเส้นใยน้อย ซึ่งในความเป้นจริงแล้วผมอยากบอกว่าการเป็นโรคริดสีดวงนั้นไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยครับ จากสถิติพบว่าคนไทยกว่า 3 ใน 4 ล้วนเคยเป็นโรคริดสีดวงทวาร โดยพบได้ในทุกเพศทุกวัยแต่จะพบได้มากขึ้นเป็นพิเศษในกลุ่มของผู้สูงอายุ ยารักษาริดสีดวงจากสมุนไพร ใช้ได้ผลจริงหรือ ด้วยวิทยาการทางการแพทย์ ที่พัฒนามาจนถึงในปัจจุบัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ผู้คนจะตั้งคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพจากการใช้สมุนไพรรักษาริดสีดวง ในฐานะผู้จัดจำหน่าย เราจะขอสร้างความเข้าใจให้กระจ่างดังนี้ ยารักษาริดสีดวงในรูปสมุนไพรนั้น เป็นการสกัด หรือใช้ผสมจากสมุนไพรพื้นบ้านไทย ที่เป็นส่วนหนึ่งของการแพทย์แผนไทยมาอย่างช้านาน ซึ่งแพทย์แผนไทยก็เป็นหนึ่งในต้นตำรับการแพทย์สมัยใหม่ในหลาย ๆ อย่าง อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วว่าโรคริดสีดวงนั้น อยู่กับมนุษย์โลกมาอย่างช้านาน และสมุนไทยก็ใช้ทา ใช้ทานมาอย่างยาว หากสมุนไพรเสี่ยงอันตรายและไม่เห็นจริง คงไม่อยู่ครู่เรือนคนไทยมาหลายทศวรรตเท่านี้ ยิ่งไปกว่านั้น การแพทย์สมัยใหม่ หรือยารักษาริดสีดวงหมอสั่งที่คนยอมรับกันว่าปลอดภัย บางชนิดก็ผลิตด้วยการสกัดจากสมุนไพร หรือพืชทั่วไป นั่นแปลได้ว่าตัวตั้งต้น หรือสรรพรคุณต้นจากสมุนไพรและพืชนั้น เป็นยารักษาริดสีดวง หรือยาต่าง ๆ ที่ดี และถูกนำไปพัฒนาต่อทางการแพทย์นั่นเอง สำหรับการเลือกใช้ยารักษาริดสีดวงที่ทำมาจากสมุนไพรนั้น ควรเลือกตัวยาที่มีอย. และ GMP รองรับ ซึ่งสมุนไพรรักษาริดสีดวงชัยพฤกษาของเรามีทั้งสองอย่าง เลขทะเบียนจดแจ้ง อย.G179/61 สามารถนำไปตรวจสอบกันได้ หรือหากใครกำลังสนใจจะปลูกสมุนไพรสดไว้ทานเอง ก็ต้องตรวจสอบวิธีการทานให้ดี เพราะสมุนไพรบางตัวนั้นต้องมีวิธีการกินจำเพาะ หลังจากที่อ่านกันมาจนถึงจุดนี้ ทุกคนคงทราบกันดีแล้วสมุนไพรไทยนั้น เป็นยารักษาริดสีดวงตามธรรมชาติ และไม่เป็นอันตราย ในรูปแบบเม็ด หรือแคปซูลที่มีการดัดแปลงสูตร และตวงปริมาณต่อการทานมาให้กินแล้วนั้น ยังสะดวกสบายมากขึ้นอีกด้วย สมุนไพรชัยพฤกษา ยารักษาริดสีดวงจากสมุนไพรไทยแท้ 11 ชนิด ไม่มีสารตกค้าง สนใจกดสั่งได้เลย Facebook : สมุนไพรชัยพฤกษา ยารักษาริดสีดวงทวารหนัก ทุกระยะ โทรศัพท์ : 063-154-2424
สมุนไพรรักษาริดสีดวงนั้น เชื่อใจได้มากน้อยแค่ไหน จะรักษาหายได้หรือไม่ โดนหลอกขายรึเปล่า แพงไหม สิ่งเหล่านี้ คือคำถามคาใจใครหลาย ๆ คนที่กำลังมองหาทางเลือกในการรักษาริดสีดวง ที่นอกเหนือจากการไปพบแพทย์ หรือเภสัช เพราะฉะนั้นในบทความนี้ ชัยพฤกษา แบรนด์สมุนไพรรักษาริดสีดวงชั้นนำของประเทศไทย จะออกมาสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับยาสมุนไพรรักษาริดสีดวงให้กับทุก ๆ คนในบทความต่อไปนี้เอง การใช้สมุนไพรรักษาริดสีดวงเป็นยังไง โรคริดสีดวงนั้นเป็นโรคที่เกิดขึ้นมานานมากแล้ว ซึ่งประเทศไทยของเราเองก็มีวิธีการรักษาแบบเฉพาะตัวด้วยสมุนไพรที่ได้รับการสืบทอดมาจากคนรุ่นสู่รุ่น เหล่าสมุนไพรที่ว่าก็ไม่ใช่พันธุ์พิเศษอะไรไปเสียทั้งหมด เป็นพืชสมุนไพรที่เรารู้จักกันดี แต่อาจจะมองข้าม หรือไม่มีความรู้เกี่ยวกับเหล่าสรรพคุณดี ๆ ของมัน ที่สำคัญ สมุนไพรรักษาริดสีดวงนั้น ยังเป็นหนึ่งวิธีการรักษาแบบแพทย์แผนไทยที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ และภูมิปัญหาดั้งเดิมแบบไทย ๆ เอาไว้ โดยวิธีการรักษาดังกล่าวได้รับความความน่าเชื่อถือมากขึ้นจากการรับรองด้วยผลการทดลองทางวิทยาศาสตร์ว่าได้ผลจริงและมีความปลอดภัย ใช้สมุนไพรรักษาริดสีดวงปลอดภัยแค่ไหน แบบใช้เอง : การใช้สมุนไพรเพื่อรักษาริดสีดวงนั้น จะต้องมั่นใจว่าสมุนไพรที่ได้มานั้น ไม่ได้ผ่านการฉีดสารเคมีใด ๆ เพื่อป้องกันสารตกค้าง จะต้องมีความรู้ว่าต้องใช้ส่วนไหน ใช้เท่าไหร่ และนำมาทำอะไรบ้าง ทำให้อาจจะต้องมีความเชี่ยวชาญระดับหนึ่งหากคิดจะใช้งานเอง เพราะสมุนไพรไทยบางชนิดนั้น แม้จะมีสรรพคุณที่หลากหลาย ช่วยรักษาริดสีดวง และโรคชนิดอื่น ๆ ให้หายขาดได้ แต่การทานสดโดยไม่รู้วิธีทานนั้นอาจให้โทษมากกว่าคุณ สามารถรายละเอียดการใช้สมุนไพรได้ที่ 9 สมุนไพรรักษาริดสีดวงหายขาด แบบซื้อ : ในยุคปัจจุบันนี้ เราแนะนำวิธีการซื้อสมุนไพรแบบสกัด หรืออัดเม็ดทาน เพราะจะช่วยให้คุณสะดวกสบาย ไม่ต้องปลูก หรือออกไปตามหาสมุนไพรบางชนิดที่เริ่มหายากแล้วในปัจจุบัน โดยคุณสามารถหาซื้อยาสมุนไพรแบบเม็ดที่ทำมาเพื่อรักษาโรคโดยเฉพาะและได้รับอนุมัติในทะเบียนตำรับยาได้ นอกจากจะให้ผลดีกว่าเพราะถูกคิดค้นสูตรโดยผู้เชี่ยวชาญแล้ว ยังปลอดภัยต่อร่างกาย ไม่ต้องใช้ความรู้ในการจัดเตรียมเท่ากับการทานสมุนไพรสด สมุนไพรรักษาริดสีดวงสรรพคุณดีหาไม่ยากมีอะไรบ้าง เพชรสังฆาต : สุดยอดสมุนไพรรักษาริดสีดวงที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ช่วยลดอาการอักเสบและทำให้ให้หลอดเลือดดำที่บวมเป่งจากริดสีดวงยุบลงไป สามารถช่วยให้ริดสีดวงหายขาดได้ อัคคีทวาร : อาจจะเป้นชื่อที่ไม่คุ้นหูนัก แต่นี่เป็นสมุนไพรยอดฮิตรองลงมาจากเพชรสังฆาต และนิยมใช้เป็นสมุนไพรรักษาริดสีดวงกันมากเลยทีเดียว เม็ดแมงลัก : หลายคนอาจจะเคยกินคู่กับของหวานมาบ้าง แต่แท้จริงแล้วเจ้าตัวนี้ถือเป็นสมุนไพรอีกขนานที่ช่วยให้อุจจาระนิ่มลง เสริมสร้างระบบขับถ่ายของเราให้ดีขึ้น มะขามป้อม : สมุนไพรฤทธิ์เย็นที่นอกจากจะช่วยลดเสมหะและอาการไอแล้ว ยังช่วยทำให้เราขับถ่ายได้ดีขึ้น ป้องกันท้องผูก ขมิ้นชัน : ช่วยลดในเรื่องของการอักเสบและช่วยฆ่าเชื้อโรค ต้องใช้สมุนไพรรักษาริดสีดวงนานแค่ไหน การใช้สมุนไพรในการรักษาริดสีดวงนั้นจะเป็นการปรับสมดุลร่างกายแบบองค์รวม ทำให้ระยะเวลาที่ใช้ในการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุหลายปัจจัย ทั้งเรื่องของสุขภาพร่างกายของผู้ป่วยและอาการของผู้ป่วยว่าอยู่ในขั้นไหนแล้ว แต่โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักมีอาการดีขึ้นเมื่อได้ทานยาเข้าไป 3-5 วัน ในขั้นแรก แต่ในคนที่มีอาการมากจนถึงขั้น 3 หรือ 4 นั้น อาจจะต้องกินยาต่อเนื่องประมาณ 3 สัปดาห์ขึ้นไป หากคุณกำลังมองหายาสมุนไพรรักษาริดสีดวงแล้วละก็ เราขอแนะนำ “ชัยพฤกษา” ยาสมุนไพรรักษาริดสีดวง ช่วยบรรเทาอาการริดสีดวงทวารหนักสูตรเข้มข้น 5 เท่า ที่รวมรวมสมุนไพรที่มีประโยชน์มากมาย เน้นเยียวยาร่างกายทั้งจากภายในและภายนอก รักษาที่ต้นเหตุ ติ่งฝ่อ เลือดหยุดไหล จบทุกปัญหากวนใจคุณ Line : @chaipruksa Facebook : สมุนไพรชัยพฤกษา รักษาริดสีดวงทวารหนัก ทุกระยะ โทรศัพท์ : 063-154-2424
ผมเชื่อว่าหลายๆคนอาจจะเคยเป็นโรค ริดสีดวงทวารหนัก หรืออาจจะมีคนรู้จักที่เคยเป็นโรคนี้อยู่บ้าง จากสถิติของโรงพยาบาลพญาไทยพบว่ากว่า 70% ของคนไทย เคยเป็นโรคริดสีดวงมาแล้วอย่างน้อยหนึ่งครั้ง โดยจะพบในกลุ่มผู้สูงอายุได้มากกว่าคนหนุ่มสาว แต่คุณรู้หรือไม่ว่าเจ้าโรคร้ายตัวนี้ สามารถรักษาให้หายเองได้ที่บ้าน ปัจจัยแวดล้อมที่ทำให้ริดสีดวงทวารหนักหายเองได้ ริดสีดวงทวารหนักนั้น เป็นโรคที่เกิดขึ้นเอง ดังนั้น ย่อมเป็นโรคที่หายได้เองเช่นกัน แต่ยังไงก็ตาม การปล่อยปละละเลย และใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่ทางออกที่ดี หรือจะทำให้หายขาดจากโรคริดสีดวงทวารหนักที่แน่นอน เพราะปัจจัยที่จะทำให้เราหายขาดจากโรคริดสีดวงได้นั้น เป็นปัจจัยในส่วนของพฤติกรรม ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือพฤติกรรมการกินก็ตาม ทุกอย่างเป็นส่วนที่สัมพันธ์กันหมด รวมไปถึงปัจจัยอื่น ๆ อาทิ กระดาษชำระ แรงดันน้ำของสายฉีดก้น สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรามองข้ามไป เป็นส่วนช่วยในการทุเลา บรรเทา ป้องกัน และรักษาโรคริดสีดวงทวารหนักได้ทั้งนั้น อาการของ ริดสีดวงทวารหนัก อาการของ ริดสีดวงทวารหนัก นั้นจะทำให้เกิดติ่งหรือก้อนแข็งๆบริเวณทวารหนักของเรา อาจมีอาการปวดหรือคันในบริเวณที่มีติ่งริดสีดวงเกิดขึ้นมา หากปล่อยไว้สักพักโดยไม่รักษาจะทำให้ก้อนริดสีดวงใหญ่ขึ้นจนแตกออก ซึ่งทำให้เกิดอาการขับถ่ายเป็นเลือด และนำไปสู้การขาดเลือด โลหิตจาง จนหน้ามืด วิงเวียนศรีษะ เราสามารถตรวจหาริดสีดวงด้วยตัวเองได้ โดยการตรวจเช็คร่างกายตัวเองเวลาที่เราขับถ่าย หากคุณรู้สึกว่ามีก้อนอะไรอยู่บริเวณทวารหนักของคุณ ให้คุณสันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจจะเป็นโรคริดสีดวงและรีบทำการพบแพทย์เพื่อไปตรวจเช็คให้แน่ใจ การรักษา ริดสีดวงทวารหนัก ด้วยตัวเอง ถ้าหากคุณรู้ว่าตัวเองเป็นโรคริดสีดวงได้เร็ว โรคนี้ถือว่าไม่ได้เป็นโรคที่อันตรายร้ายแรง จะสามารถรักษาได้ด้วยตัวเองที่บ้านผ่านการดูแลร่างกายให้ดีและกินยาควบคู่ไปด้วย การดูแลร่างกายตัวเองเมื่อเป็นโรค ริดสีดวงทวารหนัก : คุณควรกินอาหารที่มีกากใยสูงเป็นหลัก หรือจะเป็นโยเกิร์ตเพื่อช่วยในการขับถ่ายก็ได้ แต่ที่สำคัญที่สุดคือคุณต้องกินน้ำในแต่ละวันให้เยอะๆ และบรรเทาอาการได้ด้วยการแช่น้ำอุ่น รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ไม่นั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน, ออกกำลังกายแบบเบาๆเมื่ออาการเริ่มหายดีขึ้น การกินยาเพื่อรักษา ริดสีดวงทวารหนัก : โรคริดสีดวงเป็นโรคที่อยู่คู่กับประเทศไทยมานานแล้ว และในอดีตเราเองก็มีวิธีการใช้สมุนไพรเพื่อมารักษามากมาย แต่ในยุคปัจจุบันคุณสามารถหายารักษาริดสีดวงที่มีส่วนผสมจากสมุนไพรต่างๆ เช่น อัคคีทวาร, ขลู่, เพชรสังฆาต มาใช้งานได้เอง หากคุณมีอาการ ริดสีดวงทวารหนัก แต่ไม่กล้าไปพบแพทย์ อย่าปล่อยให้อาการของคุณหนักจนต้องผ่าตัด อย่างน้อยที่สุดก็ควรกินยาสมุนไพรรักษาริดสีดวงควบคู่กับการดูแลร่างกายตัวเองอย่างเคร่งครัด ถ้าหากใครที่กำลังมองหายาสำหรับการรักษาริดสีดวงทวารอยู่หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับโรคนี้สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาหาเราได้ตามลิงค์โซเชียลด้านล่างบทความนี้เลยครับ
ยาแก้ริดสีดวง จากสมุนไพร เป็นภูมิปัญญาจากแพทย์แผนไทยโบราณที่ได้รับการสืบทอดมานานจากคนรุ่นก่อน และได้ถูกทำให้น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นด้วยวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ผ่านการตรวจสอบแล้วว่าสามารถรักษาริดสีดวงได้จริงและปลอดภัยอย่างไม่น่าเชื่อ โดยยาแก้ริดสีดวงจากสมุนไพรนั้นแม้ว่าจะเป็นหนึ่งในการแพทย์แผนโบราณ แต่ก็ยังเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน เพราะทานง่าย ไม่ต้องสละเวลาไปพบแพทย์ก็หายจากการเป็นริดสีดวงได้ ยาแก้ริดสีดวง ปลอดภัยไหม ยาแก้ริดสีดวงของชัยพฤกษา จะใช้เป็นสมุนไพรทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ โดยตัสยาแก้ริดสีดวง จะอุดมไปด้วยสมุนไพรกว่า 11 ชนิต เป็นสมุนไพรพื้นบ้าน ชื่อคุ้นหูบ้าง ไม่คุ้นหูบ้าง แต่ปลอดภัย ไร้สารเคมีและสารตกค้าง ไม่มีผลข้างเคียงแน่นอน โดยจะทำจากสมุนไพรต่างๆที่มีฤทธิ์แก้ริดสีดวงโดยตรงที่ผ่านการวิจัยมาแล้ว ได้รับมาตรฐาน GMP และ อย. รวมไปถึงกลุ่มลูกค้าที่เคยใช้งานแล้วการันตีได้เลยว่าปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียงอย่างแน่นอน รายละเอียดของยาแก้ริดสีดวงแบบสมุนไพรตราชัยพฤกษา ยาแก้ริดสีดวงตราชัยพฤกษานั้น คัดสรรสมุนไพรที่สรรพคุณเด่น และเน้นการรักษาริดสีดวงเป็นหลัก แต่ยิ่งไปกว่านั้น เพราะสมุนไพร 1 ตัว มักจะรักษาได้มากกว่าหนึ่งโรค หรือบำรุงร่างกายได้หลากหลาย ทำให้นอกจากจะได้ประโยชน์ในเรื่องของการรักษาริดสี 1.เพชรสังฆาต สมุนไพรไทยที่ได้รับการรับรองว่าสามารถรักษาได้หลากหลายโรคและได้รับการวิจัยจากอเมริกาว่าสามารถรักษาโรคริดสีดวงได้เป็นอย่างดี 2.อัคคีทวาร สุดยอดสมุนไพรที่นิยมนำมาใช้ในการรักษาริดสีดวงเนื่องจากช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและยังช่วยในการบีบตัวของลำไส้ 3.ขลู่ ช่วยขับปัสสาวะ ลดไข้และช่วยปรับสมดุลในร่างกายได้เป็นอย่างดี 4.โกศน้ำเต้า ช่วยในการขับลม ล้างลำไส้ ลดไข้และบรรเทาอาการปวดริดสีดวงได้เป็นอย่างดี 5.พริกไทย สมุนไทยที่เราพบเห็บได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ที่ช่วยรักษาริดสีดวงได้เป็นอย่างดีจากการวิจัยของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และลดอาการอักเสบได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรอีกมากมายที่เราใช้เพื่อช่วยรักษาหรือบรรเทาอาการของริดสีดวงให้ดีมากยิ่งขึ้น เช่น ข่าหด, ว่านหางจระเข้, ผักไผ่(ผักแผว), ขมิ้นชัน, มะขามป้อม และอื่นๆอีกมากมาย ทำให้แน่ใจว่าสามารถรักษาหรือบรรเทา แก้อาการริดสีดวงของคุณให้หายขาด ไม่กลับมาเป็นซ้ำได้อย่างแน่นอน ยาสมุนไพรกับยาหมอแผนปัจจุบัน แบบไหนดีกว่ากัน คำถามนี้ เป็นคำถามที่คนมักจะสงสัย ในระหว่างที่กำลังจะชั่งน้ำหนักในการซื้อยาแก้ริดสีดวง โดยไม่ว่าจะยาสมุนไพรรักษาริดสีดวง หรือยาแผนปัจจุบันตามร้านเภสัชทั่วไปนั้น ก็สามารถรักษาริดสีดวงได้เห็นผลจริงทั้งคู่ เพียงแต่อาจจะเป็นทางเลือกที่แล้วแต่ว่าใครจะสะดวกแบบไหน ตัวยาสมุนไพร จะเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการไปพบแพทย์ สั่งมารอทานที่บ้าน หรือติดไว้เป็นยาสามัญประจำบ้านระยะยาว เพราะริดสีดวงนั้นสามารถกลับมาเป็นได้อีก หากพฤติกรรมการใช้ชีวิตไม่ได้ถูกปรับ และอาจจะเหมาะกับผูัสูงวัย ที่มักจะไม่ชอบไปพบแพทย์ กลัวหมอ หรือมีปัญหาค่าตับไม่สามารถกินยาแพทย์แผนปัจจุบันได้ สมุนไพรรักษาริดสีดวง ก็เป็นทางออกตัวเลือกที่ดี และเป็นที่แนะนำเช่นกัน ยาแก้ริดสีดวงแบบสมุนไพร ใช้ระยะเวลานานแค่ไหนถึงจะเห็นผล ในเบื้องต้นระยะเวลาอาจจะขึ้นอยู่กับอาการของผู้ที่เป็นโรคริดสีดวง หากคนที่เพิ่งเป็นในระยะแรกอาจจะใช้เวลาเพียง 3-5 วันเท่านั้นก็จะมีอาการที่ดีขึ้น แต่ในคนที่มีอาการมากหรืออาจจะไปถึงขั้น 3 และ 4 แล้วอาจจะต้องใช้การกินยาต่อเนื่องประมาณ 3 สัปดาห์ขึ้นไป ทั้งนี้สำหรับคนที่มีอาการมากแล้วควรพบเภสัชกรหรือแพทย์เพื่อปรึกษาและให้คำแนะนำควบคู่ไปด้วย เพราะในระดับที่อักเสบสูงอาจจะต้องทำการรักษาโดยแพทย์ ผ่านการผ่าตัดหรือเทคนิคการรักษาอื่น ๆ แต่การทานสมุนไพรควบคู่ไปด้วยก็จะช่วยทุเลาอาการ บรรเทาความเจ็บปวด ทำให้ชีวิตได้สะดวกมากขึ้น หวังว่าหลังจากที่ได้อ่านเนื้อหาด้านบนกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราหวังว่าทุกท่านได้อ่านแล้วคงจะวางใจและสบายใจมากยิ่งขึ้น สำหรับใครที่มีปัญหาหรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ หรือสามารถทักเรามาสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 063-154-2424 หรือช่องทางติดต่อที่ Facebook และ Line ได้เลยครับ
หลายคนอาจจะเคยเป็นโรคริดสีดวงมาก่อนแต่ไม่กล้าไปหาหมอกันใช่ไหมละครับ เนื่องจากในกรณีของริดสีดวงทวารอาจทำให้เกิดอาการเขินอายและไม่กล้าไปรักษาในบางคนได้ แต่รู้หรือไม่ครับ เจ้าโรคริดสีดวงนี้สามารถรักษาให้หายเองได้โดยไม่ต้องพึ่งแพทย์ และใช้เพียงการกินยาอย่างเดียวเท่านั้น แต่หากเป็น ริดสีดวงจะกินยาอะไรดี บทความนี้มีคำตอบ ทำความรู้จักกับโรค ริดสีดวง ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoid) เป็นโรคชนิดหนึ่งเกิดจากการที่กล้ามเนื้อถูกดันออกมาจนเกิดเป็นติ่งเนื้อยื่นออกมาในบริเวณทวารหนัก แบ่งได้เป็นสองประเภท คือ 1.ริดสีดวงภายใน 2.ริดสีดวงภายนอก ซึ่งจะมีลักษณะและอาการแตกต่างกันออกไป อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ อาการของโรคริดสีดวง อาการของโรคริดสีดวงนั้น แบ่งออกได้เป็น 4 ระยะ มีดังนี้ ระยะแรก : ริดสีดวงนั้นยังอยู่ในรูทวารหนัก และไม่ได้ยื่นออกมาอาจมีอาการหน่วงๆอยู่ในบริเวณทวารหนักได้ แต่การบรรเทาอาการนี้สามารถทำได้โดยการแช่ในน้ำอุ่นและใช้ยาเหน็บ หรือกินยาสมุนไพรเพื่อรักษาริดสีดวงต่างๆ ระยะสอง : ริดสีดวงระยะนี้นั้น มีขนาดใหญ่ขึ้น เวลาอุจจาระอาจจะมีการโผล่อยู่บ้าง และยังมีอาการคันๆและเจ็บๆปนกันอยู่ ระยะนี้ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บมากขึ้น และ บางคนอาจจะถึงขั้นกินยาเพื่อบรรเทาและรักษาอาการเจ็บป่วย ระยะสาม : ระยะนี้จะมีขนาดใหญ่ ทำให้รู้สึกรำคาญและเจ็บเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเวลานั่ง โดยในระยะนี้การรักษาโดยการใช้ยาเหน็บหรือการทาน ยาสมุนไพรรักษาริดสีดวง อาจยังไม่เพียงพอ อาจจะต้องใช้การผ่าตัดเข้ามาร่วมด้วยเพื่อให้หายขาด และในระยะนี้ผู้ป่วยอาจมีการเสียเลือดมาก จึงควรกินยาบำรุงเลือดหรือยาบำรุงต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการรักษาริดสีดวง ระยะที่สี่ : ระยะนี้ริดสีดวงของคุณขั้นนี้จะมีขนาดใหญ่มาก และยังมีอาการแสบและอักเสบ อีกทั้งยังมีเลือกกับน้ำเมือกไหลออกมาจากรูทวารของคุณ รวมไปถึงไม่สามารถควบคุมการอุจาระได้ อาการในขั้นนี้นั้นรุนแรงมากและเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น มะเร็งลำไส้, มีอาการติดเชื้อที่แผล ดังนั้นคุณควรจะรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อทำการผ่าตัด หลังจากนั้นจึงกลับมาดูแลรักษาแผลพร้อมรับประทานยาควบคู่ไปด้วย แล้วริดสีดวงกินยาอะไรดีละ ถึงจะหาย ระยะที่ 1 และ 2 ของโรคริดสีดวงสามารถรักษาให้หายได้ด้วยตัวเอง จากการกินยาสมุนไพรหรือยาที่หาได้ทั่วไปยี่ห้อดังนี้ ยาริดสีดวงยี่ห้อไหนดี อยู่ที่ความสะดวกและทางเลือกของคุณ แต่ทั้งนี้ยาสมุนไพรจะค่อนข้างเป็นที่นิยมกันมากกว่า เพราะการันตีจากรุ่นสู่รุ่นว่าหายจริง และถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นยาสามัญประจำบ้าน มีติดไว้ อุ่นใจแน่นอน ระยะที่ 3 และ 4 จำเป็นต้องให้แพทย์เข้ามาช่วยในการรักษา โดยหากมีอาการหนักอาจจะต้องผ่าตัดกันเลยทีเดียว ทั้งนี้ ไม่ว่าจะทานยารูปแบบไหนก็ตาม การปรับพฤติกรรมทั้งการใช้ชีวิต และการกินก็สำคัญไม่น้อยเช่นกัน หากทานยาจนหายดี แต่ไม่ใช่ว่าจะหายขาด การไม่ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต และการกิน จะทำให้ริดสีดวงมีโอกาสวนกลับมาเป็นอีกเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นได้ยาที่ใช้ได้แล้วก็อย่าลืมปรับพฤติกรรมกันด้วย เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ควรปล่อยให้โรคริดสีดวงอยู่กับเรานานจนมีอาการหนักขึ้น แต่ควรรีบกินยาไว้เสียแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่อาการจะหนักไปมากกว่านี้ ซึ่งถ้าถามว่าการเป็น ริดสีดวง กินยาอะไรดีนั้น เราก็ขอแนะนำ “ยาสมุนไพร ชัยพฤกษา” ที่มีสมุนไพรช่วยในการรักษาอาการของโรคริดสีดวงโดยเฉพาะ ทั้งยังปลอดภัยได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองโดย อย. และได้รับมาตรฐานการผลิตจาก GMP ปลอดภัย ไร้สารเคมี ไม่มีผลข้างเคียง หากคุณสนใจสามารถติดต่อหาเราได้เลยในตอนนี้ที่เบอร์ 063-154-2424
ชัยพฤกษา ร่วมแชร์รายละเอียด 6 ข้อเกี่ยวกับโรคริดสีดวงทวารหนัก ที่ใครหลาย ๆ คนยังไม่รู้ และควรจะรู้ไว้ในเนื้อหาต่อไปนี้ ใครอยากรู้จัก และเข้าใจโรคริดสีดวงทวารหนักให้มากขึ้น เพื่อหาวิธีป้องกัน และยับยั้ง อ่านได้จากเนื้อหาต่อไปนี้ 6 สิ่งเกี่ยวกับโรคริดสีดวงทวารหนักที่คุณควรรู้ 1. การเป็นโรคริดสีดวงทวารหนัก เป็นเรื่องปกติ โรคริดสีดวงทวารหนัก นั้นสามารถเป็นกันได้ทุกคนไม่เว้นแม้แต่คุณที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ โดยจากสถิติพบว่าคนที่มีอายุ 50 อย่างน้อย 50 ครึ่งหนึ่งจะเคยเป็นริดสีดวงมาแล้วอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต 2. โรคริดริดสีดวงทวารหนัก สามารถพบได้ในทุกช่วงอายุ แม้โรคริดสีดวงทวารหนักจะพบได้บ่อยในช่วงอายุ 45 ถึง 65 ปี เนื่องจากเมื่อเราอายุมากขึ้นก็จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณทวารหนักอ่อนแอลงเสี่ยงต่อการเป็นริดสีดวงมากขึ้น แต่ก็สามารถพบได้ในคนที่อายุน้อยเช่นกัน โดยสาเหตุหลักที่พบได้ คือแรงดันที่ทวารหนักเพิ่มขึ้นจากอาการท้องผูกหรือท้องร่วง หรือมีการกดทับหน้าท้องระหว่างตั้งครรภ์ซึ่งทำให้เส้นเลือดบวมอาจทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวารหนักได้ 3. โรคริดสีดวงทวารหนัก มีหลายประเภท ริดสีดวง สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทหลักๆ คือ ริดสีดวงภายนอก ริดสีดวงภายใน ริดสีดวง ริดสีดวงทวารนูน และริดสีดวงลิ่มเลือด โดยแต่ละแบบนั้นก็จะมีวิธีการดูแลรักษาที่ต่างกันออกไป โดยคุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่ 4. อาหารที่คุณกิน มีผลต่อการเกิดโรคริดสีดวงทวาร อาการท้องผูกเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่สุดที่ก่อให้เกิดโรคริดสีดวงทวารหนัก การกินอาหารที่มีเส้นใยสูงหรือการกินน้ำให้เพียงพอต่อวันจะช่วยลดอาการท้องผูกและลดโอกาสในการเกิดโรคริดสีดวงทวารหนักได้ 5. คนที่เป็นโรคริดสีดวงทวารหนัก ก็สามารถออกกำลังกายได้ แม้อาการของริดสีดวงจะก่อให้เกิดความเจ็บปวดและความรำคาญ แต่คุณก็ยังสามารถออกกำลังกายได้ โดยอาจจะต้องมีข้อยกเว้นสักเล็กน้อย เช่น การยกของหนักในบางท่าซึ่งส่งผลต่อลำไส้หรือบริเวณกล้ามเนื้อเชิงกราน หากคุณสนใจสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ 6. การรักษาริดสีดวง ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ริดสีดวงสามารถหายได้เองหากคุณรู้ตัวเร็วและดูแลรักษาอย่างดี มีคนที่เป็นริดสีดวงเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้นที่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดจึงจะหาย คุณสามารถหายจากอาการทรมานของโรคนี้ได้ด้วยการใช้ยาเหน็บ หรือการกินยาสมุนไพรรักษาริดสีดวงเข้าร่วมด้วย ก็จะช่วยบรรเทาอาการของริดสีดวงได้เป็นอย่างมาก สำหรับใครที่กำลังได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคริดสีดวงทวารหนัก คุณสามารถทักมาเพื่อปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลการรักษาเกี่ยวกับริดสีดวงต่างๆหรือทักเข้ามาหาเราเพื่อให้เราช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยของคุณได้เลยครับ
ทวารหนัก เป็นอวัยวะสำคัญในร่างกายของเราที่ใช้ในการปล่อยของเสียหลังจากที่ร่างกายของเราได้ย่อยและดูดซึมสารอาหารที่กินเข้าไปแล้ว ซึ่งภายในจะประกอบไปด้วยกล้ามเนื้อที่คอยผลักดันของเสียออกมา โดยกล้ามเนื้อบริเวณภายในทวารหนักจะถูกเรียกว่า “เบาะรอง” (Cusion) การเกิดของโรคริดสีดวงทวาร โรคริดสีดวงทวารเกิดจากการที่กล้ามเนื้อชุดนี้ถูกดันออกมาจากตำแหน่งเดิมแต่ยังอยู่ภายในทวารหนัก เราจะเรียกอาการแบบนี้ว่า“ริดสีดวงภายใน” (Internal Hemorrhoid)ซึ่งทำให้เกิดความเจ็บปวดและความรำคาญในเวลาที่เราถ่ายหนัก แต่หากกล้ามเนื้อเหล่านี้ถูกดันออกมานอกบริเวณปากทวารหนักจนยื่นออกมานอกร่างกาย เราจะเรียกอาการแบบนี้ว่า“ริดสีดวงภายนอก” (External Hemorrhoid)ซึ่งทำให้เกิดการเจ็บปวดเป็นอย่างมากรวมไปถึงเสียงต่อการเกิดริดสีดวงทวารแตกและติดเชื้อในเวลาต่อมาได้ สาเหตุของการเกิดโรคริดสีดวงทวารยังไม่สามารถสรุปได้อย่างแน่ชัดว่าเกิดจากอะไร แต่เชื่อกันว่ามีความเกี่ยวข้องกับแรงดันภายที่เพิ่มขึ้นของเส้นเลือดภายในทวารหนักจนทำให้เส้นเลือดนูนหรือบวมออกมา โดยอาจเกิดจากการที่เราเบ่งอุจจาระแรงเกินไป, นั่งอุจจาระเป็นเวลานาน, โรงอุจจาระร่วง และอาการท้องผูกเรื้อรัง อาการของโรคริดสีดวงทวาร อาการของริดสีดวงทวารนั้นแบ่งออกได้เป็น 4 ระยะ ระยะแรก : ในระยะนี้ริดสีดวงสามารถจะหายเองได้โดยไม่มีการผ่านตัด ซึ่งริดสีดวงนั้นยังอยู่ในรูทวารหนัก และไม่ได้ยื่นออกมา แต่การบรรเทาอาการนี้สามารถทำได้โดยการแช่ในน้ำอุ่นและใช้ยาเหน็บ หรือกินยาสมุนไพรเพื่อรักษาริดสีดวงต่างๆ ระยะสอง : ริดสีดวงระยะนี้นั้น มีขนาดใหญ่ขึ้น เวลาอุจจาระอาจจะมีการโผล่ยุบ้าง และยังมีอาการคันๆและเจ็บๆปนกันอยู่ ระยะนี้ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บมากขึ้น และ บางคนอาจจะถึงขั้นกินยา ระยะสาม : ระยะนี้จะมีขนาดใหญ่ ทำให้รู้สึกรำคาญและเจ็บเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเวลานั่ง โดยในระยะนี้การรักษาโดยการใช้ยาเหน็บหรือการทาน ยาสมุนไพรรักษาริดสีดวง อาจยังไม่เพียงพอ อาจจะต้องใช้การผ่าตัดเข้ามาร่วมด้วยเพื่อให้หายขาด และในระยะนี้ผู้ป่วยอาจมีการเสียเลือดมาก จึงควรกินยาบำรุงเลือดหรือยาบำรุงต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการรักษาริดสีดวง ระยะที่สี่ : ระยะนี้ริดสีดวงของคุณขั้นนี้จะมีขนาดใหญ่มาก และยังมีอาการแสบและอักเสบ อีกทั้งยังมีเลือกกับน้ำเมือกไหลออกมาจากรูทวารของคุณ รวมไปถึงไม่สามารถควบคุมการอุจาระได้ อาการในขั้นนี้นั้นรุนแรงมากและเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น มะเร็งลำไส้, มีอาการติดเชื้อที่แผล ดังนั้นคุณควรจะรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อทำการผ่าตัด หลังจากนั้นจึงกลับมาดูแลรักษาแผลพร้อมรับประทานยาควบคู่ไปด้วย โดยสรุปแล้วในระยะที่ 1 และ 2 จะถือเป็น ริดสีดวงภายใน ที่สามารรักษาได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องใช้การผ่าตัดเข้าช่วย เพียงใช้ยาเหน็บหรือการกินยาเพื่อช่วยในการรักษาเท่านั้น แต่ถ้าหากปล่อยเลยไปจนเข้าสู่ระยะที่ 3 และ 4 จะถือว่าเป็น ริดสีดวงภายนอก ซึ่งอันตรายเป็นอย่างมากและควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการรักษาโดยเร็วที่สุด เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับบทความนี้ หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆที่กำลังเป็นโรคริดสีดวงทวารอยู่ไม่มากก็น้อยนะครับ ส่วนใครที่กำลังมองหายาสำหรับการรักษาริดสีดวงทวารอยู่หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับโรคนี้สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาหาเรา ได้ที่นี่เลยครับ
ริดสีดวงภายใน คืออะไร หลายคนยังไม่เข้าใจและเข้าใจผิดจำสลับกับริดสีดวงภายนอกอยู่มาก ในบทความนี้ชัยพฤกษาจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจกับ ริดสีดวงภายในให้ลึกซึ้งขึ้น ว่าริดสีดวงภายในนั้นคืออะไร แตกต่างจากริดสีดวงภายนอกอย่างไร และทำไมคนถึงเข้าใจผิด 1. ริดสีดวงภายใน อย่างแรกที่ทุกคนควรทำความเข้าใจนั้น ริดสีดวงภายใน ก็คือริดสีดวงที่มีติ่งโผล่ออกมาจากทวารหนักอย่างที่เป็นกันทั่วไป ไม่่ได้หมายความว่าริดสีดวงภายในจะต้องอยู่ภายในร่างกายเท่านั้น หลายคนเมื่อเห็นติ่งริดสีดวงภายในโผล่ออกมาทางทวารหนัก ก็จะเข้าใจว่ามันคือริดสีดวงภายนอก (เพราะเห็นด้วยตาเปล่าทันที) ริดสีดวงประเภทนี้ แรกเริ่มจะเกิดขึ้นด้านในของทวารหนัก อาจจะมีอาการเจ็บปวด รวมไปถึงอาการคันและระคายเคืองในบริเวณที่มีริดสีดวงอยู่บ้างเล็กน้อย ในระยะ 3 และ 4 ระยะที่ริดสีดวงค่อนหนักและเติบโตขึ้นนั้น ริดสีดวงจะมีติ่งเนื้อย้อยมาจากรูทวารหนัก ในกรณีนี้จะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดและความไม่สบายตัวมากกว่าแบบปกติอยู่บ้าง ริดสีดวงภายใน และริดสีดวงภายนอกต่างกันอย่างไร อย่างที่ได้อธิบายไปแล้วนั้น ริดสีดวงภายใน แรกเริ่มจะเกิดจากภายใน เมื่อหนักเข้าเนื้อติ่งริดสีดวงก็จะโผล่พ้นออกมาจากทวารหนัก ทำให้เห็นได้ แต่สำหรับริดสีดวงภายนอกนั้น หัวริดสีดวงจะอยู่ภายนอกตั้งแต่ต้น จะเริ่มเป็นในบริเวณปากทางเข้า ตรงขอบหยักของรูทวารนั้น ในระยะเริ่มต้นก็สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า แม้ ริดสีดวงภายใน อาจจะก่อให้เกิดความรำคาญและความไม่สะดวกสบายอยู่บ้าง แต่ก็เป็นโรคที่สามารถรักษาหายได้ด้วยตัวเอง โดยอาจะใช้การทานยาหรือสมุนไพรรักษาริดสีดวง เพื่อช่วยให้ร่างกายหายเร็วขึ้นก็ได้ โดยส่วนมากริดสีดวงประเภทนี้อาจจะไม่ถึงขั้นต้องผ่าตัด แต่ก็จำเป็นต้องดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ วิธีการดูแลตัวเองเมื่อเป็นริดสีดวงภายใน 1. อาบน้ำอุ่น หรือ แช่น้ำอุ่น วิธีนี้เป็นวิธีรักษาโรคริดสีดวงที่ทำได้ง่ายมากและได้ผลดีเยี่ยม แถมยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดลงอีกด้วย เนื่องจากการใช้น้ำอุ่นจะช่วยทำให้เลือดมีการไหลเวียนที่ดีขึ้น ทำให้เลือดที่กระจุกอยู่บริเวญติ่งกระจายออกไป จนกระทั่งยุบลงไปเอง 2. ทานผักผลไม้อยู่เป็นประจำและดื่มน้ำให้มาก การกินอาหารหรือผลไม้ที่มีกากใยสูงและดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน จะช่วยให้ระบบการขับถ่ายของเราดีขึ้น และยังช่วยชำระสิ่งสกปรกต่างๆที่ค้างอยู่ในลำไส้ของเราออกมา โดยควรจะเลือกสิ่งที่กินให้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่สงสัยว่า โรคริดสีดวงห้ามกินอะไรบ้าง สามารถอ่านได้ที่นี่เลยครับ 3. ออกกำลังกายอยู่บ่อยๆ การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้วยังช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีมากขึ้นอีกด้วย โดยการออกกำลังกายที่แนะนำอาจจะเป็นการออกกำลังกายที่ไม่ต้องใช้อรงมากเกินไป สามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการออกกำลังกายสำหรับคนที่เป็นโรคริดสีดวง ได้ที่นี่ 4. ขับถ่ายและทำความสะอาดอย่างถูกวิธี การขับถ่ายของคนที่เป็นโรคริดสีดวงอาจจะเป็นเรื่องยุ่งยากอยู่บ้าง เนื่องจากคนที่เป็นโรคนี้ควรจะต้องขับถ่ายโดยไม่ใช้แรงเยอะ เพื่อไม่ทำให้ริดสีดวงเกิดปวดขึ้นมา และหลังจากขับถ่ายแล้วควรจะทำความสะอาดทวารหนักเบาๆด้วยกระดาษเปียกหรือผ้าทำความสะอาดที่ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง 5. ปรับเปลี่ยนอิริยาบถในชีวิตประจำวัน สาเหตุส่วนหนึ่งของโรค ริดสีดวงภายใน เกิดจากการที่เรามักจะ ยืน นั่ง หรือขับถ่ายเป็นระยะเวลานานๆโดยไม่เปลี่ยนนท่า ซึ่งการทำสิ่งเหล่านี้จะทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี ดังนั้นคนที่เป็นโรคริดสีดวงควรจะเปลี่ยนอิริยาบถอยู่เสมอ อย่างน้อยควรเปลี่ยนและขยับตัวทุกๆ 1 ชั่วโมง เป็นยังไงบ้างครับหวังว่าบทความนี้คงจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังมีปัญหาจากโรค ริดสีดวงภายใน อยู่บ้างรนะครับ ขอให้ทุกท่านปลอดภัย แข็งแรง หายปวดเร็วๆนะครับและสำหรับใครที่กำลังมองหาตัวช่วยในการรักษาโรคริดสีดวงทวารให้ดีขึ้นทางเราขอแนะนำ ยารักษาโรคริดสัดวง ตราชัยพฤกษา ที่จะช่วยให้อาการของคุณดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ
ริดสีดวง หรือ ริดสีดวงทวาร เป็นโรคที่หลายๆคนมักจะเป็นกัน แต่ไม่กล้าที่จะบอกคนอื่นหรือไปหาหมอเพื่อรักษา เนื่องจากอายที่จะบอกคนอื่น ว่าแต่เจ้าริดสีดวงนี้มันอันตรายไหมละ วันนี้เราจะไปหาคำตอบกันครับ ทำความรู้จักกับ ริดสีดวง โรคริดสีดวง เกิดจากการที่เส้นเลือกบวมในทวารหนักส่วนล่างคล้ายๆกับเส้นเลือดขอด ทำให้เกิดการเจ็บปวดเวลานั่ง โดยทั่วไปแล้วริดสีดวงสามารถเกิดขึ้นภายในทวารหนัก (ริดสีดวงทวารภายใน) หรือใต้ผิวหนังรอบทวารหนัก (ริดสีดวงทวารภายนอก) อาการของริดสีดวงนั้นอาจจะหนักหน่วงจนทำให้หลายๆคนทุกทรมานเป็นอย่างมาก หรืออาจจะไม่ได้แสดงอาการเจ็บปวดออกมามากนัก แต่ในบางกรณีที่ไม่ได้แสดงอาการเจ็บปวดออกมา อาจจะพบอาการที่มีเลือดปะปนกับอุจจาระจนต้องไปพบแพทย์ แต่โดยทั่วไปเมื่อเริ่มเป็นแรกๆคนที่เป็นโรคริดสีดวงทวารมักจะมีอาการคัน หรือมีอาการบวมและอักเสบร่วมด้วยและในกรณีที่ผู้ป่วยเป็น ริดสีดวงภายนอก มักจะมีอาการเจ็บปวดมากกว่าผู้ป่วยโรคริดสีดวงธรรมดา ริดสีดวง อันตรายไหม ขึ้นชื่อว่าโรค ล้วนอันตรายหมดหากเราไม่เอาใจใส่ ดูแลรักษา และแน่นอน โรคริดสีดวงก็เช่นกัน ในเบื้องต้นอาการของโรคริดสีดวงอาจจะไม่รุนแรงมากนักและสามารถรักษาได้หากคุณไปพบแพทย์ แต่หากคุณนิ่งเฉยและไม่ดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองจนกระทั่ง ริดสีดวงแตกก็อาจจะมีอาการแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ โรคโลหิตจาง หรือลิ่มเลือดเข้ามาได้ อาการของโรคริดสีดวง แต่ละระยะอันตรายแค่ไหน รักษาอย่างไรบ้าง อาการของโรคริดสีดวงนั้นแบ่งออกได้เป็น 4 ระยะ ระยะที่ 1 : ริดสีดวงยังอยู่ในรูทวารหนักและยังไม่ได้ยื่นออกมา ในระยะนี้สามารถหายได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เพียงบรรเทาอาการด้วยการแช่ในน้ำอุ่น ใช้ยาเหน็บ หรือกินยาสมุนไพรเพื่อรักษาริดสีดวงต่างๆก็สามารถหายได้ ระยะที่ 2 : ริดสีดวงมีขนาดใหญ่ขึ้น อาจจะมีการโผล่ออกมาเวลาที่เราอุจจาระอยู่บ้าง และจะมีอาการเจ็บๆคันๆเข้ามาร่วมด้วย ในระยะนี้ผู้ป่วยโรคริดสีดวงจะเริ่มรู้สึกเจ็บมากขึ้นจนบางรายอาจจะใช้การกินยาแก้ปวดเข้ามาร่วม แต่ในระยะนี้ก็ยังสามารถรักษาได้เองโดยการใช้ยาเหน็บ หรือกินยาสมุนไพรเพื่อรักษาริดสีดวงต่างๆ ก็ยังสามารถรักษาให้หายได้ ระยะที่ 3 : ในระยะนี้ริดสีดวงจะมีขนาดใหญ่มากและโผล่ออกมาจากรูทวารแล้ว การอุจจาระอาจจะมีเลือดปะปนออกมา ทำให้รู้สึกรำคาญและเจ็บเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเวลานั่ง โดยในระยะนี้การรักษาโดยการใช้ยาเหน็บหรือการทาน ยาสมุนไพรรักษาริดสีดวง อาจยังไม่เพียงพอ อาจจะต้องใช้การผ่าตัดเข้ามาร่วมด้วยเพื่อให้หายขาด และในระยะนี้ผู้ป่วยอาจมีการเสียเลือดมาก จึงควรกินยาบำรุงเลือดหรือยาบำรุงต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการรักษาริดสีดวง ระยะที่ 4 : หากอาการโรคริดสีดวงของคุณมาถึงขั้นนี้ ริดสีดวงของคุณจะมีขนาดใหญ่มาก อาจมีการอักเสบและมีเลือดกับน้ำเมือกไหลออกมาจากรูทวารของคุณ รวมไปถึงไม่สามารถควบคุมการอุจจาระได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างที่เคย ผมต้องบอกเลยครับว่าอาการในขั้นนี้นั้นรุนแรงมากและเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น มะเร็งลำไส้, มีอาการติดเชื้อที่แผล ดังนั้นคุณควรจะรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อทำการผ่าตัด หลังจากนั้นจึงกลับมาดูแลรักษาแผลพร้อมรับประทานยาควบคู่ไปด้วย เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ทีนี้เราก็ได้รู้กันแล้วนะครับว่า บทความเกี่ยวกับริดสีดวง และมีอาการอย่างไร เราควรต้องดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อทุกท่านไม่มากก็น้อยนะครับ สำหรับใครที่กำลังเป็นโรคริดสีดวงอยู่ผมอยากให้ท่านอ่าน บทความเกี่ยวกับริดสีดวง เพื่อจะได้ดูข้อมูลเกี่ยวกับโรคริดสีดวงต่างๆให้มากที่สุด และขอให้ทุกท่านโชคดีหายจากโรคนี้โดยเร็วครับ
4 ประเภทริดสีดวง โรคเจ้าปัญหาที่จะมาสร้างความรำคาญให่กับคุณ ซึ่งการดูแลรักษา รวมถึงการเลือกใช้ยาก็อาจจะมีความแตกต่างกัน ดังนั้นใครที่กำลังป่วยเป็นริดสีดวงหรือเริ่มมีอาการเหมือนจะเป็นริดสีดวงก็ควรเริ่มใส่ใจและค้นหาข้อมูล เพราะยิ่งรู้เร็วเท่าไหร่โอกาสในการหายก็ง่ายขึ้นเท่านั้น 4 ประเภทริดสีดวง เรื่องที่ทุกคนต้องรู้ ต้องบอกก่อนว่าริดสีดวงโดยทั่วไปที่มักจะเป็นกันนั้นมีทั้งริดสีดวงภายในและภายนอก แต่แท้จริงแล้วยังมีริดสีดวงอีก 2 แบบที่แยกย่อยออกมา และอาจจะยังไม่ค่อยได้ถูกนำมาพูดถึงสักเท่าไหร่ ริดสีดวงทวารภายใน - พบภายในทวารหนัก ริดสีดวงภายในเป็นประเภทริดสีดวงที่ไม่สามารถมองเห็นได้ เพราะมักจะเกิดอยู่ลึกในทวารหนัก ซึ่งผู้ป่วยอาจจะไม่มีอาการเจ็บปวด แต่ในบางครั้งริดสีดวงทวารภายในอาจจะบวม และยื่นออกมาจากทวารหนัก ซึ่งทำให้เจ็บและอาจจะมีเลือดออกร่วมด้วยในขณะขับถ่าย ริดสีดวงทวารภายนอก - เป็นประเภทริดสีดวงที่พบค่อนข้างเยอะ และไม่ค่อยร้ายแรง แต่ก็สร้างความรำคาญและอาการปวดได้เยอะทีเดียว โดยริดสีดวงชนิดนี้จะอยู่ใต้ผิวหนังรอบทวารหนักเหมือนเป็นก้อนแข็ง ทำให้รู้สึกเจ็บปวดและไม่สบายตัวมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเวลาการขับถ่ายและการนั่งนานๆ ริดสีดวงทวารนูน (Prolapsed) – ริดสีดวง Prolapsed ถือเป็นประเภทริดสีดวงภายใน ที่เกิดจากการที่หลอดเลือดดำในทวารหนักบวมและนูนออกมาจากทวาร ซึ่งอาจจะสร้างความเจ็บปวดได้ ผู้ป่วยมักจะเจอก้อนเส้นเลือดที่บวมออกมา หลายครั้งมีอาการคันและมีเลือดออกร่วมด้วย ริดสีดวงทวารลิ่มเลือด (Thrombosed) - เป็นริดสีดวงที่ไม่มีเลือดไหลเนื่องจากเกิดการอุดตันของเลือด ส่วนใหญ่มักเป็นประเภทริดสีดวงที่เกิดจากภายนอก แต่ในบางรายก็สามารถเป็นภายในได้เช่นกัน โดยริดสีดวงชนิดนี้ถือเป็นโรคริดสีดวงทวารที่เกิดจากลิ่มเลือดไม่ถือว่าเป็นอันตราย แต่ก็อาจเจ็บปวดได้มากเช่นกัน การดูแลรักษาริดสีดวงทั้ง 4 ประเภทด้วยตนเอง โดยปกติการเกิดริดสีดวงมักจะเกิดจากพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่ถูกต้อง แต่สำหรับประเภทริดสีดวงบางชนิดนอกจากการปรับพฤติกรรมแล้วอาจจะต้องหาตัวช่วยมาใช้ เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด ดังนั้นแนะนำว่าหากเพิ่งเริ่มเป็นริดสีดวงใหม่ๆ ต้องรีบหาทางรักษาก่อนที่อาการจะแย่ลงได้ การดูแลรักษาสำหรับริดสีดวงภายในและภายนอก เบื้องต้นแนะนำให้ปรับปรุงเรื่องกากใยอาหารที่ได้รับในแต่ละวัน โดยแนะนำให้ทานเส้นใยเพิ่มมากขึ้น หรือจะชงไฟเบอร์เสริมเพื่อช่วยในเรื่องของกากใยก็ได้เช่นกัน ที่สำคัญต้องพยายามดื่มน้ำตามเยอะๆ เพื่อป้องกันท้องผูก นอกจากนี้ยังสามารถบรรเทาอาการด้วยการแช่น้ำอุ่นเป็นประจำวัน เพื่อช่วยให้อาการบวมและอาการเจ็บปวดลดน้อยลง พยายามลดระยะเวลาในการนั่งห้องน้ำนานๆ เพราะทำให้อาการปวดและแผลแย่ลงได้ พออาการเริ่มบรรเทาลงแล้ว ควรจะหันมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยในเรื่องการขับถ่ายและระบาย นอกจากนี้หากยังเป็นริดสีดวงแบบเบื้องต้น อาจจะลองใช้สมุนไพรเพชรสังฆาต มะขามป้อม หรือขมิ้นชันมาช่วยในเรื่องการระบายท้องและลำไส้ร่วมด้วย การดูแลตัวเองสำหรับริดสีดวงทวารนูน (Prolapsed) โดยทั่วไปแนะนำให้ปฏิบัติตัวตามการดูแลตนเองเหมือนกับริดสีดวงทวารภายในและภายนอกเลย แต่อาจจะเสริมด้วยการทาขี้ผึ้งหรือ Oilment เพื่อลดอาการคัน และสำหรับคนที่เป็นเยอะแนะนำให้ไปพบแพทย์เพราะสามารถรักษาด้วยแสงอินฟาเรดร่วมด้วยเช่นกัน การดูแลตัวเองสำหรับริดสีดวงทวารลิ่มเลือด (Thrombosed) ยังคงแนะนำให้ปฏิบัติตัวเหมือนข้อมูลข้างต้น แต่ริดสีดวงลิ่มเลือดเป็นประเภทริดสีดวงที่อาจจะมีอาการปวดจะแย่ที่สุดในช่วง 24 ถึง 48 ชั่วโมงแรก แต่หลังจากนั้นอาการปวดก็จะค่อยลดลงไปเอง การทานยาสมุนไพร สมุนไพรรักษาริดสีดวง หนึ่งในตัวช่วยรักษาริดสีดวง ไม่ว่าจะเป็นประเภทริดสีดวงแบบไหนก็รักษาให้หายขาดได้ ยามีอย.รอบรับ และได้ขึ้นทะเบียนเป็นยาสามัญประจำบ้าน ตัวยาอุดมไปด้วยสรรพคุณจากสมุนไพรกว่า 11 ชนิด ช่วยรักษาโรคริดสีดวงได้อยู่หมักแน่นอน
โรคริดสีดวง คนท้องต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้นเป็นพิเศษ เพราะแม้จะไม่เป็นอันตรายกับบุตรในครรภ์ แต่การใช้ชีวิตนั้นจะยากมากขึ้นพอสมควร โดยรคริดสีดวง คนท้องนั้นพบได้เยอะเลยทีเดียว เพราะจากข้อมูลวิจัยใน NCBI พบว่าการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและความดันในช่องท้องนั้นจะเพิ่มขึ้นมากในช่วงตั้งครรภ์ โดยมีการประเมินว่าโอกาสในการเกิดริดสีดวงสำหรับผู้หญิงที่ตั้งท้องนั้นมีราวๆ 25% - 35% นอกจากนี้ผู้หญิงที่ท้อง 85% มักจะเป็นริดสีดวงทวารในช่วงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์อีกด้วย โดยปัจจัยหลักในการเกิดริดสีดวง คนท้องมีดังต่อไปนี้ โรคริดสีดวง คนท้องมักจะเป็นเพราะสาเหตุใด มดลูกขยาย เนื่องจากมดลูกที่ขยายใหญ่ขึ้นในสัปดาห์ที่ 25 ของการตั้งครรภ์ การไหลเวียนของเลือดจะเพิ่มสูงขึ้นในอุ้งเชิงกราน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้หลอดเลือดดำที่ผนังทวารหนักเกิดอาการบวมนูน อันเป็นปัจจัยให้เกิดริดสีดวง คนท้องโดยตรงทีเดียว ปัญหาการขับถ่ายในระหว่างตั้งครรภ์ ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หลาย ๆ คนมักจะเกิดอาการฮอร์โมนแปลปรวน ทำให้เกิดอาการท้องผูกบ่อยขณะตั้งครรภ์ รวมถึงการเดินเหินที่ยาก ทำให้มักจะอั้นไม่ยอมขับถ่าย จนทำให้เกิดอาการท้องผูก ขับถ่ายยาก และเป็นริดสีดวงในที่สุด ท้องหลายคนอาจจะมีปัญหาเรื่องการรับประทานอาหารและอาการแพ้ท้อง ซึ่งเป็นผลพวงที่ทำให้เกิดอาการท้องผูก จนหลายคนถึงขั้นเป็นริดสีดวงเช่นกัน การเบ่งคลอด แม้ว่าจะเกิดขึ้นไม่บอ่ย แต่การเบ่งแรง ๆ ขณะคลอดบุตรบางคร้้งก็ทำให้เกิดการเกร็งของเส้นเลือดบริเวณทวารหนักได้ ทำให้เกิดเกิดโรคริดสีดวงตามมาหลังคลอดบุตร แต่ในเคสนี้มักจะหายเองได้ในระยะเวลาไม่นาน จากทั้ง 3 ข้อนี้นั้น จะเห็นได้ว่าบางอย่างก็เป็นเรื่องที่เราเลี่ยงได้ยาก หรือเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตในรูปแบบอื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อให้ริดสีดวง คนท้องนั้นเกิดขึ้นได้ยากมากขึ้น 7 วิธีการดูแลรักษา และป้องกันริดสีดวง คนท้องเบื้องต้น นอนตะแคง - หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าการนอนตะแคงนั้น จะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคริดสีดวง คนท้องได้อย่างไร แต่การนอนตะแคงนั้น โดยเฉพาะการนอนตะแคงซ้าย จะช่วยลดแรงกดในบริเวณเส้นเลือดดำของทวารหนัก ทำให้โรคริดสีดวงนั้นเกิดขึ้นได้ยากขึ้น เน้นทานผลไม้เนื้อนิ่ม - มะละกอ กล้วย ลูกพรุน จะช่วยสร้างไฟเบอร์ให้การขับถ่ายนั้นไม่ต้องออกแรงเบ่งมากขึ้น ขับถ่ายง่าย และขับถ่ายเป็นเวลา เป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพและช่วยให้ริดสีดวง คนท้องนั้นเกิดได้ยากขึ้นอีกด้วย ที่สำคัญเวลาทานอาหาร ต้องเคี้ยวให้ละเอียดมากขึ้น ดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม - การดิ่มน้ำเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพอยู่แล้ว รวมไปถึงการดื่มน้ำในปริมาณที่ร่างกายต้องการ 1.5-2 ลิตรนั้น นอกจากจะช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ยังช่วยให้ระบบขับถ่ายดีอีกด้วยเช่นกัน กระดาษชำระเนื้ออ่อน - เพื่อเป็นการป้องกันอย่างถึงที่สุด กระดาษชำระก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะกระดาษชำระที่หนาไป อาจเสียดสีกับผิวหนังบริเวณทวารหนักมากเกินไป อาจทำให้เกิดริดสีดวงได้ด้วยเช่นกัน ใช้หมอนรองก้น - การใช้หมอนรองก้นขณะนอนนั้น ช่วยได้มากในหญิงตั้งครรภ์ที่สุ่มเสี่ยงจะเป็นริดสีดวง เพราะช่วงครรภ์ที่มาก จะทำให้ช่วงบริเวณท้องลงมาต้องรับน้ำตัวที่มากเช่นกัน การกดทับสะสมขณะนอน หรือนั่ง อาจจะทำให้เส้นเลือดดำแตกได้โดยไม่รู้ตัว และทำให้ริดสีดวงถามได้ แช่ตัวในอ่างน้ำอุ่น - สำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่สุ่มเสี่ยงจะเป็นริดสีดวง เริ่มมีรู้สึกคัน หรือหน่วงบริเวณทวารหนัก การแช่น้ำอุ่นจะช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ พยายามเลี่ยงการเกา หรือสัมผัส เพราะอาจจะทำให้ระดับของอาการมากขึ้นด้วยเช่นกัน ข้อควรรู้ ในกลุ่มโรคริดสีดวง คนท้องนั้น มักจะไม่นิยมทำการผ่าตัด เพราะฉะนั้นหากรู้ตัวว่าเป็นควรปรับพฤติกรรม หรือทานยาตามแพทย์สั่งจะดีที่สุด
ริดสีดวงภายนอก คืออะไร หลาย ๆ คนยังคงเข้าใจผิดว่าริดสีดวงภายใน คือริดสีดวงนอกภาย แต่ที่จริงแล้ว ริดสีดวงภายนอกนั้น มีลักษณะ สัญญาณ และวิธีการเกิดที่แตกต่างจากริดสีดวงภายใน เพราะฉะนั้นในบทความนี้ ชัยพฤกษา จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับริดสีดวงภายนอกให้มากขึ้น 1. ริดสีดวงทวารภายนอก เกิดขึ้นใต้ผิวหนังด้านนอกของทวารหนัก พูดให้เห็นภาพมากขึ้นก็คือมักจะมีติ่งบวมแดงบริการรอยหยักของขอบรูทวาร ซึ่งคนมักเป็นกันเยอะ และหากเป็นริดสีดวงชนิดนี้คนทั่วไปก็มักจะรักษาริดสีดวงภายนอกเบื้องต้นด้วยตัวเองเป็นส่วนใหญ่ เพราะไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ โดยสาเหตุก็มักจะเกิดจากการท้องผูก อุจจาระแข็ง นั่งห้องน้ำนาน ส่วนอาการนั้นเนื่องจากอยู่ภายนอกจึงมักจะเจ็บปวดหรือคันบริเวณทวารหนัก รวมถึงมีเลือดออกตอนถ่ายท้อง ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายตัวเลย ความอันตรายของริดสีดวงภายนอก และภายในต่างกันหรือไม่ ในเรื่องของความอันตราย และผลกระทบต่อการใช้ชีวิตนั้น อาจจะไม่ได้ต่างกันเสียเท่าไหร่ เพียงแต่ริดสีดวงภายนอก อาจจะใช้ชีวิตลำบากกว่าริดสีดวงภายในตั้งแต่เริ่มแรก เพราะการเกิดติ่งริดสีดวงเกิดขึ้นที่ภายนอก ทำให้เสียดสีกับกางเกง และนั่งลำบาก ในขณะที่ริดสีดวงภายในแรกเริ่มอาจจะหน่วง ๆ ภายในก้น แต่ยังเดินเหิน และนั่งได้สบายอยู่ หากไม่ได้รับการรักษาทีถู่กต้อง หรือไม่มีการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ผลกระทบจากริดสีดวงทั้ง 2 รูปแบบก็จะอันตรายไม่ต่าง วิธีดูแลตนเองและวิธีรักษา ริดสีดวงภายนอก แบบเบื้องต้น โดยส่วนมากหากเป็นริดสีดวงภายนอก มักจะเป็นเพียงไม่นานก็สามารถยุบหรือหายไปได้เอง แต่การที่ริดสีดวงเกิดขึ้นภายนอกอาจจะส่งผลให้รู้สึกเจ็บปวดคัน หรือระคายเคือง ซึ่งทำให้ทั้งรำคาญตัวเอง และหมดความมั่นใจในการออกไปข้างนอก เนื่องจากริดสีดวงภายนอกมักจะสัมผัสบริเวณรอบ ๆ ทวารหนักในระหว่างการเคลื่อนไหวร่างกาย ดังนั้นวิธีรักษาริดสีดวงภายนอกเบื้องต้นที่ดีที่สุดก็ควรเริ่มจากการปรับเปลี่ยนร่างกายให้รู้สึกผ่อนคลายเพื่อลดความเจ็บปวดให้น้อยลง 1. เลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ใส่สบาย มีผิวสัมผัสที่นุ่มเบาเพื่อลดการระคายเคือง และช่วยในการระบายอากาศได้ดี เพราะจะทำให้ร่างกายและบริเวณบาดแผลริดสีดวงกระทบกระเทือนน้อยที่สุด 2. อาบน้ำอุ่นหรือแช่น้ำอุ่น ต้องบอกว่าวิธีนี้ถือเป็นวิธีรักษาริดสีดวงภายนอกเบื้องต้นที่ทำได้ง่ายมาก แถมยังช่วยทำให้อาการเจ็บปวดลดน้อยลงอีกด้วย 3. ทำความสะอาดทวารหนักเบาๆ หลังการขับถ่ายแนะนำให้ใช้กระดาษเปียกแบบอ่อนโยน หรือผ้าเช็ดทำความสะอาดที่อ่อนนุ่มและปราศจากสารระคายเคือง 4. ประคบน้ำแข็ง ถือเป็นวิธีรักษาริดสีดวงภายนอกเบื้องต้นที่ช่วยลดอาการบวมและคันได้ดีทีเดียว แนะนำให้ใช้ผ้าประคบน้ำแข็งหรือเจลเย็นมาประคบบริเวณรอบทวารหนัก ก็จะช่วยลดการอักเสบบวมแดงได้ 5. ใช้ยาแก้ปวดที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์ อาจจะหายาที่มีอยู่ติดบ้านอย่างเช่น ไอบูโพรเฟนหรืออะเซตามิโนเฟนเพื่อบรรเทาอาการปวดและไม่สบายตัว ก็เป็นตัวช่วยที่ดีอีกทางหนึ่งเช่นกัน 6. ทาขี้ผึ้ง ลองมองหาครีมหรือขี้ผึ้งที่มีขายทั่วไป เช่น ดูปร็อคชนิดขึ้ผึ้ง หรือไฮโดรคอร์ติโซน ก็ช่วยบรรเทาอาการปวดบวมคันได้เหมือนกัน 7. ทานไฟเบอร์ให้มากขึ้น วิธีนี้ถือเป็นการปรับปรุงเรื่องการทานอาหารและเป็นวิธีรักษาริดสีดวงภายนอกเบื้องต้นที่อาจจะใช้เวลาอยู่ซักหน่อย แต่เมื่อทำได้แล้วก็จะช่วยลดโอกาสในการเกิดริดสีดวงซ้ำๆ ได้ โดยอาจจะเพิ่มผักและเส้นใยอย่างไฟเบอร์แบบละลายน้ำในแต่ละวัน และดื่มน้ำตามให้พอเพียงเพื่อช่วยในการขับถ่าย วิธีรักษาริดสีดวงภายนอกเบื้องต้นที่ยกตัวอย่างมาทั้งหมดนี้ เป็นวิธีที่ใครๆ ก็ทำได้ และสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่ยากลำบากเลย ยิ่งรีบดูแลและรักษาตัวเองแต่เนิ่นๆ โอกาสในการหายขาดและมีอาการดีขึ้นก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เราขอแนะนำตัวช่วยดี ๆ อีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้ริดสีดวงของคุณหายได้และไม่กลับมาเป็นอีก สมุนไพรรักษาริดสีดวงชัยพฤกษา ยารักษาริดสีดวงที่อุดมไปด้วยสรรพคุณดี ๆ จากสมุนไพรรักษาริดสีดวงกว่า 11 ชนิด มีอย. และได้รับรองให้เป็นยาสามัญควรมีติดบ้านไว้ การันตีริดสีดวงในระยะเริ่มต้น ดีขึ้นภายใน 5-7 วัน ติ่งเนื้อยุบ ฝ่อ และหายเองได้หลังรับประทาน
สมุนไพรริดสีดวง ทางเลือกใหม่สำหรับคนเป็นริดสีดวงซ้ำแล้วซ้ำเล่าซึ่งนอกจากจะเป็นการใช้ธรรมชาติบำบัดและเยียวยาอาการริดสีดวง ยังเป็นการช่วยสืบสานมรดกทางภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยให้คงอยู่ต่อไปอีกด้วย เรื่องการใช้สมุนไพรรักษานั้นไม่ใช่เรื่องใหม่เลย เพราะต้องบอกว่าประเทศไทยมีพืชพันธุ์สมุนไพรที่สามารถนำมาใช้เป็นยาได้หลากหลายชนิด ดังนั้นการใช้สมุนไพรริดสีดวงจึงอยู่คู่กับคนไทยมาช้านานตั้งแต่ในยุคบรรพบุรุษ ที่สำคัญมรดกทางวัฒนธรรมยังส่งต่อวิธีรักษาและวิธีการใช้สมุนไพรริดสีดวงตามท้องถิ่นและภูมิภาคต่างๆ อีกด้วย สมุนไพรริดสีดวงบางชนิดนั้นสามารถหาได้ง่ายมาก เผลอๆ อาจจะโตขึ้นเองตามธรรมชาติในหลังบ้านของคุณก็ได้ ดังนั้นลองสำรวจกันก่อนเลยว่าสมุนไพรริดสีดวง 9 ชนิดที่สามารถเยียวยาริดสีดวงได้มีอะไรบ้าง เผลอๆ คุณอาจจะไม่ต้องเสียเงินไปซื้อยาเลยก็ได้ สมุนไพรรักษาริดสีดวง 9 ชนิด ตัวช่วยช่วยรักษาริดสีดวงให้หายขาด เพชรสังฆาต เป็นสมุนไพรริดสีดวงยอดฮิตติดอันดับต้นๆ เลยทีเดียว ที่สำคัญเพชรสังฆาตยังมีงานวิจัยมากมายที่ออกมาให้การยอมรับว่าใช้รักษาริดสีดวงได้ผลดีเยี่ยมไม่แพ้ยาแผนปัจจุบันเลยทีเดียว เพราะช่วยรักษาอาการอักเสบ ซึ่งช่วยให้หลอดเลือดดำที่บวมเป่งจากริดสีดวงยุบตัวลงได้ วิธีการใช้ นำเพชรสังฆาตมา 1 ปล้อง หั่นให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ หุ้มด้วยกล้วยสุก แล้วรับประทานวันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น อาการริดสีดวงก็จะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 10-15 วัน ข่าหด จากข้อมูลของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พบว่าข่าหดมีมากในภาคอีสาน ซึ่งส่วนใหญ่นิยมนำเอาข่าหดมาแก้ปัญหามดลูก นอกจากนี้ข่าหดยังมีสรรพคุณในการเป็นสมุนไพรริดสีดวงที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพอีกด้วย วิธีการใช้ ใช้ข่าหดประมาณ 2 นิ้ว และนำว่านชักมดลูก 1 ชิ้น มาต้มรวมกัน ดื่มครั้งละ 1 แก้ว ทานเช้าเย็น ก็จะบรรเทาอาการริดสีดวง รวมถึงแก้ปัญหาไส้เลื่อนและมดลูกหย่อนยานได้อีกด้วย ขลู่ เป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม แถมยังช่วยรักษาอาการอักเสบได้อย่างดีอีกด้วย วิธีการใช้ แนะนำให้เอามาต้มเป็นชา แล้วดื่มก็สามารถช่วยอาการริดสีดวงทวารได้ดีทีเดียว ว่านหางจระเข้ จัดว่าเป็นสมุนไพรริดสีดวงที่หาง่ายมาก บางบ้านอาจจะมีอยู่แล้ว ซึ่งสรรพคุณก็คือ มีฤทธิ์เย็น ช่วยลดอาการปวด บวมจากริดสีดวงได้อย่างดีทีเดียว วิธีการใช้ ปอกให้เหลือแต่ส่วนวุ้น แล้วนำไปเหน็บคล้ายยาเหน็บ หรือนำไปพอกก็ได้เช่นกัน ผักไผ่ (ผักแผว) จัดเป็นสมุนไพรริดสีดวงที่นิยมนำมารับประทานกับอาหารจำพวกลาบ หรือยำต่างๆ ซึ่งงานวิจัยหลายตัวพบว่าผักไผ่มีสารประกอบสำคัญที่ช่วยบรรเทาริดสีดวงได้อย่างดี เช่น สารฟลาโวนอยด์ วิธีการใช้ สามารถนำใบมารับประทานสดได้ ขมิ้นชัน ปัจจุบันหาซื้อหาทานได้ง่าย แต่สรรพคุณสำหรับการเป็นสมุนไพรริดสีดวงนั้นมีค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว เช่น ช่วยในการย่อย ลดการอักเสบ และช่วยฆ่าเชื้อโรค วิธีการใช้ นำผงขมิ้น ทาบริเวณหัวริดสีดวงที่มีเลือดออก มะขามป้อม เป็นสมุนไพรที่หาได้ง่ายอีกตัว ที่ทั้งช่วยเรื่องอาการไอ เสมหะ แถมยังบรรเทาอาการริดสีดวงได้อีกด้วย เพราะมีรสขมเย็นทำให้ขับถ่ายได้ดีขึ้น ป้องกันท้องผูก วิธีการใช้ นำมาต้มชงเป็นชา โดยดื่มเช้าและเย็นก่อนอาหาร อัคคีทวาร ถึงชื่อจะไม่คุ้น แต่ในทางแพทย์แผนไทยอัคคีทวารถือเป็นสมุนไพรเต็งหนึ่งในการรักษาริดสีดวงเลยทีเดียว วิธีการใช้ นำรากหรือต้นมาฝนกับน้ำปูนใส แล้วทาบริเวณที่เป็นริดสีดวงทวาร เม็ดแมงลัก หลายคนชอบทานเป็นของหวาน แต่แท้จริงแล้วเม็ดแมงลักมีประโยชน์มากกว่านั้น เพราะถือเป็นสมุนไพรริดสีดวงอีกขนานที่ช่วยในเรื่องการระบายและขับถ่าย ช่วยทำให้อุจจาระนิ่มลงอีกด้วย วิธีการใช้ ผสมเม็ดแมงลัก 1 ช้อนชากับน้ำเปล่า ทิ้งไว้ให้พองแล้วค่อยดื่ม สมุนไพรรักษาริดสีดวง ตัวช่วยสำหรับคนที่ไม่สะดวกทานสมุนไพรสด ตัวยาอัดรวมสมุนไพรรักษาริดสีดวงที่ไม่ใช่แค่ 9 แต่มาถึง 11 ชนิด การันตีมีอย.รับรอง ขึ้นทะเบียนเป็นยาสามัญประจำบ้าน หากสนใจสินค้า หรือรายละเอียด ๆ ต่าง สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่หน้าเว็บไซต์
ริดสีดวงทวาร โรคที่หายได้ แต่ความยากง่ายในการรักษาอยู่ที่วินัย และแรงใจล้วน ๆ มาสำรวจ 2 วิธีป้องกันโรคริดสีดวงให้หายขาด ไม่กลับมาเป็นอีก ต้องทำยังไง พร้อมแนะนำตัวช่วยดี ๆ ใครอยากหาย แบบไม่กลับมาเป็นอีก ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง 2 วิธีป้องกันโรคริดสีดวงอย่างไร หายขาดอย่างแน่นอน 1. ปรับพฤติกรรมการกิน พฤติกรรมการกิน เป็นปัจจัยสำคัญที่เปิดโอกาสให้โรคริดสีดวงถามหาเราได้ง่าย ๆ เพราะฉะนั้นวิธีป้องกันโรคริดสีดวงให้หายขาดได้ง่าย ๆ เริ่มจากการปรับพฤติกรรมการกิน ตั้งแต่การเลือกอาหาร และการเคี้ยว อาหารที่มีกากใย ผัก ผลไม้ เป็นยา และวิตามินทางธรรมชาติมากที่สุดที่จะช่วยให้คุณปลอดภัยจากโรคริดสีดวงได้ และที่สำคัญ ไม่ว่าคุณจะทานอะไร โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ การเคี้ยวให้ละเอียดมากที่สุด เป็นกระบวนการช่วยลดภาระลำไส้ คุณได้มากที่สุด รับประกันขับถ่ายคล่อง ไม่ต้องเกร็ง หรือเบ่งแรง ๆ อย่างแน่นอน 2. ปรับพฤติกรรมใช้ชีวิต พฤติกรรมการใช้ชีวิต ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวารด้วยเช่นกัน ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวนั้น รวบยอดไปตั้งแต่การยืน การนั่ง และการนอน ใครจะไปคิดว่าการยืน ยืนเฉย ๆ นี่แหละ ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวารด้วยเช่นกัน ทั้งนี้การยืนที่ว่า คือการยืนที่ยืนนาน ๆ ติดกัน 10-12 ชั่วโมงต่อวัน และหลาย ๆ วันติดต่อกัน ในส่วนของการนั่ง ในที่นี้เราพูดถึงนิสัยการนั่งส้วม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญ และเป็นวิธีป้องกันโรคริดสีดวงหลัก ๆ ที่เห็นด้วยมาก ๆ ในการป้องกัน และรักษา เพียงแค่ไม่นั่งส้วมแบบนั่งแช่เป็นเวลานาน เพราะพฤติกรรมรูปแบบนี้จะทำให้เส้นเลือดดำคั่ง และบวม ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดริดสีดวงได้ และจบที่การนอน แม้ว่าจะดูเกี่ยวข้องน้อยที่สุด แต่การนอน ภูมิต้ายทานร่างกายจะต่ำ เกิดอาการเจ็บป่วยง่าย ทำให้โรคริดสีดวงถามหาได้ในที่สุด ในกลุ่มผู้ที่เป็น ๆ หาย ๆ กับโรคริดสีดวงทวารนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากการใช้ชีวิตในรูปแบบที่ใจไม่แข็งพอ ไม่สามารถปรับพฤติกรรมบางอย่างได้ ทำให้แม้จะรักษาริดสีดวงหายในครั้งแรกแล้ว ก็มักจะกลับมาเป็นอีก เพราะฉะนั้นการปรับพฤติกรรมเพื่อรักษา และยับยั้งโรคริดสีดวงนั้น แม้ว่าวิธีป้องกันโรคริดสีดวงจะดูง่าย แต่ในสำหรับบางคนเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ต้องพึ่งคนรอบข้างในการเตือนสติด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก และกลุ่มผู้สูงวัยที่อายุมาก ๆ วิธีตรวจสอบว่าอาการริดสีดวงของคุณนั้นหนักหรือยัง ให้สังเกตุตัวเองขณะขับถ่าย ว่ามีเลือดติดออกมามากน้อยแค่ไหน หากมีเลือดติดออกมาเป็นจำนวนมาก ควรปรึกษาแพทย์โดยด่วน เพราะริดสีดวงอาจจะแตก หรือเป็นโรคแทรกซ้อนที่มากกว่าเพียงแค่การเป็นริดสีดวง ในกลุ่มผู้ที่ใช้วิธีป้องกันโรคริดสีดวงในการปรับพฤติกรรมการกิน และการใช้ชีวิตแล้วยังไม่หายนั้น อาจจะเป็นเพราะคุณเป็นโรคแทรกซ้อนที่อาจจะหนักกว่าการเป็นริดสีดวง ให้สังเกตจากติ่งริดสีดวงที่ยื่นออกมา โดยปกติแล้ว ริดสีดวงในขั้นเริ่มต้นอาจจะไม่โผล่ออกมา หรือโผล่ออกมาแต่ผลุบกลับเข้าไปเองได้ ในกรณีที่เป็นติ่งใหญ่ ต้องดันกลับเข้าก็แปลได้ว่าอาการเริ่มมาไกลในระดับหนึ่งแล้ว หรือหากติ่งใหญ่จนไม่สามารถดันกลับเข้าไปได้ ก็แปลว่าอาการหนักแล้วนั่นเอง ให้สังเกตุจากความเจ็บปวด เพราะในบางกรณี ริดสีดวงภายในอาจจะมีติ่งบวมใหญ่อยู่ภายในทวารหนัก ไม่ได้โผล่ออกมา แต่เมื่ออักเสบมากก็จะทั้งเจ็บ ทั้งปวดแบบค่อนข้างสาหัส หากเริ่มปวดมากแล้วแต่ไม่พบติ่งเนื้อ ก็สามารถพบแพทย์ หรือทานยารักษาคู่ไปด้วยก็ได้เช่นกัน ยาสมุนไพรรักษาริดสีดวงชัยพฤกษา ในบางครั้ง หากรู้ตัวว่าไม่สามารถปรับพฤติกรรมให้ดีขึ้นได้แบบ 100 เปอร์เซ็น การมองหาวิธีการรักษาริดสีดวงจากวิตามิน หรือสมุนไพรต่าง ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนส่วนใหญ่นิยมเช่นกัน สมุนไพรรักษาริดสีดวง คือทางเลือกในการรักษาริดสีดวงที่ได้รับความไว้วางใจจากใครหลาย ๆ คน เพราะตัวยามีอย. และได้รับการจดทะเบียนเป็นยาสามัญทะเบียนบ้าน ไม่มีสารตกค้าง ทานได้สรรพคุณรักษาริดสีดวง ปรับสมดุลร่างกาย ตั้งแต่ระบบไหลเวียนเลือด และลมต่าง ๆ มีส่วนผสมจากสมุนไพรไทยทั้ง 11 ชนิด ในราคาที่จับต้องได้ หากสนใจสมุนไพรชัยพฤกษา สามารถดูรายละเอียดได้ภายในหน้าเว็บไซต์ได้เลย
ผู้ใหญ่อย่างเราเป็นริดสีดวงก็ว่าแย่แล้ว และถ้าหากหนูน้อยบ้านไหนเกิดเป็นริดสีดวงทวารในเด็กขึ้นมาล่ะ จะช่วยดูแลรักษาอย่างไรดี เพราะเด็กนั้นทั้งสภาพร่างกายและจิตใจสุดแสนจะบอบบางกว่าผู้ใหญ่เยอะเลยทีเดียว ดังนั้นคราวนี้จึงขอนำเสนอข้อคิดดีๆ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการดูแลป้องกันริดสีดวงทวารในเด็ก รวมไปถึงหนทางแก้ไขและเยียวยาที่เหมาะสมกับเด็กอีกด้วย สาเหตุการเกิดริดสีดวงทวารในเด็ก เบื้องต้นนั้นอาการริดสีดวงไม่ว่าจะเกิดกับผู้ใหญ่หรือเป็นริดสีดวงทวารในเด็กก็มีสาเหตุและปัจจัยค่อนข้างคล้ายคลึงกัน คือ ท้องผูก มีปัญหาในการขับถ่าย นั่งห้องน้ำนาน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นฉนวนให้เกิดการกดทับหรือแรงดันที่มีต่อเส้นเลือดบริเวณทวารหนัก พอเส้นเลือดบวมก็จะกลายเป็นริดสีดวงทวารภายใน หรือหากบวมใกล้กับช่องทวารหนักก็จะเป็นริดสีดวงทวารภายนอก ที่แย่ไปกว่านั้นคือ บางคนสามารถเป็นริดสีดวงได้ทั้งสองประเภทในเวลาเดียวกันได้ แต่เวลาเด็กๆ เป็นนั้นเขามักจะไม่รู้หรอก ว่าเป็นอาการของริดสีดวงทวารในเด็ก ส่วนใหญ่เขาจะรู้สึกเจ็บปวด ไม่สบายตัว อาจจะร้องไห้โยเย โดยเฉพาะในช่วงเวลาขับถ่าย ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่และครอบครัวอาจจะต้องคอยสังเกต และใส่ใจกับความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเด็กอยู่เสมอ วิธีสังเกตอาการริดสีดวงทวารในเด็ก อาการที่เกิดกับเด็กนั้นก็ค่อนข้างจะมีความคล้ายคลึงกับอาการของผู้ใหญ่ แต่สิ่งสำคัญคือ ทางครอบครัวต้องคอยเอาใจใส่และสังเกตอาการผิดปกติเหล่านี้ให้ดี - เวลาขับถ่ายอาจจะมีเลือดออกระหว่างการเคลื่อนไหวของลำไส้ ลองสังเกตริ้วเลือดสีแดงสดบนกระดาษชำระหลังจากที่เด็กๆ ได้ขับถ่ายเสร็จแล้ว หากพบว่ามีเลือดปนออกมาในกระดาษชำระหรืออุจจาระ อาจจะเป็นไปได้ว่าเจ้าตัวน้อยของคุณกำลังเป็นริดสีดวงทวารในเด็ก - ถ้าเด็กๆ มีอาการคันบริเวณทวารแล้วเขามาบ่นกับคุณ ก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของริดสีดวงได้เช่นกัน - หากลูกรักมักจะมีอาการปวดทวารหนัก โดยเฉพาะช่วงการเข้าห้องน้ำ หรือการทำความสะอาดบริเวณทวารหนัก ถ้าหากเขาบ่นถึงอาการเจ็บปวดก็อาจจะเป็นอาการระยะแรกของริดสีดวงทวารในเด็ก - แนะนำให้ลองสังเกตอารมณ์ของเด็กดูด้วยเช่นเดียวกันว่า ถ้าหากเขามีอาการหงุดหงิด เจ็บปวด ท้องผูกบ่อยๆ หรือไม่อยากเข้าห้องน้ำเพื่อขับถ่าย ก็อาจจะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดริดสีดวงได้เหมือนกัน แนวทางในการดูแลและรักษาริดสีดวงทวารในเด็ก - ดูแลเรื่องอาหารการกิน วิธีที่สำคัญที่สุดวิธีหนึ่งในการรักษาโรคริดสีดวงทวารในเด็ก คือ การจัดการกับสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งมักจะเป็นอาการท้องผูก หรือมีอุจจาระแข็งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง แต่กากใยและไฟเบอร์ต่ำ นอกจากนี้เด็กๆ ส่วนใหญ่ยังไม่ชอบทานผัก และบางคนยังทานน้ำไม่พอเพียงอีกด้วย ดังนั้นลองมองอาหารเสริมที่เป็นไฟเบอร์ผงที่ละลายน้ำ และกำชับให้เขาดื่มน้ำให้พอเพียงอยู่เสมอ - การใช้น้ำอุ่นเข้าช่วย การอาบน้ำอุ่นหรือแช่น้ำอุ่นนั้นถือเป็นวิธีที่ดีและได้ผลมากในการบรรเทาความเจ็บปวดที่เกิดจากโรคริดสีดวง แนะนำให้แช่ก้นในน้ำอุ่นวันละ 1-2 ครั้ง เป็นเวลา 10 ถึง 15 นาที เพราะจะช่วยลดอาการปวด อาการไม่สบายตัวและช่วยลดการอักเสบและลดบวมได้อย่างดีทีเดียว - เช็ดก้นด้วยกระดาษชำระที่อ่อนนุ่ม แนะนำให้หาผ้าเปียกที่มีคุณสมบัติอ่อนโยนและป้องกันการระคายเคืองต่อผิวเด็ก ที่สำคัญไม่ควรมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือน้ำหอม เพราะอาจจะทำให้แสบร้อนและระคายเคือง เผลอๆ อาจจะทำให้อาการอักเสบบวมแย่ลงไปอีก ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้ใช้กระดาษซับน้ำอุ่นเช็ดบริเวณทวารหนักสลับกับการประคบเย็นร่วมด้วย ก็จะช่วยบรรเทาอาการได้ดีมาก
เป็นริดสีดวงก็ว่าน่ากลัวแล้ว แต่ถ้าหากเกิดริดสีดวงแตกขึ้นมาจะเจ็บปวดและน่ากลัวขนาดไหน หลายคนคงไม่อยากจะนึกถึง แต่อย่างน้อยหากคุณเป็นคนหนึ่งที่เป็นริดสีดวงหรือมีแนวโน้มจะเป็นริดสีดวง ความเสี่ยงในการเกิดริดสีดวงแตกก็มีอยู่ด้วยเช่นกัน ดังนั้นแนะนำให้ลองศึกษาและทำความเข้าใจไว้ก่อนเพื่อที่จะป้องกัน ระมัดระวัง หรือเตรียมตัวรับมือกับการเกิดริดสีดวงแตกไว้แต่เนิ่นๆ จะดีที่สุด ริดสีดวงแตกได้หรือไม่? อย่างที่รู้กันว่าริดสีดวงนั้นมีทั้งแบบภายในและภายนอก ซึ่งพอเป็นแล้วก็จะมีลิ่มเลือดก่อตัวขึ้นภายในหลอดเลือดดำ นอกจากอาการปวดและอักเสบอย่างรุนแรงแล้ว ถ้าลิ่มเลือดก่อตัวจนเต็ม ก็อาจจะไปกระทบทำให้ริดสีดวงทวารแตกได้ นอกจากนี้หากเกิดความดันมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการเบ่งอุจจาระ หรือการกดทับจากการตั้งครรภ์ ก็จะทำให้ริดสีดวงแตกได้เช่นเดียวกัน ริดสีดวงแตกอันตรายอย่างไร ความอันตรายของการที่ริดสีดวงแตกนั้น เป็นเรื่องของภาวะแทรกซ้อนอย่างการที่เลือกไหลออกเป็นจำนวนมาก หรือเกิดบาดแผลบริเวณทวารหนัก ทำให้ขณะขับถ่ายของเสียอาจไม่ถูกแผล และอาจจะทำให้แผลติดเชื้อ ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมากตามมาได้ รู้ก่อนริดสีดวงแตก ปกติแล้วการที่ริดสีดวงแตกนั้นอาจจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยอาจรู้สึกว่ามีก้อนแข็งและเจ็บปวดอยู่นอกทวารหนักมากขึ้น นอกจากนี้ริดสีดวงที่มีลิ่มเลือดอุดตัน จะสามารถทะลุผ่านผิวหนังที่หุ้มไว้แล้วรั่วออกมา ซึ่งเป็นการแตกของริดสีดวงได้เช่นกัน เลือดออกนานขนาดไหน? ภายหลังจากที่ริดสีดวงแตก แน่นอนว่าเลือดต้องออกมาอยู่แล้ว แต่จะมากน้อยอาจจะต่างกันออกไป ส่วนระยะเวลาที่เลือดออกอาจจะยาวนานเพียงไม่กี่วินาทีถึงหลายนาที อย่างไรก็ตามหากเลือดออกต่อเนื่องนานเกิน 10 นาที หรือเลือดไหลไม่หยุด แนะนำให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน รับมืออย่างไรเมื่อริดสีดวงแตก? โดยพื้นฐานแล้วส่วนใหญ่พอริดสีดวงแตก คนทั่วไปมักจะตกใจก็เพราะ ปริมาณเลือดสดที่ไหลออกมา ซึ่งหากไหลออกมาไม่นานแล้วหยุดก็คงไม่ต้องกังวลมาก แต่สิ่งที่เราต้องรีบทำก็คือ รีบดูแลตัวเองโดยการนั่งแช่น้ำอุ่น โดยสามารถจัดเตรียมง่ายๆ ได้เองดังนี้ - หากมีอ่างอาบน้ำสามารถใช้อ่างอาบน้ำได้เลย แต่หากไม่มีแนะนำอ่างพลาสติกสำหรับแช่ก้นที่เรียกว่า Sitz - จากนั้นเติมน้ำอุ่น 3 ถึง 4 นิ้วลงในอ่างอาบน้ำ เช็คดูอีกว่าน้ำไม่ควรร้อนเกินไป ไม่งั้นอาจจะทำให้อาการปวดและแผลแย่ลงได้ โดยทั่วไปจะแนะนำน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิไม่เกิน 40 องศา - นั่งแช่ทิ้งในอ่างที่มีน้ำอุ่น 15 ถึง 20 นาที วันละ 2 ครั้งอย่างต่ำ - แนะนำให้ลองงอเข่าหรือวางขาเหนือขอบอ่างอาบน้ำเพื่อให้แน่ใจว่าบริเวณก้นและทวารจมอยู่ใต้น้ำ - หลังจากแช่น้ำอุ่นเสร็จแล้ว ค่อยๆ ซับก้นและสะโพกให้แห้งด้วยผ้าสะอาด แนะนำให้ซับอย่างเบามือ อย่าถูหรือขัดเพราะอาจจะทำให้ปวดแผลได้ - พยายามปรับพฤติกรรมการทานอาหาร โดยทานอาหารที่มีกากใยให้เยอะขึ้น นอกจากนี้หลีกเลี่ยงอาหารเครื่องดื่มที่อาจจะทำให้อุจจาระแข็งและแห้ง เช่น แอลกอฮอล์ และคาเฟอีนอย่างชา กาแฟ - หากเป็นโรคริดสีดวงทวารภายนอกอาจจะใช้ขี้ผึ้ง OTC หรือยาเหน็บซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดบวมและคันได้ - ลองมองหาสมุนไพรไทยที่หาง่าย เช่น ว่านหางจระเข้ หรือขมิ้นชัน มาทาบริเวณแผลที่แตกก็อาจจะช่วยบรรเทาอาการได้ จากข้อมูลของ National Health Service (NHS) ของอังกฤษแนะนำว่าควรรีบไปพบแพทย์ทันทีหากมีริดสีดวงแตก แล้วเกิดอาการดังต่อไปนี้ - เลือดออกอย่างต่อเนื่อง หรือเลือดไหลไม่หยุดเป็นเวลานาน - เลือดออกจำนวนมาก แนะนำให้สังเกตว่าโถส้วมมีแต่เลือดแดงมากจนผิดปกติหรือไม่ - มีลิ่มเลือดขนาดใหญ่หลุดออกมาด้วย - มีอาการปวด บวม อักเสบ อย่างรุนแรง สมุนไพรรักษาริดสีดวงชัยพฤกษา ผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยยับยั้ง รักษา และบรรเทาอาการริดสีดวงของคุณให้หายขาด ไม่ต้องเสี่ยงริดสีดวงแตกอีกต่อไป ตัวยามีอย.รองรับ มี GMP ได้รัยมาตรฐานให้เป็นยาสามัญประจำบ้าน หนึ่งในทางเลือกสำหรับคนที่กังวลเรื่องริดสีดวงแตก หรืออยากรักษาริดสีดวง
หลายคนพยายามรักษาและดูแลตัวเอง แต่ริดสีดวงก็ยังไม่หายซักที ดังนั้นจึงเกิดคำถามขึ้นในใจว่าริดสีดวงเกิดจากอะไรกันแน่ จะว่าเป็นโรคเวรโรคกรรมก็ไม่น่าจะใช่ ที่สำคัญจะทำยังไงให้อาการป่วยอันสุดแสนทรมานจากริดสีดวงนั้นหายไป ซึ่งส่วนใหญ่ต้นตอมักจะมาจากการใช้ชีวิตประจำวันที่เรามักหลงลืมไปนั่นเอง ไม่ว่าจะนั่งทำงานนานๆ เข้าห้องน้ำนาน ท้องผูกเป็นประจำ อั้นอุจจาระบ่อยๆ แต่พอเป็นริดสีดวงทีก็สุดแสนจะทรมาน แถมหลายครั้งถ่ายเป็นเลือดจนหน้าตาซีดเซียว จะไปเที่ยวไหนซักทีก็สุดแสนจะลำบาก ฉะนั้นใครที่เป็นริดสีดวงอยู่ ควรศึกษาและทำความเข้าใจว่าริดสีดวงเกิดจากอะไรกันแน่ เพื่อที่จะค้นหาแนวทางป้องกันที่ได้ผลที่สุด โรคริดสีดวงเกิดจากอะไร? - นั่งขับถ่ายใช้เวลานานในห้องน้ำ - มีอาการท้องผูกหรือท้องร่วงเรื้อรังติดต่อกัน - มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน - การตั้งครรภ์ - การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก - ดื่มน้ำน้อย - ทานอาหารที่มีเส้นใยต่ำ - บาดเจ็บที่ไขสันหลัง - ประวัติครอบครัวเป็นโรคริดสีดวงทวาร ข้อมูลงานวิจัยว่าด้วยโรคริดสีดวงเกิดจากอะไร จากฐานข้อมูลของ NCIBI งานวิจัยของ Plos One ได้ทำการค้นคว้าว่าริดสีดวงเกิดจากอะไร และมีเหตุหรือปัจจัยใดเป็นหลัก ซึ่งข้อมูลที่ได้มานั้นถือว่าน่าสนใจมาก เนื่องจากการสำรวจผู้เข้าร่วมโครงการวิจัย 2,813 คน มีถึง 1,074 คนที่เคยเป็นโรคริดสีดวง และมีสาเหตุหลักอย่างเดียวกันคือ ท้องผูก ส่วนผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนนั้นไม่ได้พบอัตราการเกิดริดสีดวงที่เด่นชัด ดังนั้นข้อสรุปหลักของงานวิจัยโรคริดสีดวงเกิดจากอะไร จึงได้ข้อสรุปว่า ริดสีดวงเกิดจาก อาการท้องผูก นอกจากนี้ยังพบว่าคนที่รับประทานอาหารที่มีกากใยอาหารสูง สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคริดสีดวงได้อย่างมีนัยยะด้วยเช่นกัน แต่ถึงแม้งานวิจัยจะพบว่าอาการท้องผูกเป็นปัจจัยหลักในการเกิดริดสีดวง แต่แท้จริงแล้วริดสีดวงเกิดจากหลากหลายสาเหตุ ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละคน ที่สำคัญต้นตอที่ทำให้เกิดอาการท้องผูกเรื้อรังนั้นพวกเราทุกคนสามารถช่วยป้องกันได้ด้วยตนเองอีกด้วย โดยทั่วไปกลไกในร่างกายที่ทำให้เป็นริดสีดวงเกิดจากการเพิ่มขึ้นของความดันในทวารหนักส่วนล่าง ซึ่งทำให้หลอดเลือดบริเวณทวารหนักส่วนล่างบวมและอักเสบ ซึ่งปลายทางก็คือ ริดสีดวงที่สร้างความทุกข์ทรมานนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่น่าสนใจต่างๆ ดังนี้ จากข้อมูลด้านบนจะเห็นว่าผลลัพธ์ดังกล่าวนั้นมักจะเกิดจากพฤติกรรมที่ไม่ค่อยเหมาะสมจากตัวเราเองแทบทั้งนั้น ดังนั้นจะโทษใครไปไม่ได้เลย ถ้าจะให้ดีหลังจากทราบสาเหตุว่าริดสีดวงเกิดจากอะไรแล้ว เราลองมาปรับเปลี่ยนตัวเองเสียใหม่ดูก็น่าจะช่วยได้เยอะเลยทีเดียว ไม่ควรอั้นอุจจาระ เหมือนจะคำแนะนำธรรมดาทั่วไป แต่รู้ไหมว่าหลายคนก็เพิกเฉย บางคนมักจะอั้นอุจจาระเอาไว้เป็นเวลานาน ซึ่งพอถึงเวลาจะไปถ่ายก็ขับถ่ายยาก เพราะการอั้นอาจจะทำให้อุจจาระแข็งและแห้งในลำไส้ ดังนั้นทางที่ดีแนะนำว่าหากรู้สึกปวดให้รีบเข้าห้องน้ำเพื่อขับถ่ายให้เร็วที่สุด อย่านั่งห้องน้ำนานเกินไป หลายคนมักจะเปลี่ยนห้องน้ำให้เป็นห้องนั่งเล่น ทั้งนั่งเล่นมือถือ ทั้งอ่านหนังสือ เล่นโซเชียล รู้ไหมว่าริดสีดวงเกิดจากพฤติกรรมในการนั่งนานๆ นี่แหล่ะ จากเรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้เลยทีเดียว การนั่งนานทำให้เกิดแรงกดในหลอดเลือดทวารหนัก ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคริดสีดวงเป็นอย่างมาก เลือกทานให้เป็น อาหารเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดท้องผูก ซึ่งริดสีดวงเกิดจากอาการท้องผูกเป็นหลักตามที่อ้างอิงจากงานวิจัย ดังนั้นควรปรับเรื่องการทานอาหารใหม่ โดยพยายามทานอาหารที่มีเส้นใยไฟเบอร์เยอะๆ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชต่างๆ ที่สำคัญอย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายด้วย จากข้อมูลดังกล่าว ทุกคนคงได้เห็นแล้วว่าโรคริดสีดวงเกิดจากอะไร ไม่ใช่โรคกรรม แต่เป็นโรคจากพฤติกรรมที่ไม่ดีในการใช้นั่นเอง เพราะฉะนั้นอยากหายจากโรคริดสีดวงทวาร หรือไม่อยากเป็น รีบปรับพฤติกรรมด่วน
โรคริดสีดวงเป็นโรคที่คนเป็นเยอะมาก บางคนสามารถทานยาแล้วหายได้โดยไม่ต้องหาหมอ ดังนั้นจึงเกิดคำถามว่าควรใช้ยาริดสีดวง ยี่ห้อไหนดี ที่จะช่วยให้อาการปวดและริดสีดวงหายไปได้เร็วและได้ผลที่สุด ซึ่งในปัจจุบันยาในท้องตลาดนั้นถือว่ามีหลากหลาย และยาแต่ละชนิดก็มีจุดดีจุดเด่นของตัวเอง เพราะฉะนั้นในความนี้ชัยพฤกษาจะมาช่วยทุกคนหาคำตอบที่ว่ายาริดสีดวง ยี่ห้อไหนดี ที่สำคัญก่อนซื้อใช้ควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ก่อน และใช้ หรือทานให้ถูกวิธีตามคำแนะนำของแพทย์เสมอ คำแนะนำยาริดสีดวง ยี่ห้อไหนดี ยาเหน็บริดสีดวงดูปร็อค (Doproct) หากถามว่าคนที่เคยเป็นริดสีดวงจะใช้ยาริดสีดวง ยี่ห้อไหนดี ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องเป็นยาเหน็บ โดยยาเหน็บ Doproct เป็นยาเหน็บที่มีลักษณะเป็นแท่งเล็กๆ มีความนิ่มและยืดหยุ่นพอประมาณ ซึ่งแนะนำให้เก็บไว้ในตู้เย็น และหากต้องการนำมาใช้ก็อาจจะแช่ในน้ำเพื่อให้นุ่มขึ้น จะได้สอดใส่บริเวณทวารหนักได้ง่าย ตัวยาจะเน้นลดการอักเสบ ลดอาการคันและบวมเป็นหลัก ยาทาดูปร็อคชนิดขึ้ผึ้ง (Doproct Oilment) เป็นยาทาริดสีดวงภายนอกที่ได้รับความนิยมอีกเช่นกัน เพราะการใช้งานนั้นใช้ง่าย โดยเฉพาะบางคนที่ไม่ถนัดใช้ยาเหน็บ ส่วนใหญ่เวลาถามหาครีมหรือยาริดสีดวง ยี่ห้อไหนดี ก็มักจะได้ยาดูปร็อคที่เป็นขี้ผึ้งกลับไปใช้ โดยมีส่วนประกอบที่สำคัญคือ hydrocortisone, zinc oxide และbenzocaine วิธีใช้ก็เพียงแค่ทาขี้ผึ้งบริเวณรอบทวารหนักเช้าเย็นวันละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยลดอาการปวดและคันได้พอสมควรเลยทีเดียว ยาริดสีดวงดาฟลอน (Daflon) เวลาไปร้านขายยาแล้วถามหายาริดสีดวง ยี่ห้อไหนดี ยารักษาริดสีดวงที่เภสัช หรือยาที่แพทย์มักจะสั่งจ่ายนั้นแทบจะหนีไม่พ้นก็คือยาดาฟลอน (Daflon) เป็นยาริดสีดวงที่มีประสิทธิภาพสูง และแพทย์นิยมสั่งจ่ายอันดับต้นๆ โดยยาดาฟลอนนั้นใช้ในการรักษาความผิดปกติของหลอดเลือด ซึ่งจะมีกลไกไปออกฤทธิ์ช่วยสร้างความแข็งแรงของหลอดเลือด ทำให้ริดสีดวงหดตัวและบรรเทาอาการปวดได้ ในการศึกษาวิจัยของประเทศออสเตรียในปี 2547 พบว่ายาดาฟลอน ทำให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้นในเวลาไม่นาน ยาเฮสเพอริดิน (Hesperidin) เป็นยาที่มีมีสารไบโอฟลาโวนอยด์เป็นหลัก ถือเป็นยาอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยในการรักษาริดสีดวงได้ดีเช่นกัน โดยเฉพาะหากไปปรึกษาเภสัชกรว่าจะใช้ยาริดสีดวง ยี่ห้อไหนดี ก็มักจะได้ยาตัวนี้มาทานควบคู่กับยาดาฟลอนหรือไดออสมิน ยาเฮสเพอริดินจะทำหน้าที่หลักในการเยียวยาอาการที่เกี่ยวกับหลอดเลือดชนิดต่างๆ อาทิเช่น ริดสีดวง เส้นเลือดขอด โดยตัวยาจะช่วยให้หลอดเลือดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แถมยังช่วยลดอาการอักเสบได้ดีอีกด้วย ยาซีดูออล (Siduol) เป็นยาที่มีสารผสมที่หลากหลาย และยังมี Rutin ซึ่งมีฟลาโวนอยด์ที่ช่วยสร้างความแข็งแรงให้แก่หลอดเลือด นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอีกหลายตัวที่ช่วยลดอาการอักเสบบริเวณที่เป็นแผล รวมถึงช่วยกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้แผลมีการอักเสบ ดังนั้นเวลาค้นหาข้อมูลว่ายาริดสีดวง ยี่ห้อไหนดี ก็มักจะพบยานี้เป็นยาแนะนำอันดับแรกๆ เช่นเดียวกัน อย่ามัวแต่ถามหาว่ายาริดสีดวง ยี่ห้อไหนดี การใช้ยานั้นจะดีขึ้นได้ก็ต้องอาศัยวินัยและการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมของผู้ป่วยด้วยเช่นกัน เพราะสิ่งสำคัญที่จะทำให้อาการริดสีดวงดีขึ้นไวที่สุด คือ การดูแลและปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตของตัวเราเอง เช่น การเลือกทานอาหารที่มีกากใยสูง การดื่มน้ำเยอะๆ ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ คาเฟอีน ออกกำลังกายเป็นประจำ และอีกหลายอย่าง ซึ่งแน่นอนว่าตัวเราเองและความพยายามนั้นเป็นปัจจัยหลักในการรักษาร่างกายให้หายจากริดสีดวงได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด หากคุณกำลังมองหาสมุนไพรดีๆ เราแนะนำนวัตกรรมสมุนไพรอันดับ 1 ที่ช่วยบรรเทาและรักษาอาการริดสีดวง อาการปวดติ่ง ด้วย "สมุนไพรชัยพฤกษา" ที่เป็นหนึ่งคำตอบ และทางเลือกที่ดีของคำถามที่ว่ายาริดสีดวง ยี่ห้อไหนดีเช่นกัน โดยตัวยาเน้นการรักษาทั้งภายในและภายนอก ซึ่งได้รับมาตราฐาน อย. และ GMP ที่เชื่อถือได้ อีกทั้งยังเป็นสมุนไพรไทยที่รักษาปัญหาอย่างตรงจุดโดยไม่ต้องพึ่งยาอีกต่อไป ทานแล้วหายไว เห็นผลตั้งแต่ 7 วันแรก
โรคที่สร้างความรำคาญและทำให้สูญเสียความมั่นใจมากที่สุดอีกโรคก็คือ ริดสีดวง แต่คนที่ไม่เคยเป็นมักจะถามว่าริดสีดวงคืออะไร แล้วเกิดขึ้นได้อย่างไร ที่สำคัญหากเป็นริดสีดวงขึ้นมาจริงๆ จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพขนาดไหน? เพราะคนที่ไม่เคยเป็นมักจะเคยได้ยินว่า ริดสีดวงคือ การถ่ายท้องที่ทำให้เลือดออก แถมอาจจะมีติ่งเนื้อยื่นออกมาจนก่อให้เกิดความเจ็บปวด ดังนั้นลองมาทำความเข้าใจถึงโรคริดสีดวงกันอย่างถูกต้องก่อนเลยดีกว่า โรคริดสีดวง คือ การเกิดเป็นเส้นเลือดบวมในทวารหนักส่วนล่างคล้ายกับเส้นเลือดขอด ซึ่งริดสีดวงนั้นจะไปโผล่อยู่ช่วงทวารหนัก ทำให้แม้แต่การนั่งก็อาจจะก่อให้เกิดความเจ็บปวดได้ โดยทั่วไปแล้วริดสีดวงสามารถเกิดขึ้นภายในทวารหนัก (ริดสีดวงทวารภายใน) หรือใต้ผิวหนังรอบทวารหนัก (ริดสีดวงทวารภายนอก) จากสถิติผู้ใหญ่เกือบ 3 ใน 4 คนเคยเป็นโรคริดสีดวงทวาร เห็นแบบนี้คงรู้แล้วว่าโรคริดสีดวงทวารคือ โรคที่ดูน่ารำคาญแต่ก็ไม่ได้อันตรายจนถึงแก่ชีวิต ประเภทของโรคริดสีดวงคืออะไร โรคริดสีดวงนั้น มีหลัก ๆ 2 รูปแบบที่เราน่าจะรู้กันบ้างแล้วว่ามีริดสีดวงภายใน และริดสีดวงภายนอก แต่ที่หลาย ๆ คนยังไม่ทราบนั้นคือริดสีดวง ก็มีลักษณะ และประเภทที่แตกต่างกันออกอยู่อีก โดยประเภทต่าง ๆ ของริดสีดวงคืออะไรบ้าง มีดังต่อไปนี้ ริดสีดวงหงอนไก่ ริดสีดวงมะเฟือง ริดสีดวงหัวเลือด ริดสีดวงบานทะโรค ริดสีดวงหัวคุด โดยริดสีดวงทั้ง 5 ประเภทมีรูปลักษณ์อย่างไร สามารถไปเสิร์ชดูจากชื่อกันได้เลย (แนะนำว่าต้องใจแข็งนิดหน่อย เพราะภาพอาจจะไม่น่าดูสักเท่าไหร่ ไม่สามารถนำมาประกอบบทความได้จริง ๆ) สาเหตุและต้นตอของโรคริดสีดวงคืออะไร ถึงแม้โรคริดสีดวงคือ โรคที่สามารถรักษาให้หายได้ แต่อาการริดสีดวงคือ อาการที่บ่งชี้ว่าร่างกายของเราเริ่มผิดเพี้ยน เช่น การทานอาหาร การขับถ่าย รวมไปถึงพฤติกรรมต่างๆ ที่ล้วนส่งผลต่อการเกิดริดสีดวง ต้นตอของริดสีดวงคือ สิ่งสำคัญที่ถ้าหากเราเข้าใจก็สามารถป้องกันได้ ปกติการเกิดริดสีดวงมักจะเริ่มที่หลอดเลือดดำรอบทวารหนักโดนแรงกดจนบวม ประกอบกับสภาวะต่างๆ ดังนี้ - นั่งบนโถส้วมเป็นเวลานาน - มีอาการท้องร่วงหรือท้องผูกเรื้อรัง - เป็นโรคอ้วนหรือน้ำหนักตัวเกิน - อุจจาระแข็งทำให้ขับถ่ายลำบาก - มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก - การรับประทานอาหารที่มีเส้นใยต่ำ - การยกของหนักเป็นประจำ อาการของโรคริดสีดวงคืออะไร ถึงแม้ริดสีดวงคือ โรคที่พบได้ทั่วไป แต่สำหรับอาการของโรคนั้นก็หนักหน่วงจนทำให้หลายคนทนทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก ในทางตรงข้ามหลายคนพบว่า ริดสีดวงคือ โรคที่ไม่ได้แสดงอาการออกมามากมายนัก เพราะในบางคนริดสีดวงอาจจะไม่มีอาการเจ็บปวด แต่พบอีกทีก็อาจจะมีเลือดออกปนกับอุจจาระจนต้องไปพบแพทย์ แต่โดยทั่วไปนั้นอาการแรกเริ่มส่วนใหญ่มักจะมีอาการคันและอาจมีเลือดออก หลายคนอาจมีอาการบวมและอักเสบร่วมด้วย ส่วนผู้ป่วยที่เป็นริดสีดวงทวารภายนอก มักจะมีแนวโน้มที่มีอาการเจ็บปวดมากขึ้น ปัจจัยเสี่ยงต่อโรคริดสีดวงคืออะไร ต้องบอกว่าแม้จะรู้ว่าพฤติกรรมหลายอย่างอาจจะก่อให้เกิดโรคริดสีดวง แต่เมื่อเราอายุมากขึ้นความเสี่ยงในการเป็นโรคริดสีดวงทวารจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยอย่างอัตโนมัติ นั่นเป็นเพราะเนื้อเยื่อที่รองรับหลอดเลือดดำในทวารหนักอาจอ่อนตัวหรือยืดตัว นอกจากนี้สตรีที่ตั้งครรภ์ก็อาจจะมีภาวะความเสี่ยงต่อโรคริดสีดวงด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าริดสีดวงคือ โรคที่มักจะเกิดในคนที่มีปัญหาเรื่องลำไส้หรือท้องผูกเป็นหลัก แต่สำหรับสตรีมีครรภ์อาจจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากน้ำหนักของทารกจะกดดันบริเวณทวารหนัก ซึ่งส่งผลต่อการเป็นริดสีดวง ภาวะแทรกซ้อน และความเสี่ยงของโรคริดสีดวงคืออะไร ถึงแม้โรคริดสีดวงคือ โรคที่รักษาด้วยยาที่หาซื้อทั่วไปได้ แต่ถ้าหากเกิดภาวะแทรกซ้อนผู้ป่วยควรจะไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาให้ไวที่สุด โรคโลหิตจาง การเสียเลือดเรื้อรังจากโรคริดสีดวงทวาร อาจทำให้เกิดโรคโลหิตจางได้ เพราะจำนวนเม็ดเลือดแดงไม่เพียงพอที่จะนำออกซิเจนไปยังเซลล์ส่วนต่างๆ ของร่างกาย ริดสีดวงทวารที่บีบรัด อาการนี้จะทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมาก ลิ่มเลือด ในบางครั้งเส้นเลือดขอดอาจจะก่อตัวเป็นลิ่มเลือด ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยเจ็บปวดอย่างมาก และบางครั้งก็อาจจะต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ หลังจากที่รู้จักประเภท และข้อมูลหลาย ๆ ของริดสีดวงคืออะไรกันไปแล้ว ก็อย่าลืมปรับพฤติกรรม และหายาสมุนไพร หรือยาจากแพทย์ทานเพื่อรักษาอาการริดสีดวง ไม่ให้เรื้อรังกันด้วยนะ
คนปกติแค่ไม่ได้ถ่ายท้องวันเดียว หรือขับถ่ายลำบากก็ทำให้กังวลอยู่แล้ว แต่ถ้าหากใครถ่ายเป็นเลือด รับรองว่าอาการตกใจต้องเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณอย่างแน่นอน หลายคนมักจะคิดไปไกลว่าเป็นโรคร้ายอย่างมะเร็งหรือไม่ ซึ่งการถ่ายเป็นเลือด ริดสีดวงก็เป็นต้นเหตุสำคัญเช่นกัน ป้องกันการถ่ายเป็นเลือด ริดสีดวงหายได้ด้วยยสมุนไพร สมุนไพรชัยพฤกษา สมุนไพรไทยสกัด มีสรรพคุณช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือด ลม และการทำงานภายในร่างกายเป็นระบบดียิ่งขึ้น เป็นยาสมุนไพรช่วยบรรเทา รักษา และป้องกันการเป็นริดสีดวงที่มีอย.รองรับ และได้รับการขึ้นทะเบียนยาแพทย์แผนไทย ไม่มีสารเคมีตกค้าง ปลอดภัยอย่างแน่นอน โดยสรรพคุณจากสมุนไพรกว่า 11 ชนิด นอกจากการช่วยให้หายจากการเป็นริดสีดวงแล้ว ยังช่วยให้แผลบริเวณทวารหนักหายไว ช่วยหยุดเลือดที่ไหลได้อีกด้วย ถ่ายเป็นเลือด ริดสีดวงปล่อยไว้อันตราย อย่าลืมจับจองไปลองทานกัน รับประกัน 7 วันเห็นผล ถ่ายเป็นเลือด ริดสีดวงเสี่ยงโรคแทรกซ้อนยังไง การถ่ายเป็นเลือด ริดสีดวงเป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่มักจะทำให้เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะยังมีความเสี่ยงในเรื่องของมะเร็งลำไส้ ลำไส้แปรปรวน โรคกะเพรา และอื่น ๆ อีกมากมาย การตรวจกับคุณหมอโดยตรงอาจจะได้คำตอบที่ดีมากที่สุด ทั้งนี้หากคุณเป็นโรคริดสีดวงทวารอยู่ การปล่อยให้ถ่ายเป็นเลือด ริดสีดวงอาจได้รับเชื้อโรคจากของเสียที่ขับถ่ายออกมา เพราะฉะนั้นควรเร่งหาสมุนไพรทาน หรือเข้าพบแพทย์โดยเร็ว - เลือดสีแดงสดมักหมายถึงเลือดออกที่ลำไส้ใหญ่หรือทวารหนัก - เลือดสีแดงเข้มหรือสีน้ำตาลแดง อาจจะมีเลือดออกในลำไส้ใหญ่หรือในลำไส้เล็ก - สีเข้ม (Melena) มักจะเกิดจากเลือดออกในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้การที่ถ่ายเป็นเลือดอาจจะเกิดจากอุจจาระที่แข็งมากเป็นพิเศษ ซึ่งอุจจาระแข็งทำให้เกิดริดสีดวงทวารและทำให้เลือดออกได้เช่นกัน โดยการถ่ายเป็นเลือดแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับริดสีดวงทวารทั้งภายในและภายนอก ในบางกรณีที่ถ่ายเป็นเลือด ริดสีดวงอาจจะแตกแบบไม่รู้ตัว ส่งผลให้มีเลือดออกหรือถ่ายเป็นเลือดได้เช่นเดียวกัน ข้อพึงระวังสำหรับคนที่ถ่ายเป็นเลือด จากริดสีดวง การที่ถ่ายเป็นเลือดมักจะทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการตกใจ แต่ทั้งนี้หากรู้สาเหตุของเลือดออกที่ชัดเจน หรือหากยังมีเลือดออกอยู่เรื่อยๆ ภายในหนึ่งสัปดาห์แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยที่แน่นอน เพราะอย่างที่บอกว่าทางการแพทย์สามารถวิเคราะห์โรคต่างๆ ได้อย่างแน่นอนกว่า รวมถึงโรคมะเร็ง ริดสีดวง และโรคลำไส้อักเสบ (IBD) ซึ่งอาจมีอาการที่ใกล้เคียงกัน
ถึงริดสีดวงจะเป็นแล้วรักษาให้หายได้ แต่บางคนเป็นเรื้อรังจนต้องมาปรึกษาว่าเป็นริดสีดวงระยะไหนควรผ่าตัด? ซึ่งถ้าให้เลือกได้ผู้ป่วยริดสีดวงทุกคนก็อยากจะหลีกเลี่ยงการผ่าตัดกันทั้งนั้น แต่ก่อนอื่นอยากให้ลองศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทและอาการของโรคกันก่อนว่าริดสีดวงระยะไหนควรผ่าตัด? เพราะส่วนใหญ่แล้วหลายท่านก็สามารถรักษาให้หายขาดได้โดยไม่ต้องผ่านมีดหมอ หรือหากต้องเข้ารับการผ่าตัดริดสีดวงจริงๆ เดี๋ยวนี้ก็มีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้ามาช่วยในการผ่าตัดให้ง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว ระยะอาการของโรคริดสีดวง ระยะที่ 1 หัวริดสีดวงยังคงอยู่ในทวารหนัก ไม่โผล่พ้นออกมา ขณะขับถ่ายอาจมีความรู้สึกเจ็บ และมีเหลือออกมาเล็กน้อย ระยะที่ 2 หัวริดสีดวงโผล่พ้นออกมาจากทวารหนักเล็กน้อยขณะขับถ่าย และสามารถหดกลับเข้าไปได้เอง ในระยะนี้จะรู้สึกหน่วง ๆ บริเวณทวารหนัก หรือบริเวณก้นตลอดเวลา มีเลือดออกเล็กน้อยขณะขับถ่าย ระยะที่ 3 หัวริดสีวงโผล่พ้นออกมาจากทวารหนักชัดเจน และจะโผล่ออกมามากในขณะขับถ่าย สามารถใช้มือดันกลับเข้าไปได้ แต่จะรู้สึกปวด ระยะนี้จะหน่วง และปวดบริเวณก้นพอสมควร และมักจะมีเลือกออกขณะขับถ่าย ระยะที่ 4 หัวริดสีดวงโผล่พ้นทวารหนักออกมาตลอดเวลา มีขนาดใหญ่ และบวมแดง ยากที่จะดันกลับเข้าไปเอง เป็นะระยะสุดท้ายก่อนจะเกิดการอักเสบของริดสีดวง การพิจารณาการผ่าตัดริดสีดวงนั้นมักจะมีหลายสาเหตุประกอบกัน ซึ่งส่วนใหญ่แพทย์จะพิจารณาว่าริดสีดวงระยะไหนควรผ่าตัด? ตามประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้ ข้อตัดสินใจอย่างไร ว่าริดสีดวงระยะไหนควรผ่าตัด - ริดสีดวงระยะที่ควรผ่าตัดนั้น โดยส่วนมากจะเป็นระยะที่ 3 และ 4 เพราะหัวริดสีดวง หรือติ่งเนื้อจะโผล่พ้นทวารหนักออกมาค่อนข้างมาก และไม่สามารถดันกลับเข้าไปได้ - แม้ว่าจะไม่ใช่ระยะที่ 3 หรือ 4 แต่หากเกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง คุณสามารถตัดสินใจผ่าตัด หรือปรึกษาคุณหมอก่อนได้เลย เพราะริดสีดวงอาจจะมีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ รวมทั้งริดสีดวงระยะไหนควรผ่าตัดนั้น ไม่ได้ตายตัวอยู่แค่ระยะที่ 3 และ 4 เสมอไป - มีเลือดออกจำนวนมากจากริดสีดวง - มีริดสีดวงทวารภายในที่บีบรัด โดยกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักตัดเลือดที่ไปเลี้ยงเนื้อเยื่อ - ผู้ป่วยเป็นโรคริดสีดวงทวารที่มีลิ่มเลือด ใครที่ยังไม่เหมาะกับการผ่าตัดริดสีดวง คนที่เป็นๆ หายๆ จากริดสีดวงมักสงสัยอยู่แล้วว่าริดสีดวงระยะไหนควรผ่าตัด เราควรจะต้องไปผ่าตัดแล้วหรือยัง ทั้งนี้ต้องเข้าใจร่วมกันก่อนว่าการผ่าตัดไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน แม้ว่าการวินิจฉัยจะเข้าข่ายตามข้างต้นก็ตาม - มีริดสีดวงทวารขนาดเล็ก หรือระยะ 1-2 - สามารถเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการรับประทานอาหาร ซึ่งสามารถบรรเทาอาการริดสีดวงได้ - กำลังตั้งครรภ์ - ทานยาบางชนิดที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการตกเลือด - มีอาการป่วยรุนแรงหรือติดเชื้อ กลุ่มข้างต้นนี้ หากคุณไปปรึกษาคุณหมอ ก็อาจจะไม่ได้รับการอนุญาตให้ผ่าตัดอยู่ดี โดยส่วนใหญ่มักจะนิยมให้บรรเทาอาการตัวเองเบื้องต้นด้วยการทานยาตามหมอสั่ง หรือปรับพฤติกรรม ทั้งนี้หากคุณรู้สึกอึดอัดจากการเป็นโรคริดสีดวง และอยากจะหายโดยไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด สมุนไพรรักษาริดสีดวง ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยบรรเทา และทำให้อาการริดสีดวงของคุณหายขาดได้ หากคุณยังไม่สะดวกไปพบแพทย์ การเปิดโอกาสให้กับสมุนไพรไทย ไม่มีสารเคมี มีอย.รองรับ และผ่านการขึ้นทะเบียนยาแพทย์แผนไทยก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน ถึงตรงนี้ผู้อ่านคงพอทราบแล้วว่าเป็นริดสีดวงระยะไหนควรผ่าตัด? แต่สิ่งที่สำคัญคือ ถ้าหากคุณเริ่มรู้สึกว่าริดสีดวงเริ่มรบกวนชีวิตประจำวันมากเกินไป ก็แนะนำให้ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตดู แต่หากทั้งหมดนี้ยังไม่สามารถตอบคำถามว่าริดสีดวงระยะไหนควรผ่าตัด? แนะนำให้ลองปรึกษาแพทย์ ส่วนใหญ่มักจะพบว่าการผ่าตัดมักจะเป็นทางเลือกท้ายๆ สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาในรูปแบบอื่น นอกจากนี้ยังพบว่าการผ่าตัดเอาริดสีดวงทวารหรือที่เรียกว่า hemorrhoidectomy นั้นมักจะเหมาะกับการรักษาริดสีดวงทวารขนาดใหญ่ที่ทำให้เกิดอาการปวดหรือมีเลือดออกมาก ทั้งหมดนี้ผู้ป่วยควรให้แพทย์วินิจฉัยโดยตรงว่าริดสีดวงระยะไหนควรผ่าตัด? ซึ่งแน่นอนว่าจะได้รับคำตอบที่เหมาะสมที่สุดนั่นเอง
เมื่อเป็นริดสีดวงแล้ว นอกจากทานยาหาหมอแล้ว เรื่องอาหารก็ต้องระวังด้วย อย่างน้อยก็ควรรู้ว่าเป็นโรคริดสีดวงห้ามกินอะไรบ้าง เพราะมีอาหารหลายตัวที่กระตุ้นให้อาการแย่ลงกว่าเดิมได้ ดังนั้นการใส่ใจในการเลือกทานจึงเป็นปัจจัยสำคัญเลยทีเดียว แต่ก่อนที่จะรู้ว่าโรคริดสีดวงห้ามกินอะไรบ้าง เราควรทราบถึงประเภทของริดสีดวงกันแบบเบื้องต้นกันก่อนดังนี้ ริดสีดวงทวาร ไม่ควรทานอะไร คาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสีแล้ว หากถามว่าโรคริดสีดวงห้ามกินอะไรบ้าง ต้องบอกว่าข้าวและแป้งที่ขัดข้าวถือเป็นตัวการสำคัญ เพราะเป็นอาหารพื้นฐานอันดับหนึ่งที่เรารับประทานตลอดเวลา ซึ่งส่วนใหญ่ผ่านการขัดสี ทำให้เนื้อมีสีขาว และมีสัมผัสที่อร่อย แต่รู้ไหมว่าการทานข้าวหรือแป้งที่ขัดสีนั้น ทำให้ไฟเบอร์หรือเส้นใยอาหารลดลงเป็นจำนวนมาก โดยลองเปรียบเทียบง่ายๆ ว่า ขนมปังขาว 1 ชิ้น มีเส้นใยเพียง 0.6 กรัม ซึ่งจากข้อมูลวิจัยของ US National Academy of Sciences Research Council พบว่าการทานขนมปังขาว 4 แผ่นให้ปริมาณเส้นใยประมาณ 6 % ของความต้องการไฟเบอร์ในแต่ละวันเท่านั้น ซึ่งปกติร่างกายของเราต้องการจำนวนไฟเบอร์มากกว่านั้นเป็นเท่าตัว ดังนั้นถามหมอว่าโรคริดสีดวงห้ามกินอะไรบ้าง ก็คงได้รับคำตอบว่าอาหารเหล่านี้นี่แหล่ะที่ควรลดปริมาณหรือทานให้น้อยลงได้จะดีที่สุด อาหารแช่แข็งและอาหารฟ้าสต์ฟู้ด อาหารเหล่านี้ถือว่าเป็นอาหารที่เราหาทานได้ง่ายและสะดวกสบายเป็นที่สุด แต่รู้ไหมว่าถ้าไปพบแพทย์ก็จะได้รับคำแนะนำว่าโรคริดสีดวงห้ามกินอะไรบ้าง จะต้องมีรายชื่ออาหารเหล่านี้เป็นแน่แท้ เนื่องจากในอาหารแช่แข็งและฟ้าสต์ฟู้ดนั้นมักจะมีเกลือหรือปริมาณโซเดียมที่สูงกว่าอาหารทั่วไป ซึ่งเกลือจะทำให้ร่างกายต้องการน้ำ และจะทำให้หลอดเลือดมีแรงกดดันมากขึ้น ซึ่งรวมถึงเส้นเลือดที่บริเวณทวารหนักของเราด้วยเช่นกัน ดังนั้นการทานอาหารประเภทนี้อาจจะเป็นสาเหตุของโรคริดสีดวงทวาร แอลกอฮอล์และคาเฟอีน หลายคนบอกว่าขาดเครื่องดื่มเหล่านี้ไม่ได้เพราะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว แต่รู้ไหมว่าถ้ามานั่งจับเข่าคุยกันว่าโรคริดสีดวงห้ามกินอะไรบ้าง เครื่องดื่มจำพวกแอลกอฮอล์และชากาแฟ จะถูกยกมาเป็นของต้องห้ามอันดับแรกๆ เลย เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้จะทำให้อุจจาระแห้ง และขับถ่ายยากขึ้น ยิ่งหากเป็นโรคริดสีดวงอยู่แล้ว ก็อาจจะส่งปัญหาและทำให้มีอาการปวดรุนแรงขึ้นอีกด้วย ข้อเสียของการทานอาหารไม่ระวัง หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวารนั้น เป็นเพราะนิสัยการบริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อร่างกายสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นหากคุณกำลังเผชิญกับโรคริดสีดวงอยู่ในตอนนี้ การศึกษาและเรียนรู้ไว้เกี่ยวกับเนื้อหาที่ว่าด้วยโรคริดสีดวงห้ามกินอะไรนั้น จึงเป็นเรื่องจำเป็น นอกจากนี้ การเคี้ยวให้ละเอียดก็ยังเป็นอีกหนึ่งในขั้นตอนการกินที่ช่วยคุณได้เช่นกัน ในเมื่อเรารู้แล้วว่าโรคริดสีดวงห้ามกินอะไรบ้าง และควรเลือกกินอะไร ก็ควรหมั่นเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นธัญพืชที่มีประโยชน์ ข้าวและแป้งที่ไม่ขัดสี อย่างเช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต รวมไปถึงพยายามลดโซเดียม และดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อีกหน่อยก็จะไม่ต้องมานั่งกังวลต่อไปอีกแล้วว่าโรคริดสีดวงห้ามกินอะไรบ้าง เพราะร่างกายเราจะแข็งแรง และสามารถทานทุกอย่างได้ถ้าหากเลือกทานให้เป็นในปริมาณที่เหมาะสม
รู้ไหมว่าการออกกำลังกายช่วยบรรเทาอาการริดสีดวงได้ วิธีออกกำลังกายสำหรับคนเป็นริดสีดวงทวารที่ทั้งลดอาการปวดเจ็บแสบ แถมยังช่วยให้แผลหายเร็วนั้นมีอยู่หลากหลายวิธี แต่หลายคนยังสงสัยอยู่ว่าจะออกกำลังกายไปทำไมกัน ริดสีดวงควรจะรักษาด้วยการทานยามากกว่าหรือเปล่า หากใครยังสงสัยหรือไม่มั่นใจ แนะนำให้อ่านให้จบจะไขข้อข้องใจได้แน่นอน คนเป็นริดสีดวงทวาร ออกกำลังกายได้หรือไม่ ไหนกรณีที่เป็นโรคริดสีดวง การใช้ชีวิตแบบไม่ให้ช่วงบั้นท้ายไปกระกระทั่งกับสิ่งต่า ๆ มากเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่สาหรับคนที่มีวินัยในเรื่องการออกกำลังกาย หากเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมก็สามารถช่วยเยียวยาอาการริดสีดวงได้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะถ้าหากเรารู้ถึงวิธีออกกำลังกายสำหรับคนเป็นริดสีดวงทวารอย่างถูกต้องนั้น จะทำให้อาการปวดคลายลงได้อย่างรวดเร็ว เพราะการออกกำลังกายจะช่วยรักษาและป้องกันเส้นเลือดที่บวมรอบทวารหนักได้ นอกจากนี้หากเราออกกำลังกายเป็นประจำก็จะช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น แถมยังช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ได้อย่างดีอีกด้วย รู้แล้วแบบนี้มาดูวิธีออกกำลังกายสำหรับคนเป็นริดสีดวงทวารกันเลยดีกว่า วิธีออกกำลังกายสำหรับคนเป็นริดสีดวงทวาร สร้างกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน กล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานที่แข็งแรงจะช่วยให้ขับถ่ายอุจจาระได้ง่ายขึ้น เพราะกล้ามเนื้อส่วนนี้จะช่วยคลายกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักและป้องกันการรัดตัวของเส้นเลือด เทคนิคบริหารกล้ามเนื้อถือเป็นวิธีออกกำลังกายสำหรับคนเป็นริดสีดวงทวารที่มีประโยชน์มากเลยทีเดียว วิธีทำก็ง่ายมาก เพียงนอนหงายยกขาตั้งขึ้นชัน และให้ลองขมิบหรือกร็งกล้ามเนื้อทวารค้างไว้ 5 วินาที แล้วผ่อนคลาย จากนั้นทำซ้ำอีก 5 ครั้ง แค่นี้ก็สร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้นได้แล้ว ฝึกหายใจให้ลึก หากใครที่เคยเรียนโยคะจะรู้จักกันดีว่าการหายใจมีความสัมพันธ์กับการออกแรงมากขนาดไหน โดยในการฝึกหายใจจะเป็นตัวช่วยบรรเทาความตึงเครียดของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน และช่วยผ่อนคลายส่วนต่างๆ ของร่างกายได้อย่างดีอีกด้วย การทำโยคะท่า Balasana โยคะหลายท่าถือเป็นวิธีออกกำลังกายสำหรับคนเป็นริดสีดวงทวารที่เหมาะสมและได้ผลดีเยี่ยม โดยท่านี้จะเพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณรอบทวารหนัก และบรรเทาอาการท้องผูกในขณะที่ผ่อนคลายหลังส่วนล่างสะโพกและขา ในศาสตร์ของโยคะนั้นถือว่า ท่านี้เป็นวิธีออกกำลังกายสำหรับคนเป็นริดสีดวงทวารที่ได้ผลมาก เพราะช่วยนวดอวัยวะภายในให้แก่ร่างกาย โดยไปเพิ่มแรงกดที่ท้องส่วนล่าง ซึ่งขณะทำให้วางหมัดหรือฝ่ามือซ้อนกันในบริเวณนี้ เดินออกกำลังกายเป็นประจำ วิธีนี้ถือเป็นวิธีออกกำลังกายสำหรับคนเป็นริดสีดวงทวารที่ง่ายที่สุด และไม่ต้องฝึกหัดอะไรให้ยุ่งยากเลย ที่สำคัญเราสามารถทำได้ตลอดเวลา ไม่ต้องรอให้ว่างด้วย เพราะเชื่อว่าทุกคนต้องมีโอกาสเดินบ้างในแต่ละวัน และถ้าหากมีเวลาก็ขอแนะนำให้เดินออกกำลังกายซัก 30 นาที ถ้าจะให้ดีให้ลองเดินเร็วดู เพราะการเพิ่มความเร็วจะช่วยให้ปอดทำงานได้ดี ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และเสริมสร้างกล้ามเนื้อในร่างกายส่วนล่างและบริเวณทวารหนักอีกด้วย ดังนั้นการเดินจึงถือเป็นวิธีออกกำลังกายสำหรับคนเป็นริดสีดวงทวารที่ใครๆ ก็ทำได้ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือผู้ป่วยที่มีอาการเรื้อรัง เมื่อรู้วิธีออกกำลังกายสำหรับคนเป็นริดสีดวงทวารแล้ว สิ่งสำคัญคือ ต้องหมั่นออกกำลังกายให้เป็นประจำ เพราะการออกบ้างไม่ออกบ้างอาจจะไม่สามารถบรรเทาอาการได้ ที่สำคัญอย่าลืมดื่มน้ำสะอาดและเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ มีเส้นใยไฟเบอร์สูงเพื่อช่วยในการขับถ่ายให้ดียิ่งขึ้น หรือการทานยาเพื่อบรรเทาอาการไปด้วย ก็ช่วยได้มากเช่นกัน อย่าง สมุนไพรรักษาริดสีดวงชัยพฤกษา สมุนไพรที่จะช่วยยับยั้ง ทุเลา บรรเทา และช่วยให้ริดสีดวงหายขาด ทานควบคู่กับการออกกำลังกายยิ่งเห็นผลดีแน่นอน
เบื่อกับอาการเป็น ๆ หาย ๆ ของโรคริดสีดวงเสียเหลือเกิน บางคนเป็นบ่อยจนเริ่มรู้แนวทางในการรักษาริดสีดวงด้วยตัวเองแล้วด้วย เพราะหายแล้วก็กลับมาเป็นซ้ำจนเริ่มเชี่ยวชาญ แต่สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเคยเป็นครั้งแรก จะหาหมอก็ยังอาย คราวนี้เรามีข่าวดีในการรักษาริดสีดวงด้วยตัวเองมาฝาก เผื่อจะช่วยทุเลาอาการให้หายได้ๆวกว่าเดิมอีกด้วย เลือกทานอาหารให้ถูกก็รักษาริดสีดวงด้วยตัวเองได้แล้ว วิธีนี้เป็นวิธีการรักษาริดสีดวงด้วยตัวเองที่ง่ายที่สุด แต่การแนะนำซ้ำ ๆ ว่าอาหารที่มีกากใย และไฟเบอร์อาจจะไม่ชัดเจน และยังไม่มั่นใจว่าจะปรับรูปแบบการทานแบบไหนดี เพราะฉะนั้นเราจะพามาชี้จุด บอกชื่อกันชัด ๆ ว่าอันนี้กินแล้วดี กินเยอะ ๆ แล้วรักษาริดสีดวงด้วยตัวเองได้แน่นอน ถั่วชนิดต่างๆ : การทานอาหารประเภทถั่วนั้นบอกเลยว่าทานง่าย และอร่อยอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นถั่วลิสง ถั่วเหลือง ถั่วเขียว เราก็สามารถเลือกได้ตามความชอบเลยทีเดียว แต่ประโยชน์ที่เด่นชัดของถั่วนั้นก็คือ เส้นใยจากถั่ว ทั้งชนิดที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ โดยเส้นใยที่ละลายน้ำจะก่อตัวเป็นเจลในระบบทางเดินอาหาร และย่อยได้โดยแบคทีเรียชนิดที่ดี ส่วนไฟเบอร์ที่ไม่ละลายน้ำจะช่วยทำให้อุจจาระมีปริมาณมากขึ้น ธัญพืช : ธัญพืชมีคุณสมบัติคล้ายถั่ว และเป็นแหล่งพลังงานที่มีประโยชน์ แถมช่วยให้เรารักษาริดสีดวงด้วยตัวเองได้อีกด้วย เพราะในธัญพืชจะมีจมูกข้าวรำและเอนโดสเปิร์มซึ่งเต็มไปด้วยส่วนประกอบที่สำคัญต่อการขับถ่ายอย่างเส้นใยอาหาร ซึ่งจะไปช่วยในเรื่องการขับถ่ายให้ดียิ่งขึ้น ผลก็คือ ลดความเจ็บปวดและค่อยๆ เยียวยาอาการริดสีดวงให้ดียิ่งขึ้น บรอกโคลีและผักที่มีหัว : ลองเลือกทำอาหารด้วยบรอกโคลี หรือผักที่มีหัวเช่น ผักกะหล่ำเพราะทั้งมีประโยชน์และช่วยให้เราสามารถรักษาริดสีดวงด้วยตัวเองไปในตัว เพราะผักชนิดนี้จะมีเส้นใยค่อนข้างสูง เช่น บรอคโคลีมีเส้นใย 2 กรัม การทานผักเหล่านี้จะช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระและทำให้ถ่ายท้องได้เป็นปกติ ยาสมุนไพรตำรับแพทย์แผนไทย ต้องบอกว่าสมุนไพรไทยของเราก็มีหลากหลายสูตรที่นำมาใช้เป็นยารักษาริดสีดวงด้วยตัวเอง โดยเพียงแค่ใช้สมุนไพรและปรับพื้นฐานการใช้ชีวิตให้ดีขึ้นก็ช่วยได้เยอะทีเดียว ยาสมุนไพรยอดนิยม เช่น ยาผสมเพชรสังฆาต รับประทานครั้งละ 2 เม็ด วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร ส่วนอีกตำรับหนึ่งก็คือ ยาริดสีดวงมหากาฬ ซึ่งมักผลิตออกมาเป็นแบบแคปซูล โดยรับประทานครั้งละ 2 เม็ด วันละ 3 ครั้ง แต่หากมีโรคประจำตัวหรือตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาเสมอ หากท่านสนใจสมุนไพรรักษาริดสีดวง และมีคุณประโยชน์ในการขับเลือดลม และช่วยให้ระบบขับถ่ายดี เราขอแนะนำ สมุนไพรรักษาริดสีดวงชัยพฤกษา Tips: ใช้น้ำอุ่นช่วยบรรเทาอาการ : โดยทั่วไปแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมักจะแนะนำให้ผู้ที่มีอาการปวดริดสีดวงทวารนั่งแช่ในน้ำอุ่นเป็นเวลา 15 นาที วันละหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการถ่ายท้องหนัก วิธีนี้เป็นอีกวิธีที่ทำได้ที่บ้าน แถมยังเป็นการรักษาริดสีดวงด้วยตัวเองแบบประหยัดและปลอดภัยอีกด้วย ประคบเย็นลดอาการปวด สูตรนี้เป็นการรักษาริดสีดวงด้วยตัวเองที่นั่งอยู่เฉยๆ ก็ทำได้ โดยการใช้ประคบเย็นเข้าช่วย เพียงหาถุงใส่น้ำแข็ง หรือเจลประคบแบบที่แช่ช่องแข็ง มาประคบบริเวณที่ปวดในช่วงที่มีอาการ ซึ่งการประคบแบบนี้จะช่วยลดอาการปวด และลดอาการห้อเลือดและหมองคล้ำของผิวบริเวณที่อักเสบลงได้
ริดสีดวงทวารหนัก โรคที่แม้จะไม่ได้เสี่ยงถึงแก่ชีวิต แต่สร้างความลำบากในการใช้ชีวิตได้อย่างที่ใครหลาย ๆ คนนึกไม่ถึง ซ้ำร้ายเป็นแล้วยังหายยังกลับมาเป็นต่อได้อีก ในบทความนี้ชัยพฤกษา จะพาทุกคนมาสำรวจเส้นทางความลำบากในการเป็นโรคริดสีดวง แม้จะเป็นโรคที่หายได้ แต่ก็ไม่ได้หายง่ายอย่างที่คิด การใช้ชีวิตขณะเป็นโรคริดสีดวงต้องเตรียมรับมือกับอะไรบ้าง และโอกาสในการเป็นซ้ำมีมากน้อยแค่ไหน การไปพบแพทย์จะต้องเจอกับอะไร มาดูไปพร้อม ๆ กันได้ที่บทความนี้ ไปพบแพทย์ตรวจริดสีดวงทวารหนัก มีกระบวนการอย่างไรบ้าง? โดยทั่วไปอาการของโรคริดสีดวงทวารหนักที่เจออยู่บ่อยๆ ก็คือ อาการคัน ปวดทวารหนักหรือมีก้อนเนื้อและมีเลือดออก ซึ่งหากไปพบแพทย์ก็มักจะมีการวินิจฉัยโดยการซักประวัติและตรวจร่างกาย ประวัติคนไข้จะมีข้อมูลบ่งชี้ของการเกิดริดสีดวง โดยขั้นตอนการตรวจริดสีดวงที่เริ่มมีติ่งเนื้อใหญ่ประมาณหนึ่งแล้ว คุณหมอจะตรวจก้นโดยใช้ตาเปล่าดูขนาด ลักษณะ พร้อมจับ ๆ คลึง ๆ บริเวณทวารหนักเพื่อตรวจสอบอาการ สำหรับผู้ที่มีอาการติ่งริดสีดวงอักเสบ หรือเจ็บปวดรุนแรงนั้น จะต้องมีการสอดกล้องเข้าไปเพื่อตรวจภายใน ให้มั่นใจว่าไม่ได้มีโรคแทรกซ้อน หรือไม่ได้เป็นโรคในลำไส้ใหญ่ซึ่งค่อนข้างน่ากลัวกว่าการเป็นริดสีดวงพอสมควร ริดสีดวงทวารหนักจำเป็นต้องผ่าตัดติ่งเนื้อออกหรือไม่ โดยส่วนใหญ่ ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นผ่าตัด หรือต้องพบแพทย์ เพราะริดสีดวงนั้น สามารถใช้ยาทาน และการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตก็สามารถช่วยให้หาย ติ่งเนื้อยุบ และฝ่อลงไปเองได้ ในกลุ่มคนที่เป็นริดสีดวงทวาร มักจะนิยมเลือกทานยาสมุนไพร หรือยาทาจากร้านเภสัช ยกเว้นในกรณีที่เป็นหนักรุนแรง อาจเกิดจากโรคแทรกซ้อน หรือไม่ยอมปรับรูปแบบการใช้ชีวิตหลังเป็นริดสีดวง ทำให้เกิดการอักเสบ และต้องพึ่งแพทย์เท่านั้น ในกรณีนี้การผ่าตัดก็เป็นทางเลือกที่หนึ่งเช่นกัน โรคริดสีดวงทวาร รักษาหายขาดแล้วกลับมาเป็นซ้ำได้อีกหรือไม่ มีความเชื่อผิด ๆ อยู่ไม่น้อย ที่ว่าหลาย ๆ โรคเป็นแล้วจะไม่กลับมาเป็นซ้ำ และริดสีดวงทวาร ก็เป็นหนึ่งในความเชื่อผิดนั้นด้วยเช่นกัน เพราะโรคริดสีดวง มักจะเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตล้วน ๆ เพราะฉะนั้น หากรูปแบบการใช้ชีวิตส่งผลให้เกิดโรคริดสีดวงทวารหนักมาแล้วหนึ่งครั้ง หากไม่ปรับเปลี่ยนแก้ไข รับประกันกลับมาเป็นอีกครั้งแน่นอน รักษาริดสีดวงทวารยังไงให้หายขาด แม้ว่าจะผ่านกระบวนการรักษาด้วยวิทยาการทางการแพทย์อย่างการจี้ด้วยเลเซอร์ หรือการมัดปม อต่อย่างที่ได้กล่าวไปว่าหากไม่ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตนั้น กลับมาเป็นอีกแน่นอน หากรักษาให้หายแล้ว ควรปรับตัวให้มีพฤติกรรมที่ดีดังนี้ 1. อย่ายืนนาน อาจจะเป็นเรื่องยากนิดหน่อยในผู้ที่มีลักษณะการทำงานที่ต้องยืนทั้งวัน แต่ทั้งนี้ คุณจะต้องหาช่วงเวลาให้ตัวเองได้นั่งบ้างเนื่องจากการยืนเป็นเวลานานทั้งวันติดต่อกันเป็นเวลานาน และหลายวันติด ๆ กัน มีความเสี่ยงที่โรคริดสีดวงทวารจะถามหา 2. อย่านั่งนาน เอาล่ะสิ จะยืนนานก็ไม่ได้ จะนั่นนานก็ไม่ได้ แต่การนั่งนานในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงการเรียน นั่งทำงาน หรือนั่งอยู่กับที่ แต่เป็นการนั่งปลดทุกข์ที่นานจนเกินไป เพราะการนั่งปลดทุกข์นานจนเกินไปจะเกิดการเกร็งบริเวณทวารที่นานตามไปด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจจะทำให้เส้นเลือดใหญ่บริเวณดังกล่าวแตกได้ เพราะฉะนั้น ทานอาหารดี ๆ จะได้ขับถ่ายได้คล่อง ไม่ต้องนั่งเบ่งนาน ๆ 3. อย่าทานแต่เนื้อสัตว์ เนื้อสัตว์เป็นอาหารที่ย่อยยากที่สุด ทานได้แน่นอน แต่ควรทานในปริมาณที่พอดีต่อวัน และที่สำคัญ เคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน จะช่วยให้ระบบขับถ่ายดี ไม่ท้องถูก และไม่เสี่ยงกับการเป็นโรคริดสีดวงทวาร 4. ทานวิตามิน การทานวิตามินบำรุงร่างกาย เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่จะทำให้โรคริดสีดวงไม่วนกลับมาหาเราซ้ำ อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นวิตามินเม็ด ๆ แต่เลือกทานเป็นวิตามินจากผัก และผลไม้ได้ยิ่งดี รวมไปถึงสมุนไพรไทยต่าง ๆ ก็มีวิตามินดี และบางชนิดมีผลในการยับยั้งและป้องกันโรคริดสีดวงทวาร สมุนไพรไทยหลาย ชนิดนั้น ให้ทั้งวิตามิน และสรรพคุณทางยาที่จะช่วยให้คุณรอดพ้นจากการเป็นโรคริดสีดวง ยิ่งกว่าไปกว่านั้น ยังช่วยให้หายขาดจากการเป็นโรคริดสีดวงได้อีกด้วย ทั้งเพชรสังฆาต พริกไทย และอัคคีทวาร กลุ่มสมุนไพรเหล่านี้มีสรรพคุณช่วยยับยั้งการเกิดโรคริดสีดวงทวารได้โดยเฉพาะ อีกทั้งยังสามารถขับลม และช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น สมุนไพรรักษาริดสีดวงชัยพฤกษา ยาสมุนไพรรักษาริดสีดวงทวาร ที่รวมสมุนไพรขึ้นชื่อเรื่องการพิฆาตริดสีดวง และให้ผลดีกับสุขภาพมากถึง 11 ชนิด มีอย. และขึ้นทะเบียนยาแพทย์แผนโบราณ อย่ารอช้า สั่งเลย
ใครที่กำลังเป็นริดสีดวงแล้วลองผิดลองถูกแต่ไม่หายซักที อยากจะแนะนำให้ลองเริ่มศึกษาแพทย์แผนไทยดูก่อน เพราะตำรับยาไทยโบราณนั้นถือว่ามีสรรพคุณไม่แพ้ยาตำรับนอกเลยทีเดียว แถมข้อดีก็ยังมีอีกเยอะ เช่น ไม่ปรุงแต่งสารเคมีที่มีอันตรายต่อร่างกาย ใช้ส่วนผสมหลักจากสมุนไพรไทยพื้นบ้านที่หาได้ง่าย เป็นการส่งเสริมการใช้สมุนไพรไทยไม่ให้หายไปตามกาลเวลา ที่สำคัญตำรับแพทย์แผนไทยของเรานั้นมีหลายสูตรให้เลือกมากมาย และราคาก็ย่อมเยากว่ายาฝรั่งอีกด้วย วิธีใช้ถือเป็นจุดสำคัญในการเริ่มต้นรักษาตนเองจากโรคริดสีดวงในตำราแพทย์แผนไทย เพราะหลายสูตรหลายขนานส่วนผสมก็อาจจะต่างกันไป ดังนั้นลองมาทำความเข้าใจกันอย่างลึกซึ้งว่าสมุนไพรไทยชนิดไหนเหมาะกับนำมาใช้รักษาริดสีดวงกันบ้างดีกว่า โดยข้อมูลที่จะนำมาแบ่งกันในวันนี้จะมีทั้งสมุนไพรแพทย์แผนไทยที่ผ่านการวิจัยและรับรองแล้วว่ามีคุณสมบัติเทียบเท่ายาแผนปัจจุบัน นอกจากนี้ยังนำมาใช้ในสูตรยาแพทย์แผนไทยพื้นบ้าน และบางส่วนยังเป็นตำรับยาแพทย์แผนไทยที่ถูกบรรจุไว้ในบัญชียาหลักแห่งชาติอีกด้วย 3 สูตรแพทย์แผนไทยรักษาริดสีดวงต้นตำรับ แพทย์แผนไทย คือกระบวนการรักษาโรคที่สืบต่อกันมายาวนานตามแต่ละภูมิภาคต่าง ๆ โดยการแพทย์แผนไทยนั้น เป็นทั้งวิถีชีวิต วัฒนธรรม และความรู้เกี่ยวกับการแพทย์ในยุคก่อนที่วิทยาการทางวิทยาศาสตร์จะพัฒนาขึ้นเทียบเท่ากับปัจจุบัน องค์ความรู้ที่ถูกสะสมไว้และส่งต่อมากันมาแบบรุ่นสู่รุ่น มีการบันทึกไว้ให้คนรุ่นหลังได้อ่าน ถือเป็นคุณค่าทางการแพทย์ที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้ทางการแพทย์แผนปัจจุบัน ยาริดสีดวงมหากาฬ ส่วนใหญ่จะนำมาผสมเป็นยาเม็ดแคปซูลหรือลูกกลอน เพื่อทำให้ทานได้ง่ายขึ้น ซึ่งยาแพทย์แผนไทยตำรับนี้มีส่วนประกอบค่อนข้างหลากหลายเลยทีเดียว โดยจะมีเมล็ดลูกจันท์ ขอบชะนางแดง ขอบชะนางขาว โกฐกักกรา โกฐสอ โกฐจุฬาลำพา โกฐก้านพร้าว โกศพุงปลา เทียนดำ เทยีนแดง เทียนขาว เทียนข้าวเปลือก เทยีนตาตั๊กแตน แก่นสนเทศ ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ เถาสะค้าน เปลือกสมุลแว้ง ดอกดปีลี พริกไทยล่อน เหง้าขิง และเปลือกอบเชยเทศ ข้อควรรู้: สำหรับคนที่มีการรับประทานร่วมกับยาในกลุ่มสารกันเลือดเป็นลิ่ม รวมถึงยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา นอกจากนี้สตรีที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาเช่นเดียวกัน ยาผสมเพชรสังฆาต ในสูตรของบัญชียาหลักแห่งชาติจะเป็นสูตรที่ 1 ซึ่งมีเถาเพชรสังฆาตเป็นส่วนผสมหลัก รากอัคคีทวาร โกฐน้ำเต้า ส่วนในสูตรที่ 2 จะมีส่วนผสมเถาเพชรสังฆาต และจะมี กะเม็ง โกฐน้ำเต้า หัวกระชาย เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย โดยทั้งสองสูตรแนะนำให้ทานตามปริมาณที่แพทย์แผนไทยกำหนดไว้วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร ข้อควรรู้: ยาทั้ง 2 สูตรอาจจะมีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ นอกจากนี้สตรีมีครรภ์และให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา ยาเบญจโลกวิเชียร ถือเป็นยาที่ใช้ในแพทย์แผนไทยกันมาอย่างช้านาน จนสมุนไพรบางตัวเริ่มจะทยอยลดน้อยลงไป เพราะมีการนำไปใช้เยอะมาก นอกจากนี้อัตราการปลูกพืชสมุนไพรเหล่านี้ก็ลดน้อยลงมากเช่นกัน โดยยาเบญจโลกวิเชียรนั้นช่วยในเรื่องการถอนพิษไข้ ช่วยลดการอักเสบ ต้านแบคทีเรีย มีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูง รวมถึงออกฤทธิ์ช่วยลดอาการปวดได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย นอกจากนี้ในงานวิจัยยังพบว่ายาแพทย์แผนไทยตำรับนี้ยังช่วยในเรื่องของไข้มาเลเรียได้ โดยส่วนผสมของยาชนิดนี้จะนิยมนำเอารากของสมุนไพร 5 ชนิด ซึ่งประกอบด้วย รากคนฑา รากชิงซี่ รากย่านาง รากท้าวยายม่อม และรากมะเดื่อชุมพร มาผสมและต้มกับน้ำ ให้ดื่ม 3 ใน 4 ส่วนของแก้ว โดยดื่มก่อนรับประทานอาหาร 3 มื้อ จนกว่าจะหาย ข้อควรรู้: จริงๆ แล้วยาเบญจโลกวิเชียรมีความปลอดภัยและผ่านการทดสอบการแพ้ แต่ด้วยตัวยาแพทย์แผนไทยสูตรนี้จะมีสรรพคุณในการถอนไข้ ดังนั้นหากผู้ป่วยมีแนวโน้มที่จะเป็นไข้เลือดออกไม่ควรรับประทาน เพราะอาจจะทำให้แพทย์ตรวจไม่พบอาการไข้เลือดออกที่แท้จริงได้ ยาแพทย์แผนไทยกลุ่มดั่งกล่าว มีส่วนหลักจากสมุนไพรไทย ที่ช่วยรักษาโรคภัยให้กับคนไทยมาอย่างยาวนาน และเช่นเดียว สมุนไพรรักษาริดสีดวงชัยพฤกษา ก็เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ยารักษาโรคริดสีดวงที่ประยุกต์ และนำความรู้ทางแพทย์แผนไทยในการใช้สมุนไพรมาดัดแปลงให้ได้ยาตัวนี้ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนยาแผนโบราณ และมีอย.ยืนรับคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย ในราคาประหยัด
จะหาหมอก็อาย แต่ปวดติ่งเสียเหลือเกิน แม้จะอยู่นิ่งๆ ก็ยังเจ็บ หากกำลังมีอาการแบบนี้อยู่แสดงว่า “โรคริดสีดวง” กำลังแวะเข้ามาทักทายคุณให้เข้าแล้ว แต่จะเป็นมากหรือเป็นน้อยขนาดไหน ต้องขึ้นอยู่กับระดับและอาการของโรค สิ่งสำคัญที่ต้องรู้ก่อนเลยก็คือ การดูแลตัวเองระหว่างที่กำลังเป็นโรคริดสีดวง เพราะหากรักษาและดูแลตัวดีๆ แต่เนิ่นๆ ก็มีแนวโน้มที่จะเจ็บปวดน้อยลง แถมยังหายเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย ดังนั้นให้รีบสังเกตตัวเองก่อนเลยว่า กำลังเจอกับปัญหาโรคริดสีดวงรุมเร้าอยู่บ้างหรือไม่ โรคริดสีดวงภายในหรือภายนอก ทั้งสองแบบจะมีความแตกต่างกันดังนี้คือ โรคริดสีดวงภายนอก จะมีอาการปวดปะทุอยู่บริเวณใต้ผิวหนังรอบทวารหนัก ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการคันหรือระคายเคืองบริเวณทวารหนัก อาจจะมีอาการปวดบวมร่วมด้วย จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับระดับที่เป็น นอกจากนี้ในคนไข้บางรายอาจจะมีเลือดออกร่วมด้วย โรคริดสีดวงทวารภายใน โรคริดสีดวงชนิดนี้จะเกิดขึ้นอยู่ภายในทวารหนักตามชื่อเลย ซึ่งโดยปกติเราจะมองไม่เห็น แต่การเกิดริดสีดวงแบบภายในนั้น จะทำให้บริเวณที่เป็นเกิดการรัดหรือระคายเคือง โดยเฉพาะเมื่อเบ่งอุจจาระ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการเลือดออกระหว่างที่ลำไส้ทำงาน บางคนจะมีเลือดออกสีแดงสดในระหว่างถ่ายท้อง นอกจากนี้ในบางกรณีอาจจะเกิดติ่งริดสีดวงทวารโผล่ยื่นออกมาด้วย หากใครเป็นแบบนี้อาจจะรู้สึกปวดและระคายเคืองมากยิ่งขึ้น สาเหตุและตัวการที่ทำให้เกิดโรคริดสีดวง หลักๆ แล้วการเป็นริดสีดวงเกิดจากอาการบวมของเส้นเลือดบริเวณทวารหนัก ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากความดันในหลอดเลือดเล็กที่เพิ่มขึ้น พอสะสมไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้เส้นเลือดเหล่านี้บวมและอักเสบ ซึ่งถือเป็นต้นเหตุตัวการที่ก่อให้เกิดเส้นเลือดขอด บริเวณทวารหนัก โดยมักจะมีสาเหตุดังนี้คือ ทานอาหารที่มีกากใยน้อย หลายคนท้องผูกเป็นเวลานานทำให้อุจจาระลำบาก เวลาถ่ายจึงเกิดการเคลื่อนไหวของลำไส้และความดันภายในหลอดเลือดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กลายเป็นโรคริดสีดวงในท้ายที่สุด การนั่งบนโถส้วมเป็นเวลานาน การนั่งนานจะไปเพิ่มความดันภายในหลอดเลือด ซึ่งทำให้เป็นโรคริดสีดวงทวารได้เช่นกัน การตั้งครรภ์ เวลาตั้งครรภ์มดลูกจะมีการขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งจะเพิ่มความดันที่เส้นเลือดบริเวณทวารหนัก นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนกับการตั้งครรภ์อาจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณทวารหนักอ่อนแอลงด้วยเช่นกัน อายุที่มากขึ้น เมื่อคนเราแก่ตัวลงอาจจะมีความเสี่ยงของโรคริดสีดวงได้มากขึ้นเช่นเดียวกัน เนื่องจากเนื้อเยื่อที่รองรับหลอดเลือดดำในทวารหนักมักจะเกิดการอ่อนหรือยืดตัวได้มากกว่าปกติ วิธีการดูแลตัวเองจากโรคริดสีดวง จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยอันดับท็อประดับโลกอย่าง Harvard ได้แนะนำเคล็ดลับในการรักษาและดูแลตนเองอย่างเบื้องต้นเพื่อบรรเทาอาการปวดได้ง่ายๆ จากที่บ้านดังนี้ ทานไฟเบอร์เพิ่มขึ้น การที่อุจจาระลำบากหรือติดขัด คือ ตัวการสำคัญของการเกิดโรคริดสีดวง ดังนั้นแนะนำให้เพิ่มไฟเบอร์ในอาหาร เช่น จากผักผลไม้หรืออาหารที่มีกากใยสูง โดยเฉลี่ยแล้วพยายามทานให้ได้ 20 ถึง 30 กรัมต่อวัน หากใครไม่ชอบทานผัก อาจจะลองทานอาหารเสริมที่มีข้าวสาลีเด็กซ์ตรินหรือเมธิลเซลลูโลสดูก็ได้ หาตัวช่วยการขับถ่ายและระบายท้อง ลองทานโยเกิร์ต แอปเปิ้ลไซเดอร์ น้ำมะนาว หรือมะขาม ก็อาจจะช่วยให้อุจจาระได้ดีขึ้นเช่นเดียวกัน อย่าอั้นอุจจาระ หากรู้สึกอยากขับถ่าย แนะนำให้รีบไปเข้าห้องน้ำทันที อย่ารอหรืออย่าอั้นไว้นาน เพราะจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของลำไส้ ซึ่งสุดท้ายอาจจะทำให้เกิดอาการท้องผูก และทำให้โรคริดสีดวงแย่ลงกว่าเดิมได้อีกด้วย
ไปหาหมอสักที ต้องลางานไม่ใช่เรื่องง่าย ในบทความนี้ ชัยพฤกษา ขอนำเสนอข้อดีของยาสมุนไพร ซื้อง่าย ทานง่าย ราคากันเอง ไม่ต้องเสียเวลาไปทำเรื่องลาเพื่อหาหมอ ดีต่อสุขภาพ และถูกหลักอนามัยมีอย.รองรับ ยาสมุนไพรรักษาริดสีดวง ทางออกสำหรับคนอยากหายเป็นริดสีดวง ยาสมุนไพรรักษาริดสีดวง ดีอย่างไร ฺ1. ไม่มีสารเคมีตกค้างฺ สมุนไพรไทยส่วนใหญ่ ปลูกด้วยวิธ๊การทางธรรมชาติ ไม่นิยมฉีดสารเคมี หรือบางต้นอาจจะโตได้ด้วยตนเอง เพราะฉะนั้นปัญหาเรื่องสารตกค้างไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด แต่หนักตับหรือหนักไตแน่นอน ฺ2. มีผลงานวิจัยรองรับ เพชรสังฆาต และพริกไทยดำ คือสองสมุนไพรที่มีผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์รองรับว่าสามารถรักษาโรคริดสีดวงทวารให้หายขาดได้ ฺ3. ไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด การทานยาสมุนไพรรักษาริดสีดวงนั้น นอกจากจะทานง่าย หาซื้อง่ายแล้ว ยังไม่ต้องสละเวลาไปโรงพยาบาล ยิ่งหากใครเคยไปโรงพยาบาลรัฐแล้วคงรู้ดีว่าระบบการจัดการต่าง ๆ ตั้งแต่เข้าคิว รอตรวจ นัดผ่าตัดนั้นใช้เวลานานแค่ไหน แต่ยาสมุนไพรรักษาริดสีดวง ซื้อ ทาน ใช้เวลาสักหนึ่งสัปดาห์เห็นผลทันที ฺ4. ได้รับการยอมรับว่าเป็นต้นตำรับยาโรค สมุนไพรไทยหลาย ๆ ตัวนั้น ได้รับการยอมรับจากกรมอนามัยโลกในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ รวมถึงตัวยาสมัยใหม่ที่สั่งจ่ายผ่านแพทย์นั้นยังสกัดจากสมุนไพรพื้นฐานเหล่านี้ เพราะฉะนั้นจึงสามารถมั่นใจในผลลัพธ์ได้แน่นอน ยาสมุนไพรรักษาริดสีดวงชัยพฤกษา ดีอย่างไร 1. ราคาไม่แพง สั่งซื้อได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเข้าคิว ไม่ต้องสั่งจอง ยาสมุนไพรรักษาริดสีดวงแบรนด์ชัยพฤกษายินดีจัดส่งให้คุณตลอดเวลา ใช้เวลาจัดส่งเพียง 1 วันหากเป็นในเขตกรุงเทพ ราคาไม่แพง ส่งไว ได้สินค้าแน่นอน 2. มีอย.รองรับ สำหรับคนที่กังวลเรื่องการกินยามั่วซั่ว หรือยาที่ไม่ได้คุณภาพและเป็นอันตราย ยาสมุนไพรรักษาริดสีดวงชัยพฤกษานั้น มีอย.รับรอง มีการจดทะเบียนยาแผนโบราณทะเบียนเลขที่ G179/61 บริสุทธิ์ใจ สามารถตรวจสอบก่อนได้ 3. สรรพคุณล้นเหลือ ยาสมุนไพรรักษาริดสีดวงชัยพฤกษา เป็นการผสมผสานสมุนไพรพื้นฐานขึ้นชื่อเรื่องรักษาริดสีดวงมากถึง 11 ชนิด และแน่นอนว่าตัวเด่น ๆ อย่างเพชรสังฆาต อัคคีทวาร และพริกไทย เราไม่มีพลาดแน่นอน ใครที่พอจะมีความรู้ในเรื่องของสรรพคุณสมุนไพรไทยคงจะรู้ดี ว่าเพียงแค่สามตัวสมุนไพรดังกล่าวก็สกัดกั้นโรคริดสีดวงได้อย่างอยู่หมัด แต่เรานำมาให้ถึง 11 ตัวด้วยกัน สรรพคุณเด่นของยาสมุนไพรรักษาริดสีดวงชัยพฤกษา 1. รักษาโรคริดสีดวงทวารให้หายขาด 2. รักษาติดเนื้องที่กำลังอักเสบให้ฝ่อ และแห้งลงจนหายไปเองในที่สุด 3. ช่วยหยุดยั้งอาการเลือดออกขนาดขับถ่าย ช่วยให้แผลทั้งหายในและภายนอกหายเป็นปลิดทิ้ง 4. ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ถ่ายคล่อง ถ่ายเป็นเวลา 5. ช่วยเรื่องการขับเลือดลม และจัดการระบบหมุนเวียนเลือดภายในให้ดีขึ้น ไม่มีปัญหาท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือแน่นท้องให้รู้สึกกวนใจ ส่วนผสมของยาสมุนไพรรักษาริดสีดวงชัยพฤกษา 1.เพชรสังฆาต 2.อัคคีทวาร 3.พริกไทย 4.ข่าแดง 5.ขลู่ 6.ดีเกลือฝรั่ง 7.ยาดำ 8.มะขามแขก 9.โกฐน้ำเต้า 10.กระพังโหมตัวเมีย 11.สะค้าน ทั้ง 11 ตัวนี้ขึ้นชื่อเรื่องการรักษาริดสีดวงทวารให้หายขนาด รวมถึงบรรเทา และป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ ยาสมุนไพรรักษาริดสีดวงชัยพฤกษาทานนานแค่ไหนถึงจะหาย หากเริ่มเป็นริดสีดวงในระยะเริ่มต้น หรือปานกลาง มีโอกาสหายได้ภายใน 1 สัปดาห์ แต่หากอาการไปอยู่ในระยะที่ 3-4 หรือระยะท้าย ๆ ที่ตัวติ้งริดสีดวงเกิดอาการบวมแดง อักเสบจากการที่ปล่อยปละละเลยไว้เป็นระยะเวลานาน ก็อาจจะต้องใช้เวลาทานนานขึ้นไปอีก ทั้งนี้ แม้ว่าจะใช้เวลาในการรักษาให้หายขาดนานขึ้น แต่ประสิทธิภาพในส่วนของการทุเลาอาการนั้นเป็นผลตั้งแต่ช่วง 1 สัปดาห์แรกแน่นอน หากใครอยากเลือกวิธีการผ่าตัดในระยะท้าย ๆ การทานยาสมุนไพรรักษาริดสีดวงชัยพฤกษาระหว่างรอพบแพทย์ ก็เป็นตัวช่วยที่ดีในการทุเลาอาการ และบรรเทาความเจ็บปวด รวมไปถึงยังช่วยยับยั้งไม่เป็นซ้ำได้อีกด้วย หากสนใจผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรรักษาริดสีดวงทวารชัยพฤกษา ยาสมุนไพรรักษาริดสีดวงต้นหรับ สามารถสั่งจอง และดูรายละเอียดสินค้า พร้อมรีวิวการันตีผลลัพธ์ได้ผ่านช่องทางเว็บไซต์ Chaipruksa บริการจัดส่งตั้งแต่วันจันทร์-อาทิตย์ เป็นริดสีดวงทวารอย่าปล่อยไว้นาน ยาสมุนไพรรักษาริดสีดวงทานได้แบบนี้ มีติดบ้านไว้ ไม่เสียหายแน่นอน
เมื่อพูดถึงโรคริดสีดวงทวาร แค่จะเอ่ยปากถามใคร ก็กระดากใจพอสมควรอยู่แล้ว เป็นเรื่องลับที่เวลาไปพบหมอหรือบอกใครเป็นลำบากใจทุกที ดังนั้นจึงมีหลายคนหันไปใช้สมุนไพรพื้นบ้านรักษาริดสีดวงสำหรับทางเลือกในการเยียวยาอาการปวดติ่ง ในทางแพทย์แผนไทยนั้นโรคริดสีดวงทวารเป็นโรคที่รักษาให้หายได้ หากเราเอาใจใส่ เลือกใช้ยาสมุนไพรที่ถูกกับอาการและระดับของโรค รวมถึงอาจจะต้องเริ่มคิดใหม่ทำใหม่สำหรับการปรับพฤติกรรมในการใช้ชีวิตให้ดีขึ้นกว่าเดิมเพื่อสร้างความสมดุล เพราะร่างกายไม่ใช่เครื่องจักรที่จะโหมงานหนักได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ดูแล สมุนไพรพื้นบ้านรักษาริดสีดวงได้ผลดีขนาดไหนเป็นเรื่องที่หลายคนสงสัยมาตลอด จากงานวิจัยแพทย์แผนไทยพบว่า ตำรับยาสมุนไพรพื้นบ้านรักษาริดสีดวงนั้นแตกต่างกันไป โดยขึ้นอยู่กับพืชสมุนไพรและความเชื่อในท้องถิ่นนั้น ในปัจจุบันได้มีการพัฒนายาสมุนไพรให้สามารถใช้ในหลายรูปแบบเช่น แบบเหน็บ แบบอัดเม็ด แบบแคปซูล สำหรับคนที่เป็นโรคริดสีดวงอาจจะต้องศึกษาส่วนผสม ว่าสมุนไพรแก้ริดสีดวงชนิดไหนเหมาะกับอาการของโรคที่เป็นอยู่ และที่สำคัญต้องไม่ลืมที่จะทำความเข้าใจกับฉลากข้างกล่องยาก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้ โดยคราวนี้จะนำข้อมูลงานวิจัยของวารสารแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกมาแนะนำ เพื่อให้ทุกคนสามารถทำความเข้าใจเบื้องต้นกับสมุนไพรพื้นบ้านรักษาริดสีดวงและสูตรแพทย์แผนไทยพื้นบ้านที่ช่วยเยียวยารักษาอาการริดสีดวงได้โดยตรง ความรู้ตำรับยาสมุนไพรพื้นบ้านรักษาริดสีดวงที่ใช้ได้ผล ริดสีดวงจำแนกตามแพทย์แผนไทย แบ่งริดสีดวงเป็น 2 ประเภทคือ ริดสีดวงภายในและภายนอก หน้าที่ของสมุนไพรพื้นบ้านรักษาริดสีดวง ในการแพทย์แผนไทยจะเน้นในการปรับปรุงระบบไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น เพื่อช่วยให้ติ่งเนื้อค่อยๆ ยุบลงเพื่อบรรเทาปวด และลดการอักเสบลงได้ สูตรเพชรสังฆาต ในตำรับนี้ เพชรสังฆาตคือสมุนไพรพื้นบ้านรักษาริดสีดวงตัวเด่น เห็นผลดีที่สุด ทำให้เพชรสังฆาตเป็นสมุนไพรหลักในการรักษา โดยทางแพทย์พื้นบ้านจะนำเพชรสังฆาตไปตากจนแห้ง แล้วจึงนำไปบดละเอียดเพื่อทำการผสมกับน้ำผึ้งอีกที ส่วนใหญ่จะปั้นเป็นลูกกลอน(ลักษณะกลม)ทำให้ทานได้ง่ายขึ้น สูตรกล้วยน้ำว้า ในแง่ของความสะดวกต้องบอกว่ากล้วยน้ำว้าเป็นทางเลือกที่ดีมากๆ เพราะหาได้ง่ายและปลูกขึ้นง่ายเช่นกัน ซึ่งวิธีแบบพื้นฐานจะเป็นการนำกล้วยน้ำว้ามาปรุงกับน้ำผึ้งให้เข้ากันแล้วรับประทาน โดยทางแพทย์พื้นบ้านแนะนำให้ทานติดต่อกันทุกวันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ จะช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น สะดวกขึ้น และช่วยบรรเทาอาการริดสีดวงได้ สูตรว่านหอมแดง หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ว่านริดสีดวง ในสูตรนี้เป็นการใช้สมุนไพรตรง ๆ เพียงต้มกับน้ำเปล่าแล้วดื่มได้เลย เช้าเย็นหลังอาหาร โดยแนะนำให้ดื่มติดต่อกันเป็นเวลา 3 สัปดาห์ สูตรแก่นลั่นทม ชื่อนี้หลายคนอาจจะไม่คุ้นหูเท่าไหร่ แก่นลั่นทมเป็นสมุนไพรพื้นบ้านรักษาริดสีดวงอีกตัวหนึ่งที่อยู่ในตำรับยาพื้นบ้าน โดยมีลักษณะเป็นดอกสีขาว ซึ่งในสูตรนี้จะใช้แก่นลั่นทม 3 ส่วน ผสมกับสมุนไพรเพชรสังฆาต 1 ส่วน ดอกบานไม่รู้โรยอีก 3 ส่วน โดยจะต้มรวมกันและนำมาดื่มก่อนหรือหลังอาหาร 3 มื้อ สรรพคุณของตำรับยาสมุนไพรพื้นบ้านรักษาริดสีวง จะเน้นในเรื่องของการลดการอักเสบของหลอดเลือดดำ ในส่วนที่ทำให้เกิดติ่งงอกขึ้นมาจากอาการริดสีดวง นอกจากนี้ยังช่วยสมานแผลที่เกิดขึ้นในลำไส้ ลดอาการท้องอืด ไม่สบายท้อง ซึ่งตำรับยามักจะเน้นสมุนไพรที่หาได้ง่ายตามท้องที่ ยาล้าง/ยาปิดปากหม้อ เป็นตำรับยาสมุนไพรแผนโบราณซึ่งจะเน้นในเรื่องการขับสารพิษและสิ่งตกค้างจากการรักษาออกมาจากร่างกายยาปิดปากหม้อ ใช้เวลารักษาขนาดไหนถึงจะเห็นผล? ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าส่วนผสมทั้งหมดเป็นพืชและสมุนไพรที่ออกฤทธิ์รักษาและสร้างสมดุลแบบองค์รวม ดังนั้นระยะเวลาการรักษาจึงขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายประการ แต่ทั้งนี้การใช้สมุนไพรพื้นบ้านรักษาริดสีดวงในเชิงแพทย์แผนไทยในระยะเริ่มต้น จะเป็นการรักษาแบบที่เรียกว่า “การลองยา” โดยใช้สูตรยาตำรับไทยรับประทานราวๆ 3-5 วัน หรือเทียบเท่ากับ 1 หม้อ ซึ่งหากผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น ก็จะทำการรักษาแบบต่อเนื่องจนหายดี หรือหากผลลัพธ์ยังไม่ดีก็อาจจะมีการปรับสูตรยาตามสมควรได้เช่นกัน แต่หากท่านใดไม่สะดวกทานสมุนไพรดิบโดยตรง ชัยพฤกษามีผลิตภัณฑ์ ยาสมุนไพรพื้นบ้านรักษาริดสีดวงอัดเม็ด ตัวยามีส่วนผสมจากสมุนไพรไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องการรักษาริดสีดวงหลากหลายชนิด ทานง่าย ราคาเป็นมิตร มีอย.ยืนยันคุณภาพ
โรคริดสีดวงสามารถสร้างความเจ็บปวดทั้งทางร่างกายและจิตใจได้มากกว่าที่ใครหลายคนคิด เพราะนอกจากอาการเจ็บแสบและปวดบริเวณทวารหนักแล้ว สิ่งที่ต้องเจออีกอย่างคือ การสูญเสียความมั่นใจ เพราะการขยับตัวจะนั่งจะยืน แต่ละทีก็ส่งผลต่อติ่งเนื้อริดสีดวงนี้ได้เช่นกัน แถมบางทีต้องนั่งห้องน้ำนานๆ ทำให้ไปไหนมาไหนลำบาก ยิ่งวันไหนเจอรถติดหนักๆ การนั่งรถหรือขับรถนานๆ ก็ยิ่งทำให้แผลริดสีดวงเกิดอาการระบม ฟังดูเรื่องเหล่านี้เหมือนเป็นปัญหาเบื้องต้นที่คนเป็นริดสีดวงคุ้นเคยกันดี แต่ถ้าหากมองให้ลึกลงไปเชื่อว่าคนเป็นริดสีดวงหลายคน ก็ยังสงสัยว่าการเป็นริดสีดวงนั้นมีอันตรายขนาดไหน จะลุกลามจนเป็นโรคร้ายหรือไม่ ดังนั้นลองมาดูคำตอบคลายข้อสงสัยเหล่านั้นกันเลย จากข้อมูลซึ่งเป็นผลจากการวิจัยเชิงสถิติของ American Society Colon & Rectal Surgeons ของสหรัฐอเมริกาได้นำเสนอข้อมูลของโรคริดสีดวงไว้ดังนี้ ⚈ โรคริดสีดวงทวารเป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดและเกิดขึ้นได้กับทุกคน ⚈ หากเป็นริดสีดวงที่มีติ่งภายนอก และหากมีลิ่มเลือดขนาดใหญ่ ก็จะทำให้เกิดอาการปวดอย่างมาก สามารถสร้างความเจ็บปวดได้รุนแรงอย่างกะทันหันและแย่ลงในช่วง 48 ชั่วโมงแรก ⚈ ผู้ป่วยริดสีดวงส่วนใหญ่จะทนทุกข์ทรมานพอควรกว่าจะตัดสินใจเข้ารับการรักษาโรคริดสีดวงอย่างจริงจัง ⚈ ปัจจุบันด้วยวิทยาการทางการแพทย์ทำให้สามารถรักษาโรคริดสีดวงได้ด้วยวิธีที่เจ็บปวดน้อยกว่าเดิม โรคริดสีดวงเป็นอันตรายถึงชีวิตได้หรือไม่? ปกติแล้วโรคริดสีดวงมักจะหายได้อย่างรวดเร็ว และหลายคนมักหายได้เอง โดยไม่ต้องไปหาหมอด้วยซ้ำ แต่ในบางเคสสำหรับผู้ป่วยริดสีดวงที่มีปัญหาและความซับซ้อนมากกว่าปกติ ก็อาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายได้แบบคาดไม่ถึงเลยทีเดียว โดยในกรณีที่ผู้ป่วยมีริดสีดวงทวารภายใน สามารถเกิดอาการแย่ลงได้ถ้าหากคนไข้พยายามจะดันติ่งเนื้อเข้าไปในทวารหนัก ซึ่งอาการที่ว่านี้อาจจะทำให้เลือดออกเป็นจำนวนมาก บางคนอาจจะพบว่าปลายลำไส้ห้อยออกมาอยู่ที่บริเวณทวารหนัก จากการวิจัยพบว่าผู้หญิงที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ชายถึง 6 เท่า ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโดยตรง โดยภาวะต่างๆ และอาการแทรกซ้อนและโรคข้างเคียงสามารถจำแนกได้ดังนี้ โรคแทรกซ้อนจากการเป็นริดสีดวง ริดสีดวงทวารที่บีบรัด เนื่องจากเลือดที่ไปเลี้ยงริดสีดวงถูกตัดออก อาจทำให้เกิดการบีบรัดบริเวณทวาร ซึ่งส่งผลให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมาก โรคโลหิตจาง จากการที่สูญเสียเลือดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่เป็นริดสีดวงเรื้อรังอาจนำไปสู่ภาวะโลหิตจาง โดยสิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อมีเซลล์เม็ดเลือดแดงไม่เพียงพอในการไหลเวียนของร่างกาย ลิ่มเลือด เมื่อเลือดจับตัวเป็นก้อนในทวารหนัก จะทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการเจ็บปวด รวมถึงบวมและอักเสบได้เช่นกัน ดังนั้นผู้ป่วยควรทำความเข้าใจถึงปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นริดสีดวง เพื่อจะได้ลดโอกาสในการเกิดโรคริดสีดวงซ้ำสอง โดยตามหลักทางการแพทย์พบว่ามีปัจจัยหลายอย่างทำให้เกิดเป็นริดสีดวง ได้แก่ : ⚈ อายุที่เพิ่มมากขึ้นและความแก่ชรา ⚈ ท้องผูกหรือท้องร่วงเรื้อรังเป็นเวลานาน ⚈ การมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นมากเกินไป ⚈ การตั้งครรภ์ ⚈ มีคนในครอบครัวเป็นริดสีดวง หรือเป็นกรรมพันธุ์ ⚈ ปัญหาด้านการเคลื่อนไหวของลำไส้ ⚈ การทำงานของลำไส้ผิดปกติเนื่องจากการใช้ยาระบายหรือยาระบายมากเกินไป ⚈ การใช้เวลานั่งอุจจาระนานในห้องน้ำ โรคริดสีดวงดูเหมือนจะร้ายแรง เพราะหลายคนมักจะเจอกับอาการเลือดไหล แต่โดยทั่วไปเลือดจะหยุดไหลได้เร็วมาก ในบางกรณีจะมีเลือดออกมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเพราะลิ่มเลือดอุดตัน แต่ถึงอย่างนั้นอาการก็จะดีขึ้นในไม่ช้า ถึงแม้ภาพรวมของโรคริดสีดวงนั้นสร้างความเจ็บปวดและทรมานให้แก่ผู้ป่วยอย่างมากก็จริง แต่ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต และที่สำคัญเป็นโรคที่รักษาได้ นอกจากนี้หากผู้ป่วยรู้สึกแย่ลง หรือมีอาการที่เลือดออกทางทวารหนักไม่หยุด แนะนำ ยาสมุนไพรชัยพฤกษา ยาสมุนไพรอัดเม็ดที่จะช่วยให้คุณหายจากโรคริดสีดวง พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นอีก ด้วยทรัพยาจากสมุนไพรกว่า 11 ชนิด ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาไปหาหมอ มีอย.รับรองทานแล้วดีขึ้นภายใน 7 วัน
รักษาริดสีดวงด้วยตัวเองได้หรือไม่? และสมุนไพรแก้ริดสีดวงได้ผลไหม? เริ่มต้นอย่างง่ายๆ กับสมุนไพรแก้ริดสีดวงของไทยซึ่งมีมากมายหลายชนิด อาทิเช่น เพชรสังฆาต กล้วยน้ำว้า อัคคีทวาร ว่านหางจระเข้ เป็นต้น ถ้าหากเป็นริดสีดวงในระยะแรกและอาการไม่รุนแรงมาก หลายคนก็สามารถดูแลและเยียวยาตัวเองที่บ้านได้ โดยข้อมูลทางการแพทย์จาก Mayo Clinic ได้แนะนำเอาไว้หลายวิธี เช่น - ผู้ป่วยควรรับประทานอาหารที่มีกากใยและไฟเบอร์สูงขึ้น เพราะจะช่วยทำให้อุจจาระนิ่มลงและขับถ่ายง่ายขึ้น - แช่ในอ่างน้ำอุ่น โดยแช่ทวารหนักด้วยน้ำอุ่นเป็นเวลา 10 ถึง 15 นาทีวันละ 2- 3 ครั้ง ต้องทานสมุนไพรแก้ริดสีดวงนานขนาดไหนถึงจะเห็นผล? ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะและอาการของโรคริดสีดวงที่เป็น บางคนเพียงเริ่มต้น 3-5 วันก็สามารถมีอาการกระเตื้องขึ้นได้ แต่ในบางคนอาจจะต้องทานยาต่อไปเรื่อยๆ อย่างน้อย 3 สัปดาห์ถึงจะเห็นผลก็มี ดังนั้นแนะนำให้ปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับการประเมินอาการก่อนที่จะลองซื้อสมุนไพรแก้ริดสีดวงมาทานเอง ทานสมุนไพรแก้ริดสีดวงตัวไหนดีถึงจะเห็นผล จริงๆ ต้องบอกว่าสมุนไพรแก้ริดสีดวงนั้นมีหลายสูตร มีหลายขนาน สมุนไพรแต่ละชนิดที่นำมาใช้ปรุงและใช้ทำก็มักจะต่างกันออกไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้วตัวที่นิยมใช้และมีผลงานวิจัยที่น่าสนใจก็คือ สมุนไพรอย่างเพชรสังฆาต โดยข้อมูลจากโรงพยาบาลสุรินทร์พบว่า เพชรสังฆาตช่วยบรรเทาอาการท้องผูก และใช้ได้ดีพอๆ กับยาแผนปัจจุบัน คือ ช่วยลดอาการเลือดออก ลดอาการปวด และช่วยลดอาการหลอดเลือดขอดที่ยื่นออกมา สมุนไพรรักษาริดสีดวงปลอดภัยไหม ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยมหิดลแนะนำไว้อย่างน่าสนใจว่า การใช้สมุนไพรชนิดไหนก็ตาม ซึ่งรวมไปถึงสมุนไพรแก้ริดสีดวงด้วยนั้นผู้ใช้ควรระมัดระวังและใส่ใจทำความเข้าใจยาที่นำมาใช้ก่อนเสมอ โดยเน้นหลัก 5 ถูก คือ ถูกต้น (ถูกชนิด/ถูกชื่อ) ถูกส่วน (เลือกใช้ให้ถูกส่วนเช่น ราก ใบ) ถูกขนาด ถูกวิธี และถูกโรค ดังนั้นหากส่วนไหนไม่มั่นใจแนะนำให้ปรึกษาแพทย์แผนไทยเสมอ โรคริดสีดวงทำให้เป็นมะเร็งได้ไหม? จากงานวิจัยหลายๆ แห่งยังไม่พบข้อมูลชัดเจนในเรื่องนี้ แต่จากแหล่งข้อมูลสำคัญอย่าง Cancer Organization ชี้แจงเอาไว้อย่างน่าสนใจว่าโรคริดสีดวงทวารเป็นสาเหตุของการมีเลือดออกทางทวารหนัก ซึ่งอาการในส่วนนี้คล้ายคลึงกับอาการเริ่มต้นของการเป็นมะเร็งทวารหนัก โดยระยะแรกจะเริ่มมีอาการเจ็บปวด เส้นเลือดบวมและอาจจะมีเลือดออก จนหลายคนอาจจะตกใจได้ หลายครั้งผู้ป่วยคิดว่าเป็นแค่ริดสีดวงไม่ใช่มะเร็ง จึงซื้อสมุนไพรแก้ริดสีดวงมาทานเอง ซึ่งทำให้รักษาไม่หายเสียดี กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ลุกลามไปไกลจนเป็นอันตราย ดังนั้นการไปพบแพทย์จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ทานผักผลไม้และอาหารที่มีประโยชน์ ยังจะเสี่ยงเป็นริดสีดวงอยู่ไหม? ข้อมูลจาก National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases (NIDDK) พบว่าทุกคนมีโอกาสเป็นโรคริดสีดวงกันได้ทั้งนั้น แต่คนที่มีอาการท้องผูกเรื้อรัง สตรีที่กำลังตั้งครรภ์ จะมีโอกาสเป็นริดสีดวงมากกว่าคนทั่วไป นอกจากนี้อยากให้ลองสังเกตตัวเองว่า ช่วงไหนที่เริ่มเครียดจัด มีปัญหาด้านการขับถ่าย และขับถ่ายไม่เป็นเวลา ถึงแม้จะทานอาหารดีขนาดไหน ก็ยังมีสิทธิ์เกิดอาการลำไส้แปรปรวน และส่งผลให้เกิดริดสีดวงได้เช่นกัน ซึ่งจริงๆ หากอาการไม่รุนแรงมากนัก ก็สามารถดูแลตัวเองเบื้องต้นได้จากการ ทานอาหารที่ดีมีกากใยไฟเบอร์สูง และดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เพียงพออยู่เสมอ รวมถึงอาจจะลองใช้สมุนไพรแก้ริดสีดวงของไทยก็อาจจะช่วยได้บ้าง เป็นริดสีดวงต้องผ่าตัดไหม? ส่วนใหญ่แล้วขึ้นอยู่กับอาการและลักษณะของริดสีดวง โดยถ้าหากใครกำลังเจอกับปัญหาภาวะแทรกซ้อนคือ การเกิดลิ่มเลือดภายในหลอดเลือดหรือมีติ่งเนื้อที่ยื่นออกมาแล้วมีอาการเจ็บปวด แม้ว่าลิ่มเลือดเหล่านี้มักจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็อาจทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรงและส่งผลให้การดำเนินชีวิตประจำวันติดขัด ก็สามารถเลือกวิธีการรักษาได้หลายแบบ โดยการผ่าตัดก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เช่น การผ่าตัดแบบใช้ยาชา นอกจากนี้สามารถใช้การบำบัดผ่านการฉายแสงได้เช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด สมุนไพรแก้ริดสีดวง ชัยพฤกษา ยาสมุนไพรอัดเม็ด หนึ่งในตัวเลือกสำหรับการรักษาริดสีดวงทีจะช่วยให้คุณไม่จำเป็นต้องไปผ่าตัด มีสรรพคุณจากสมุนไพรที่สามารถรักษาริดสีดวงได้ถึง 11 ชนิด ช่วยคุณได้ตั้งแต่การรักษา บรรเทา ทุเลา และยับยั้ง หากมีสัญญาณว่าริดสีดวงอาจจะเริ่มถามหา โปรดเปิดใจให้ยาสมุนไพรของเราได้ช่วยคุณ ยาสมุนไพรชัยพฤกษา
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีภูมิอากาศที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่หลากหลาย โดยเฉพาะพืชสมุนไพรไทยนั้น มีอยู่แทบทุกท้องที่ทุกภูมิภาคในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ หันไปทางไหนแม้แต่รั้วบ้าน เราก็มักจะเจอผักหรือพืชสมุนไพรไทยที่คุณตาคุณยายถ่ายทอดให้นำมาใช้กินและประยุกต์ใช้ในการรักษาในแบบแผนของตำรับไทยโบราณกันอย่างมากมาย หลายบ้านแทบไม่ต้องไปซื้อหากันเลยทีเดียว เพราะขึ้นเองตามธรรมชาติเต็มไปหมด ถึงแม้ปัจจุบันการปลูกพืชผักสมุนไพรจะมีน้อยลง แต่ก็มีการแปลรูปสมุนไพรไทยมาเป็นยาตามตำรับแพทย์แผนไทยที่หาซื้อได้ง่าย แถมยังรักษาโรคได้หลากหลายอีกด้วย แต่ด้วยความที่พวกเราสามารถหาซื้อหรือปลูกพืชสมุนไพรไทยได้อย่างง่ายและสะดวกนี่เอง ทำให้บางทีการหยิบพืชสมุนไพรไทยเหล่านั้นมาใช้ในการรักษานั้นเรามักลืมคำนึงถึงความปลอดภัยไป ด้วยความที่เรามักจะคิดว่าพืชไม่ควรจะมีอันตรายต่อร่างกายของเราแต่อย่างใด หากใครกำลังคิดแบบนั้นอยู่ ต้องบอกเลยว่ารีบเปลี่ยนความคิดด่วน เพราะต้องไม่ลืมว่าในประโยชน์บางทีก็มีโทษแฝงได้เช่นกันหากเราเลือกใช้ไม่ถูกต้อง ดังนั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างที่พวกเราทุกคนควรศึกษาและเข้าใจก่อนเริ่มใช้สมุนไพรไทย เข้าใจวิธีการใช้สมุนไพรไทยอย่างปลอดภัย ด้วยความหลากหลายของพืชสมุนไพรไทย หลายครั้งเราฟังมามาก จนไม่มั่นใจกับวัตถุประสงค์ที่แท้จริงในการใช้งาน ดังนั้นอันดับแรกเราต้องเข้าใจวิธีการใช้สมุนไพรก่อนเลย โดยเบื้องต้นแนะนำให้ค้นหาข้อมูล ศึกษาด้วยตนเองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ ไม่ว่าจะเป็นทางอินเตอร์เน็ตหรือจะโทรไปสอบถามก็ได้เช่นกัน อาทิเช่น กระทรวงสาธารณะสุข องค์กรอาหารและยา สำนักงานข้อมูลสมุนไพร มหาวิทยาลัยมหิดล รวมถึงหน่วยงานภาครัฐอย่างโรงพยาบาลและอนามัยก็ช่วยให้คำตอบได้ ดังนั้นหากมีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจเกี่ยวกับการใช้สมุนไพรไทยในการรักษาโรคแนะนำให้ทำแบบนี้เป็นอันดับแรก เพราะสมุนไพรบางตัวนั้น ไม่สามารถทานสด หรือทานดิบได้ ต้องนำไปผ่านกระบวนการบางอย่าง การขาดความเข้าใจตรงนี้ จากผลดีจะกลายเป็นเสียได้ ยาสมุนไพรที่เลือกใช้ได้รับอนุมัติทะเบียนตำรับยาหรือไม่ ข้อนี้สำคัญมาก หลายคนอาจจะคิดว่าการจะหาซื้อสมุนไพรไทยสำเร็จรูปนั้นหาง่ายยิ่งกว่าหาข้อมูลเสียอีก แต่คุณรู้หรือไม่ว่าสมุนไพรที่ขายกันทั่วไปหลายเจ้านั้นไม่มีอย. และไม่มีทะเบียนตำรับยาอีกด้วย ดังนั้นการทานแบบสุ่มสี่สุ่มห้าจึงมีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก เบื้องต้นได้แบ่งยาสมุนไพรเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม ก. ยาแผนไทยหรือแผนโบราณ ซึ่งเป็นยาที่ใช้องค์ความรู้แพทย์แผนไทยและมีการระบุข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยไว้อย่างชัดเจน เช่น ผลข้างเคียง รวมไปถึงขนาดรับประทานและข้อบ่งชี้ด้านต่างๆ ของตัวยา กลุ่ม ข. ยาที่พัฒนาจากสมุนไพร ส่วนใหญ่จะเป็นยาสมุนไพรแผนปัจจุบัน โดยมีข้อมูลความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นข้อกำหนดต่างๆ สรรพคุณ มาตรฐานวัตถุดิบ สูตรยา เลือกใช้ให้ถูกส่วน ในกรณีที่ปลูกสมุนไพรไว้ใช้เองหรือมีสมุนไพรขึ้นอยู่ที่บ้านอยู่แล้ว และอยากนำมาใช้เป็นยารักษาโรคต่างๆ โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อให้สิ้นเปลืองก็ทำได้ แต่ถ้าหากคุณไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องสมุนไพรก็ต้องระมัดระวังให้มากหน่อย เพราะการเลือกใช้ส่วนต่างๆ อย่างเช่น ใบ ลำต้น ราก ของสมุนไพรไทยไม่ถูกต้อง ผลการรักษาอาจจะตรงกันข้าม ซ้ำร้ายมีพืชสมุนไพรหลากหลายชนิดและหลายส่วนที่อันตรายและต้องห้าม อาทิเห็ดป่าต่างๆ ที่อาจจะมีพิษ ยกตัวอย่างเช่นเห็ดระโงกหิน หรือ เห็ดไข่ตาก ที่มีหน้าตาคล้ายกับเห็ดที่ใช้รับประทานและใช้เป็นสมุนไพร แต่มีอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว เลือกใช้ให้เหมาะกับโรค ถึงแม้สมุนไพรไทยนั้นมีคุณประโยชน์ในการรักษาร่างกายแบบธรรมชาติ แต่ก็มีสมุนไพรบางชนิดที่มีทั้งประโยชน์และโทษในตัวเดียวกัน ดังนั้นเราควรทำความเข้าใจของกลุ่มอาการโรคเป้าหมายเสียก่อน เพื่อที่จะได้ตัดสินใจเลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง โดยตัวอย่างง่ายๆ ที่เรามักจะพบเจอเช่น กระเทียม ซึ่งช่วยลดไขมันในเลือด แต่ก็มีผลข้างเคียงคือ ทำให้เลือดออกง่าย ขิง สมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน ช่วยขับลมและกระตุ้นลำไส้ แต่ทานมากเกินไปก็ทำให้เกิดอาการร้อนใน และเสี่ยงให้เกิดการแท้งบุตรในผู้หญิงตั้งครรภ์อีกด้วย ดังนั้นทั้งความรู้และทัศนคติต่อการใช้สมุนไพรไทยจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถึงแม้จะเป็นพืชที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ถ้าหากเรานำมาใช้ไม่ถูกต้อง ก็มีสิทธิ์ให้โทษและอาจจะเป็นอันตรายได้เช่นกัน แต่หากคุณกำลังมองหาสมุนไพรไทยที่จะช่วยยับยั้ง สกัด และทุเลาอาการโรคริดคสีดวงนั้น เราขอแนะนำ สมุนไพรรักษาริดสีดวงชัยพฤกษาฒ สินค้าสมุนไพรอัดเม็ดแบรนด์ขับพฤกษา การันตีอาการริดสีดวงดีขึ้นภายใน 7 วัน สินค้ามีอย.รับรอง ถูกหลักอาการและยา สนใจสินค้า หรือรายละเอียดสินค้า ดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ สมุนไพรรักษาริดสีดวงชัยพฤกษา
จะขยับตัวไปทางไหนก็ปวดติ่ง เพราะเจ้าติ่งที่ว่านั้นก็คือ ริดสีดวงนั่นเอง หลายคนทานยาหมอแผนปัจจุบัน และลองสมุนไพรริดสีดวงหลากหลายชนิด ลองมาหลายอย่างแล้วก็ยังไม่หาย บอกได้เลยว่าสุดแสนจะทรมาน ใครไม่เป็นก็ไม่รู้หรอกว่าอาการและผลข้างเคียงจากริดสีดวงนั้นทำให้ทั้งเจ็บปวดและอับอายได้เพียงใด ถึงแม้ว่าโรคริดสีดวงนั้นไม่ได้เป็นโรคใหม่แต่อย่างใด แต่ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตในยุคเร่งรีบ รวมไปถึงความเครียด อาหาร และการนอนหลับของเราในปัจจุบันนั้นส่งผลทำให้ร่างกายภูมิต้านทานตกและเจ็บป่วยได้ง่าย จึงเป็นเหตุให้หลายคนประสบปัญหาในการขับถ่าย จนเกิดโรคริดสีดวงแบบแก้ไขไม่ได้ซักทีนั่นเอง รู้หรือไมว่า “โรคริดสีดวง” เป็นโรคที่มีการใช้ตำรับยาในสูตรสมุนไพรไทยมากที่สุด ดังนั้นแน่นอนเลยว่าต้องมีสมุนไพรริดดวงจึงมีหลากหลายชนิด และหลากหลายประเภทให้คนได้ลองใช้กันดู แต่ถ้าอยากรักษาอย่างเห็นผลแบบเลิกลองผิดลองถูก แนะนำว่าผู้ป่วยโรคริดสีดวงควรเริ่มสำรวจชีวิตประจำวันของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก เพราะการปรับพฤติกรรม หันมาดูแลเอาใจใส่ร่างกายของตนเองเป็นวิธีนี้ทำได้ง่าย และจะปรับสมดุลร่างกายทั้งหมดให้ดียิ่งขึ้น สำหรับทางเลือกในการรักษาในการรักษา เช่น การใช้พืชสมุนไพรริดสีดวงที่มีฤทธิ์บรรเทาอาการปวด สมานแผลบริเวณริดสีดวงแบบเห็นผล ซึ่งในบทความนี้จะมาแนะนำสมุนไพรริดสีดวงแบบทางเลือก โดยจะเน้นพืชสมุนไพรที่มีผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์รับรอง ทำให้ไม่ต้องมาเสียเวลาตามหายาที่ใช้ได้ผลหรือเจ็บตัว แถมเสียเงินเปล่าๆ อีกต่อไป สมุนไพรริดสีดวงทย มีผลวิจัยรองรับ จากข้อมูลงานวิจัยที่ลงในวารสาร Thai Pharmaceutical and Health Science Journal และวารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกพบว่าสมุนไพรริดสีดวงนั้นมีส่วนช่วยในการรักษาอาการริดสีดวงได้อย่างดีทีเดียว โดยหลายสูตรจะเป็นสูตรหมอชาวบ้านหรือสูตรท้องถิ่น ซึ่งส่วนประกอบหลักๆ ที่น่าสนใจจะมีอยู่หลายชนิดดังนี้ 5 สมุนไพรริดสีดวงขึ้นชื่อ กินแล้วดี มีอะไรบ้าง เพชรสังฆาต: เป็นพืชสมุนไพรที่มีลักษณะเป็นต้นเถาอ่อน มีสีเขียว แถมยังรักษาได้หลากหลายโรคอีกด้วย ที่สำคัญจัดว่าเป็นสมุนไพรริดสีดวงยอดนิยมเลยก็ว่าได้ เพราะมักจะถูกนำมาใช้เป็นตัวยาหลัก ที่สำคัญจากงานวิจัยพบว่าเพชรสังฆาตสามารถเยียวยาหลอดเลือดดำที่บวมอักเสบจากริดสีดวงได้เป็นอย่างดี มีการวิจัยทั้งในไทยและในต่างประเทศ โดยจากฐานข้อมูลของ Pubmed สหรัฐอเมริกา พบว่าเพชรสังฆาตนั้นมีคุณสมบัติในการเยียวยารักษาริดสีดวงได้ดีพอๆ กับยาแผนปัจจุบันอีกด้วย และสามารถเพชรสังฆาตทดเป็นสมุนไพรริดสีดวงที่ช่วยรักษาอาการริดสีดวงได้แทนยาดาฟลอน (Daflon) ซึ่งเป็นยาแผนปัจจุบันได้เลยทีเดียว อัคคีทวาร: ถึงชื่อจะไม่คุ้นหู แต่บอกได้เลยว่าอัคคีทวารถือเป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องสมุนไพรริดสีดวงอีกตัวที่นิยมนำมาใช้กัน เพราะมีคุณสมบัติในการต้านแบคทีเรีย แถมช่วยในการบีบตัวของลำไส้ ทำให้คนที่มักท้องผูกเป็นประจำขับถ่ายได้สะดวกมากขึ้น โดยจากการศึกษาวิจัยในเขตพื้นที่ตำบลสะลวง จังหวัดเชียงใหม่ พบว่าใบ ราก และต้นของอัคคีทวาร สามารถนำมาปรุงหรือมาทาแก้ริดสีดวงได้อีกด้วย ขลู่ อีกหนึ่งสมุนไพรริดสีดวง ที่ชื่อสั้นๆ แต่สรรพคุณแสนจะยาวเหยียด ถึงแม้หลายคนอาจจะไม่รู้จัก แต่จากข้อมูลวิจัยของ กลุ่มวิชาเภสัชเคมีและเทคโนโลยีเภสัชกรรมพบว่าขูล่นั้นช่วยในเรื่องการขับปัสสาวะ ช่วยลดไข้ และนำส่วนของใบขลู่มาคั้นเป็นน้ำเพื่อนำมาใช้รักษาริดสีดวง ที่สำคัญสามารถช่วยปรับสมดุลให้แก่ร่างกายได้อย่างดีอีกด้วย โกฐน้ำเต้า ถือเป็นสุดยอดสมุนไพรอีกตัวที่ถูกนำมาบรรจุในตำราแพทย์แผนไทยโบราณ เพราะมีสรรพคุณหลากหลายที่สำคัญและสามารถนำมาใช้เป็นสมุนไพรริดสีดวงได้เป็นอย่างดี โดยพบว่าโกฐน้ำเต้านั้นมีส่วนช่วยขับลมในลำไส้ ระบายท้องได้เป็นอย่างดี เมื่อระบายได้ดีก็สามารถลดไข้และบรรเทาอาการปวดริดสีดวงได้ เพราะการขับถ่ายเป็นการระบายความร้อน ทำให้สบายตัวมากขึ้น พริกไทย ดูเป็นสมุนไพรธรรมดาที่เราพบเห็นได้อยู่ทั่วไป โดยเฉพาะในมื้ออาหารแสนอร่อย แต่นอกจากจะช่วยปรุงรสชาติให้ดีขึ้นแล้ว พริกไทยยังเป็นสมุนไพรริดสีดวงขึ้นชื่อในการยับยั้ง และทุเลาอาการริดสีดวงทวารได้ดีอีกตัวหนึ่ง โดยข้อมูลจากการวิจัยของคณะแพทย์แผนไทย ม.สงขลานครินทร์ พบว่าพริกไทยออกฤทธิ์ช่วยยับยั้งในส่วนของการอักเสบได้เป็นอย่างดีทีเดียว โดยสมุนไพรริดสีดวงขึ้นชื่อทั้ง 5 ตัวนี้ เป็นสมุนไพรที่หาได้ไม่ยาก และสามารถปลูกไว้รอบบ้านได้ แต่หากท่านอยากจะได้สิ่งที่สะดวกกว่า ไม่ต้องปลูก ไม่ต้องรอโต เป็นสมุนไพรริดสีดวงที่สกัดจากสมุนไพรเด่นทั้ง 5 ตัวแบบพร้อมทาน เราขอแนะนำ สมุนไพรรักษาริดสีดวงชัยพฤกษา สมุนไพรอัดเม็ดทานง่าย ได้ประโยชน์ และราคาไม่แพง มีอย.รองรับ รับประกันทานแล้วอาการดีขึ้นภายใน 7 วัน สนใจรายละเอียดสินค้า หรือต้องการสั่งจอง ดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ สมุนไพรรักษาริดสีดวง ชัยพฤกษา
ทรมานจากการปวดติ่งอย่านิ่งนอนใจ ปล่อยเรื้อรังไป อาจเป็นมะเร็งจากริดสีดวง ความเสี่ยง ถ้าไม่รักษา โรคริดสีดวง ถึงแม้ทางการแพทย์และงานวิจัยจะพบว่าโรคริดสีดวง และโรคมะเร็งหรือโรคร้ายอื่นๆ นั้นยังไม่มีความสัมพันธ์กันอย่างชัดเจนมากนัก แต่จากข้อมูลการศึกษาหลายฉบับก็พบเจอว่า ผู้ที่เป็นมะเร็งในลำไส้บางคนนั้น เคยเป็นริดสีดวงมาก่อน แต่ไม่สามารถตรวจพบตั้งแต่ทีแรก ดังนั้นพอมาเจออีกทีก็สายเสียแล้ว ยิ่งสาเหตุและจุดเชื่อมโยงของทั้ง 2 โรคนั้น คล้ายคลึงจนน่าตกใจ ดังนั้นจะดีกว่าไหม ถ้าหากพวกเราดูแลตัวเองให้หายจากโรคที่ใครๆ ก็เป็นอย่าง “ริดสีดวง” ก่อนที่ร่างกายจะรวนและแย่ลงจนเซลล์ในร่างกายอาจจะเสี่ยงแปรเปลี่ยนไปเป็น โรคร้ายที่หาทางรักษาไม่ได้ รวมกันเป็นใน 1 แคปซูล ที่คิดค้น โดยแพทย์แผนไทยที่มีความเชี่ยวชาญ และมีความรู้ความเข้าใจทางด้านสมุนไพรโดยเฉพาะ เป็นการผลิตยาที่ดีจากสมุนไพร โดย กองควบคุมอาหารและยา จากกระทรวงสาธารณะสุข และผ่านการตรวจสอบตามหลัก GMP
ลองบรรเทาอาการปวดเอง หากยังเป็นริดสีดวงในระยะเริ่มต้น เราสามารถดูแลตัวเองได้ โดยแช่ในน้ำอุ่นอย่างน้อย 10 นาทีทุกวัน เพราะวิธีนี้จะสามารถลดอาการปวดได้ในระดับหนึ่ง แต่หากใครไม่มีอ่างน้ำ อาจจะประยุกต์ใช้ขวดน้ำแทนได้ โดยนำน้ำอุ่นใส่ขวดน้ำ แล้วก็นั่งบนขวดน้ำอุ่นเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด ซึ่งวิธีนี้จะเหมาะกับการลดอาการปวดสำหรับคนที่เป็นโรคริดสีดวงทวารภายนอกได้ แต่ถ้าปวดมากสามารถใช้ยาเหน็บยาทาหรือครีมที่ขายตามร้านขายยาเพื่อบรรเทาอาการแสบร้อนและคัน แต่แนะนำว่าให้ปรึกษาเภสัชกรเสมอก่อนเลือกใช้ยา เน้นทานอาหารที่เสริมไฟเบอร์ให้ร่างกาย วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายมาก เพราะเป็นการเริ่มต้นแบบพื้นฐานทางด้านอาหารเลย การทานอาหารที่มีเส้นใยสูงอย่างผักและผลไม้ จะช่วยสร้างกากใยและไฟเบอร์ และทำให้เราขับถ่ายได้สะดวก โดยผักใบเขียวหลากหลายชนิดมักมีปริมาณไฟเบอร์สูงอยู่แล้ว ส่วนผลไม้อย่างกล้วย แอปเปิ้ล มะละกอ ที่เราหาทานได้ทั่วไปก็เหมาะกับการเสริมไฟเบอร์ด้วยเช่นกัน การทานไฟเบอร์จะเป็นวิธีที่ทำให้ระบายท้องได้แบบธรรมชาติ ดังนั้นหากเราหมั่นทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงเป็นประจำทุกๆ วัน โอกาสในการเกิดอาการท้องผูกและนั่งนานก็จะดีขึ้น แต่ถ้าหากคนที่ทานผักผลไม้ไม่ได้เอาซะเลย จริงๆ อาจจะต้องใช้ตัวช่วยอย่างอาหารเสริมแบบไฟเบอร์ด้วยเหมือนกัน วิธีนี้ก็พอจะทดแทนกันได้ เพราะทำให้อุจจาระนิ่มลงได้ และช่วยทำให้ขับถ่ายได้สะดวกมากขึ้น ออกกำลังกาย เป็นอีกวิธีที่ง่ายอย่างเหลือเชื่อ โดยทางการแพทย์ค้นพบว่า การออกกำลังกายแบบแอโรบิคระดับปานกลางเช่น การเดินเร็ว เพียงวันละ 20–30 นาที ก็สามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ได้ เมื่อลำไส้เริ่มทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การถ่ายท้องก็เป็นไปอย่างง่ายดาย ทำให้ป้องกันอาการท้องผูกได้อย่างดีทีเดียว ห้ามอั้นอุจจาระ บอกไว้เลยว่าการอั้นอุจจาระส่งผลหลายอย่าง ดังนั้นเวลาปวดเมื่อไหร่ ให้ไห้องน้ำเพราะการอั้นบ่อยๆ จะมีผลจะทำให้การขับถ่ายเริ่มรวนได้ นอกจากนี้พยายามขับถ่ายให้เป็นประจำสม่ำเสมอจะดีที่สุด Reference: https://www.webmd.com/digestive-disorders/understanding-hemorrhoids-basics#1 https://www.healthline.com/health/hemorrhoids#treatment
เมื่อเราเข้าใจแล้วว่าริดสีดวงทวารเกิดจากอะไร ดังนั้นมาดูกันต่อเลยว่าริดสีดวงนั้นมีกี่ชนิด และอยู่ในระดับไหนกันบ้างแล้ว 1. ริดสีดวงทวารภายใน ริดสีดวงชนิดนี้เกิดขึ้นตามชื่อเลย เพราะจะเกิดขึ้นภายในทวารหนักส่วนล่าง สาเหตุคือ เกิดหลอดเลือดที่โป่งพองที่ภายใน แต่เนื่องจากส่วนนี้จะไม่โผล่ออกมาให้เห็น ไม่มีติ่งเราจึงไม่สามารถทราบได้แน่ชัด จะรู้ก็ต่อเมื่อไปหาหมอแล้วมีการส่องกล้องเท่านั้น โดยริดสีดวงภายในจะมี 4 ระยะด้วยกัน ระยะที่ 1 มีหัวริดสีดวง ยังไม่มีก้อนเนื้อยื่นออกมา เวลาถ่ายท้องอาจจะมีเลือดสดปนออกมา ระยะที่ 2 หัวริดสีดวงโผล่ออกมาขณะเบ่งหรือถ่ายอุจจาระ และหดกลับเข้าไปหลังถ่ายเสร็จ ระยะที่ 3 หัวริดสีดวงโผล่ออกมาขณะเบ่งหรือถ่ายอุจจาระ แต่ติ่งหรือหัวริดสีดวงจะไม่หดกลับเข้าไปเองหลังถ่ายเสร็จ จำเป็นต้องใช้มือดันช่วย ระยะที่ 4 หัวริดสีดวงโผล่ออกมาด้านนอก ดันกลับเข้าไปไม่ได้แล้ว เริ่มมีอาการปวดร่วมด้วย 2. ริดสีดวงทวารภายนอก ริดสีดวงชนิดนี้เกิดขึ้นภายนอกบริเวณผิวหนังหรือรอยย่นรอบทวารหนัก เราสามารถคลำเจอได้เอง ผู้ป่วยหลายคนมักมีอาการเจ็บปวดจากริดสีดวงชนิดนี้ แถมทำให้เกิดความกังวลและความเครียดมากอีกด้วย เพราะริดสีดวงภายนอกเป็นสิ่งที่ไม่สบายตัวเอาซะเลย เนื่องจากติ่งผิวหนังสัมผัสกับเสื้อผ้า บางทีก็สัมผัสน้ำและเหงื่อทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย ไม่ว่าจะลุกจะนั่งหรือทำกิจกรรมอะไรก็ไม่สบายกายสบายใจซักเท่าไหร่
แท้จริงแล้วมีอยู่หลายปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวาร ดังนั้นเพื่อการป้องกันเราควรระมัดระวัง ดูแลสุขภาพตนเองให้ห่างไกลจากอาการเหล่านี้จะดีที่สุด มีอาการท้องผูกบ่อยๆ ไปจนถึงเรื้อรัง แบ่งแรงในขณะถ่ายหนัก อ้วนมากหรือน้ำหนักตัวมากเกินไป นั่งถ่ายหนักเป็นเวลานาน ชอบใช้ยาถ่ายยาระบายบ่อยมากเกินไป อายุที่มากขึ้นทำให้เกิดความเสื่อมของกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดโป่งพองได้ง่าย การตั้งครรภ์ทำให้น้ำหนักของครรภ์กดทับบนกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือด กรรมพันธุ์หรือมีประวัติครอบครัวเกี่ยวกับโรคริดสีดวงทวาร
โรคริดสีดวง มักจะมาพร้อมกับอาการท้องผูกขับถ่ายลำบาก เริ่มขับถ่ายเป็นเลือด มีติ่งเนื้อออกมาจากทวารหนัก เป็นแผลทั้งในและด้านนอก สร้างปัญหากลุ้มใจให้กับเหล่าคนท้องไส้ไม่ค่อยดี แต่หลายคนสงสัยว่าอาการถึงขั้นไหนถึงจะเรียกว่าเป็นริดสีดวง ก่อนอื่นเลยให้สังเกตดูอาการเด่นๆ ตามนี้ เริ่มมีอาการคันมากๆ บริเวณรอบทวารหนัก ระคายเคืองและปวดรอบทวารหนัก มีอาการเจ็บปวดหรือบวมใกล้บริเวณทวารหนัก เกิดอาการถ่ายอุจจาระแบบผิดปกติ ท้องไส้แปรปรวน เริ่มรู้สึกปวดท้องบ่อยๆ จากลำไส้ที่เคลื่อนที่ผิดปกติ เริ่มมีอาการถ่ายเป็นเลือดออกในหลายๆ ครั้งเวลาที่ขับถ่าย ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นอาการเบื้องต้นที่เราทุกคนสามารถสังเกตได้ง่ายๆ ซึ่งจากสาเหตุเหล่านี้จะทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดดำที่ทวารหนักปูด ส่งผลให้ผนังหลอดเลือดปริแตกในขณะถ่ายทุกข์ เราจึงพบว่าหลายๆ ครั้งจะมีเลือดออกในขณะขับถ่ายบางคนอาจจะมีติ่งเนื้อออกมาด้วย ในขณะที่หลายคนสามารถเป็นริดสีดวงภายในแบบไม่มีติ่งได้เช่นกัน
สั่งซื้อ สมุนไพรรักษาอาการริดสีดวงทวารตรา ชัยพฤกษา
สั่งซื้อสินค้าแบบด่วน ส่งด่วนแบบชำระปลายทาง กรุณากรอกข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน เพื่อการจัดส่งที่รวดเร็วค่ะ
ชัยพฤกษาชนิดแคปซูลบรรจุกล่อง
สมุนไพรชัยพฤกษาชนิดแคปซูลแบบกระปุก 60 แคปซูล
เซ็ตเปิดใจทดลองคู่ พิชิตริดสีดวง
ขี้ผึ้งบรรเทาอาการปวดบวม แสบ คันหัวริดสีดวง
© 2024 GREAT HEALTH PRODUCTS CO., LTD. | ALL RIGHTS RESERVED.